China ย่างก้าวสู่มหาอำนาจใหม่ของโลก The land of Dragon

ยุทธศาสตร์ 100 ปี ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศ ”ความฝันของชาวจีน” ไว้ในยุทธศาสตร์ 100 ปี ว่า 100ปี แรก คือ 100ปี ครบรอบพรรคคอมมิวนิสต์ (ปี 2021) “ ประเทศจีนจะปราศจากความยากจน“

อย่างน้อยที่สุดคือประชาชนต้องมีกินมีอยู่ และใน 100 ปีที่สอง คือ ช่วงครบรอบ 100 ปี สาธารณรัฐประชาชนจีน (ปี 2049) จีนตั้งเป้าหมายให้ประเทศเป็นสังคมที่อุดมสมบูรณ์มั่งคั่ง และมีการพัฒนาเจริญรุดหน้าไม่แพ้ชาติตะวันตก หากเราลองมองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่า หนทางแห่ง 100 ปี แรก มันยังดูเลือนรางเหลือเกิน ในขณะนั้นผู้ประกอบการประเทศไทยจำนวนไม่น้อยได้ย้ายฐานการผลิตไปที่จีน เหตุผลจากต้นทุนค่าแรงที่ถูกกว่า สินค้าที่ตีตราว่า made in china ยังไม่เป็นที่ยอมรับเพราะคุณภาพต่ำ และจีนแข่งขันกับตลาดโลกโดยการดั๊มราคาสินค้า แต่ในวันนี้จีนได้เปลี่ยนทิศทางการเดินเกมอย่างสิ้นเชิง ด้วยการส่งเสริมการศึกษาด้านเทคโนโลยี พร้อมการสนับสนุนเงินทุนอย่างไม่อั้นของรัฐบาลจีนให้แก่ธุรกิจเกิดใหม่ ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีในทุกด้านของจีนเติบโตอย่างรวดเร็วจนรุดหน้าเป็นเบอร์ 1 ของโลก ดินแดนมังกรกลับมาผงาดขึ้นอีกครั้ง

One Belt One Road – เส้นทางสายไหม กระดูกสันหลังของเศรษฐกิจจีน

จัดเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของจีน จีนได้พยายามเชื่อมต่อกับประเทศต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลกโดยการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทั้งทางบก น้ำ และอากาศ ที่เห็นเด่นชัดในหลายปีที่ผ่านมาคือระบบรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมต่อกันภายในประเทศและเชื่อมต่อไปยังทวีปต่าง ๆ ของโลก อนึ่งเพื่อให้ความเจริญเข้าไปสู่ประชาชนที่อยู่ห่างไกลตัวเมืองอย่างทั่วถึง และเพื่อระบายสินค้าที่ over supply ไปยังทั่วโลก เส้นทางสายไหมนอกจากจะมีความสำคัญด้านการค้าของจีนแล้ว ยังสำคัญต่อระบบพลังงานของจีนอีกด้วย เนื่องจากการขยายตัวที่รวดเร็วของเศรษฐกิจจีน ทำให้รัฐบาลของต้องจัดหาแหล่งพลังงานให้เพียงพอ เส้นทางสายไหมจะทำให้ระบบการขนส่งพลังงานมายังจีนเป็นไปได้ง่ายขึ้นและต้นทุนต่ำลง

เส้นทางสายไหมภายในประเทศจีน และเชื่อมไปยังทวีปต่าง ๆ

World's Technology Leader

ต่อมาจีนได้ตระหนักว่าการที่ประชาชนของตนผลิตสินค้าและแข่งขันด้านราคาอย่างเดียวมันไม่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน จีนจึงจะได้เปลี่ยนลุคของตนเองใหม่ โดยต่อไปนี้ จีนจะพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคที่จะผลิตสินค้าและบริการที่เป็นนวัตกรรม และจะต้องดีที่สุดในโลก เศรษฐกิจจีนจะเติบโตจากการขับเคลื่อนทางด้านเทคโนโลยีเพื่อไปถึงจุดนั้นจีนตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมภายในปี 2020 และจะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของโลกในปี 2030 รัฐบาลจีนได้ลงทุนใน R&D ทางด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และอัดฉีดงบประมาณสูงถึง US $203.2 billion (2014) ประมาณ 2% ของ GDP จีน ส่งผลให้ประเทศจีนมีจำนวนนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรเกิดขึ้นจำนวนมาก ส่วนทางด้านผู้ประกอบการของบริษัทต่างๆ ในจีนตอบรับที่จะให้ความสำคัญกับ R&D ไปในทิศทางเดียวกัน มีผลสำรวจว่ามากกว่า 62% ของผู้บริหารมีแผนที่จะใช้ 6% ของรายได้บริษัทในการ R&D ในขณะที่บริษัท Huawei ใช้งบประมาณประมาณ 12% ของรายได้ในการ R&D และแล้วเมล็ดพันธุ์ที่จีนหย่อนไว้เริ่มผลิดอกออกดอกออกผลแล้วในวันนี้

