คืนวันเสาร์ที่ผ่านมาแบรนดอนโดยขโมยเสื้อโค้คไป เขาทนรอ6วันเพื่อหวังว่าขโมยจะเมตตาเอาเสื้อโค้ดมาคืน แต่ไม่ เย็นวันหนึ่ง เวลา 5โมง43 นาที เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
5:43PM กรอกรายละเอียดของเสื้อโค้ตที่หาย ราคาที่ซื้อ ร้านที่ซื้อ เสร็จตอน 5:49PM เขาใช้เวลาต่่ออีก 61 วินาที อธิบายว่าเสื้อโค้ดหายไปได้ยังไงผ่านกล้องไอโฟน7 แล้วกด "ส่งข้อความ "
ขั้นตอนทั้งหมดคือขั้นตอนการเคลมประกันผ่านแอพประกันในมือถือ Lemonade ซึ่งไม่ต้องกรอกเอกสารใดๆเลย จากนั้นในอีก 3 วินาที ระบบแจ้งว่าได้โอนเงินเข้าบัญชีของแบรนดอนเรียบร้อยแล้ว และนั่นคือความเร็วระดับ World Record เร็วที่สุดตั้งแต่ Lemonade ดำเนินการมาหนึ่งปี
อะไรเกิดขึ้นระหว่างช่วง 5:49:07 ถึง 5:49:10? 3วินาทีดังกล่าว AI Jim หนึ่งใน AI ของ Lemonade ต้องทำงานดังนี้
- รีวิวเคลมของแบรนดอน
- เอาเคลมดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับรายละเอียดประกันที่แบรนดอนสมัครไว้ (ฺBlockchain Smart contact)
- รัน 18 อัลกอริทึ่มเพื่อป้องกันเคลมปลอม
- ตอบรับการเคลม
- ส่งคำสั่งโอนเงินไปให้แบรนดอน
ในประวิติการเคลมที่เกิดขึ้นในวงการประกัน 3000 ปีครั้งนี้เป็นครั้งที่เร็วที่สุด Lemonade อ้างว่าพยายามติดต่อ Guiness World Record เพื่อขอบันทึกสถิติ แต่ทางกินเนสบอกว่าไม่มีมาตรฐานในการวัดความเร็วในการเคลม เลยจดไม่ได้ และทั้งหมดนี้แบรนดอนเสียเงินไปน้อยกว่าประกันดั้งเดิมถึง 82% ไม่ใช่การเคลมทุกครั้งจะเร็วขนาดนี้แต่ AI ของบริษัทก็ยังเรียนรู้มากขึ้นๆทุกวัน ซึ่งตอนนี้วัดมาตรฐานความเร็วในการเคลมเป็นวินาทีแล้ว และชวนบริษัท Insurtech อื่นให้มาแข่งความเร็วกัน
อีกสองปัญหาที่คนไม่อยากเคลมประกันคือ Deductible กับ พอเคลมแล้วปีหน้าจ่ายประกันแพงขึ้น Deductible หรือเรียกว่า ค่าเสียหายประกันส่วนแรก อย่างเช่นถ้าเราทำกระกันภัยรถยนต์ 25,000 บาท เราขอจ่ายแค่ 20,000 บาท ส่วน5,000บาท ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงเราจะจ่ายเอง คราวนี้เวลาเคลมจริง ถ้าค่าเสียหายไม่เกิน 5,000 เราก็จะไม่ใช้ประกันที่สมัครมา อีกปัญหาคือพอเกิดการเคลมค่าเสียหายขึ้น ปีหน้าเราต้องจ่ายประกันแพงขึ้น ด้วยแนวคิดว่า คนที่ขับรถชนก็มีแนวโน้มที่จะชนอีกในอนาคต
ประเด็นดังกล่าวเกิดจากค่าดำเนินการเคลม ทั้งต้องจัดการเอกสารด้านการเคลม ต้องทำ paper ต้องส่งแฟกส์ ต้องโทรคุยยืนยัน ขั้นตอนทั้งหมดมันไม่คุ้มกับการเคลมประกันเล็กๆ Lemonade ใช้ AI กับ Chatbot ในการบริการลูกค้า จึงไม่มีค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ บริษัทจึงออกผลิตภันท์ใหม่ชื่อว่า Zero Everything คือไม่มี deductible และ จ่ายประกันเท่ากันทุกปี
Lemonade ต้องถือว่าเป็น Insurtech ที่ดังที่สุดในโลกตอนนี้ ด้วยเหตุผลที่ทำให้ทุกอย่างง่ายมากและได้ Dan Ariely นักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมมาออกแบบระบบ ทำให้คนใช้รู้สึกดี เช่น การที่เรามีประกันอยู่แล้ว lemonade ก็จะทำการเปรียบเทียบราคาให้ และ ถ้าเราสนใจ บริษัทก็พร้อมจะดำเนินการ"ย้ายค่าย"ให้ (ผ่านการคุยกับChatbot ไม่ต้องกรอกเอกสาร) เงินในเบี้ยประกัน ถ้าเราไม่ได้เคลม บริษัทก็จะให้เราเลือกว่าจะไปบริจาคให้องค์กรณ์การกุศลไหน ไม่เก็บเข้าบริษัท
ถ้ามีโอกาสจะมาเขียนถึงบริษัทinsurtechหนึ่งเดียวที่อยู่ในตลาดหุ้นครับ โมเดลธุรกิจไม่เหมือนกันเลยครับ
บอม DinoTech5.0
https://www.lemonade.com/
https://www.lemonade.com/blog/lemonade-sets-new-world-record/
https://www.lemonade.com/blog/zero-everything-zero-deductible/
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