FINTECH OF CHINA – Revolution of Financial Service
 
ปัจจุบันจีนขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านการใช้ FINTECH มากที่สุดในโลก ซึ่งFINTECH ของจีนถูกนำไปใช้ในหลากหลายหมวดหมู่แต่แอดมินจะขอยก FINTECH ที่เป็นปัจจัยหลักในการผลักดันเศรษฐกิจของจีนให้เติบโตดังนี้


 
E-payment

หากเส้นทางสายไหมคือ กระดูกสันหลังของเศรษฐกิจจีน e-Payment หรือการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ก็เป็นเสมือนเลือดที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจของจีนนั่นเอง เพราะข้อดีของ E-payment คือ ทำให้ผู้คนซื้อง่ายขายคล่อง นอกจากจะเป็นส่วนช่วยผลักดันให้ E-commerce โตแล้ว e-payment จีนยังสร้าง fashion ใหม่ของโลก ที่เรียกว่า E-wallet คุณไม่ต้องใช้เงินสดเพื่อช็อปปิ้งอีกต่อไป แต่จะใช้ QR Code จากมือถือแทน แสกนปุ๊ป เงินวิ่งจากบัญชีผู้ซื้อไปยังบัญชีผู้ขายทันที ซึ่งปัจจุบันกระแส E-wallet ในจีนมีการผลักดันไปสู่ร้านค้าที่เป็น offline มากขึ้น กล่าวคือ ร้านค้าข้างทาง ร้านค้าในตลาดต่างๆ หรือ แม้กระทั่งขอทานในจีน ก็ใช้ QR Code ในการซื้อขายสินค้า ล่าสุด Alipay เพิ่งพัฒนาระบบการจ่ายเงินโดยใช้การสแกนใบหน้าซึ่งกำลังทดลองระบบใน KFC สาขาเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียงแล้ว

รัฐบาลจีน ให้ความสำคัญกับการผลักดันระบบ E-payment มาก เพราะเป็นการนำเงินสดเข้าสู่ระบบ สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินได้ง่าย และที่สำคัญคือ การหลีกเลี่ยงภาษีย่อมทำได้ยากขึ้น เมื่อรัฐบาลเก็บภาษีจากเงินที่ multiple ในระบบอย่างมหาศาลได้นั้น ย่อมนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและใช้จ่ายในด้านอื่นๆ เพื่อต่อยอดให้กับประเทศได้อย่างมาก คนจีนใช้ e-payment มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก ผ่าน wechat (Tencen), Alipay(Ant Finacial) และอื่นๆ เช่นUnionPay, ICBC e-wallet, JD Pay/Wallet (of JD.com) ประมาณ 40% ของประชากรจีน ใช้วิธีการจ่ายเงินแบบ E-payment เปรียบเทียบกับประเทศสิงค์โปร์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก ประชากรที่ใช้ e-payment มีแค่ 4% จนนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์เองยังยอมรับว่าระบบ e-payment ของสิงคโปร์ยังล้าหลังกว่าจีนมาก เปรียบเสมือนคนบ้านนอกกับคนกรุงเลยทีเดียว
 
E-commerce

หรือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ก่อให้เกิดระบบการค้าไร้พรมแดนของจีนทำให้ธุรกิจของจีนทั่วภูมิภาคของประเทศสามารถขายสินค้าไปได้ทั่วโลก โดยไม่มีหน้าร้าน และไม่ต้องพึ่งพาระบบพ่อค้าคนกลาง ยกระดับธุรกิจของจีนในทุกภาคส่วน แม้อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง E-commerce นอกจากจะเป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าแล้ว ยังเป็นการให้บริการทางการเงินออนไลน์แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมเงิน (peer to peer lending platforms) การซื้อขายธุรกรรมประกันออนไลน์ การลงทุน ล้วนทำได้ผ่านปลายนิ้ว e-commerce ที่เป็นกระแสโด่งดังที่สุดของจีนในตอนนี้คือ Alibaba ของ Jack Ma นั่นเอง
 
Supply chain and consumer finance

บริษัท E-commerce เข้ามาเป็นผู้เล่นหลักแทนธนาคารในการปล่อยกู้ให้กับ SMEs โดยการปล่อยกู้ให้กับ suppliers ที่เป็นคู่ค้า ของบริษัทโดยจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลการค้าบนแพลตฟอร์มของบริษัทตนเอง บริษัท e-commerce เหล่านี้ได้แก่ ได้แก่ Ant Financial และ MyBank (Alibaba) WeBank กับ WeChat (Tencent) JD Finance (JD.com) และ Gome Electronic Appliance ยกตัวอย่างเช่น บริษัท A เป็นคู่ค้าการซื้อ-ขายออนไลน์กับบริษัท Alibaba มียอดขายที่ดี มีประวัติทางการเงินที่ดี Alibaba ก็จะทำการเก็บข้อมูลเก็บไว้แล้วให้คะแนน หากบริษัท A ต้องการกู้เงินผ่าน MyBank ก็จะทำได้ง่าย และอนุมัติได้รวดเร็ว

Peer-to-peer (P2P) lending platforms

แพลตฟอร์ม P2P สร้างตลาดสำหรับเพื่อนฝูงที่จะให้กู้ยืมแก่บุคคลและ SMEs ที่ด้อยโอกาสจากระบบการกู้ยืมแบบดั้งเดิม(ระบบธนาคาร) เปิดโอกาสให้ชนชั้นล่างและชนชั้นกลางเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ผู้นำตลาดคือ Lufax (Ping An Insurance), Yirendai (CreditEase), Rendai, Zhai Cai Bao (Alibaba) และ Dianrong (ผู้ร่วมก่อตั้ง Lending Club) อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ P2P ได้ที่ DinoTech Stockbattle : ตอนธุรกิจแพลตฟอร์มอัจฉริยะปล่อยกู้-ยืมเงินไร้คนกลาง Peer-to-Peer (P2P) lending platform

Rising in Robotic

เพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดในวันข้างหน้า และเพื่อลดต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของจีน จีนได้นำเข้า Robotic มาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้จีนเป็นตลาดที่บริโภคหุ่นยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก และต่อมาจีนก็พัฒนาบทาทมาเป็นผู้ผลิตตลาดหุ่นยนต์เพื่อบริโภคและส่งออกเสียเอง โดยรัฐบาลจีนวางเป้าหมายที่จะผลิตหุ่นยนต์ที่มีตรา Made in China ให้ได้ถึง 100,000 ตัว ภายในปี 2020 (จาก33,000 ในปี2015) และมีนโยบายสนับสนุนให้บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์ หรือบริษัทที่ใช้ระบบอัตโนมัติในการประกอบอุตสาหกรรม สามารถขอกู้วงเงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ มีการผ่อนผันภาษี และเอื้อประโยชน์ในเรื่องของที่ดินปลอดค่าเช่า ด้วยการสนับสนุนเหล่านี้ทำให้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในจีนเติบโตอย่างรวดเร็วและมีข้อได้เปรียบกว่าคู่แข่งมาก
 
ในขณะที่จีนกำลังก้าวไปสู่มหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี จนมีความโดดเด่นบนเวทีระดับโลก แต่นักวิเคราะห์บางท่านก็ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตเศรษฐกิจของจีนว่าจะเป็นการสร้างฟองสบู่ที่รอวันแตกหรือไม่ จากโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลจีนอัดฉีดไปด้วยเงินมหาศาล ทำให้ทรัพย์สินต่าง ๆ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การกู้เงินของภาครัฐและเอกชนทำให้ประเทศจีนมีหนี้สินต่อ GDP ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ปัจจุบันอยู่ที่ 46.2%ของ GDP ) และการสนับสนุนเงินทุนจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ให้แก่ธุรกิจเกิดใหม่จำนวนมาก ก่อให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของจีน (NPL) สูงที่สุดในรอบ 11 ปี คือ 1.4 ล้านล้านหยวน หรือ 1.75% ของการปล่อยกู้ทั้งหมดของภาคธนาคาร ปัจจัยเหล่านี้จัดเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของรัฐบาลจีนที่จะสมดุลการเติบโตของเศรษฐกิจที่กำลังก้าวกระโดด กับการออกกฎระเบียบทางการเงินที่เคร่งครัดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับประเทศต่อไป

มองย้อนกลับมา แล้วประเทศไทย 4.0 ล่ะ จะไปถึงไหน??? หากหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนยังคงทำงานแบบ 0.1 เราก็คงได้แต่มองคนอื่นเค้าไกล ๆ ต่อไป

ผู้เขียน ไดโนล้านปี # Dinotech 5.0
 
 
ขอบคุณผู้สนับสนุน
https://line.me/R/ti/p/%40brandname3j 
Line ID:@brandname3j
- + - + - + - + - + - + - + - + - +
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"