Bitcoin ตัวกลางชำระเงิน หรือสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกใหม่ ความท้าทายที่ต้องจับตา

Bitcoin จากเป้าหมายทางเลือกของการชำระเงินสู่สินทรัพย์ลงทุนทางเลือกในปี 2021 Bitcoin เพิ่งผ่านการครบรอบอายุ 12 ปีเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน Bitcoin ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการเป็นตัวกลางการในชำระเงินรูปแบบใหม่ได้

แม้ Bitcoin จะมีจุดเด่นที่ดีกว่าตัวกลางการชำระเงินรูปแบบเดิม ทั้งมีการกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลาง ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีธนาคารกลางหรือตัวกลางอื่นๆ มาคอยควบคุม มีความโปร่งใสของธุรกรรม และมีความปลอดภัยสูงแต่ที่ผ่านมา Bitcoin กลับมีความผันผวนด้านราคาสูงจึงไม่เหมาะสำหรับการเป็นตัวกลางการชำระเงินรวมถึงรัฐบาลในหลายประเทศยังไม่ยอมรับ Bitcoin ในการเป็นตัวกลางการชำระเงิน
อย่างไรก็ดี Bitcoin กลับได้รับความนิยมในแง่ของสินทรัพย์ลงทุนทางเลือก สะท้อนจากเงิน Bitcoin ได้แข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยในรอบล่าสุดราคา Bitcoin ได้ทำสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์หากนับตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ราคาของBitcoin ได้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 500% ในบทความนี้จะวิเคราะห์สาเหตุที่ราคา Bitcoin สูงขึ้นในวัฏจักรล่าสุดซึ่งเหมือนหรือต่างจากวัฏจักรปี 2017 อย่างไร รวมถึงความท้าทายของ Bitcoin ในอนาคตที่จะเป็นตัวกลางการชำระเงินหรือสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกจะประกอบด้วยอะไรบ้าง
อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคา Bitcoin สูงขึ้นในวัฏจักรขาขึ้นล่าสุด?
เนื่องจาก Bitcoin มีจำนวนเหรียญคงที่ ทำให้ราคาของ Bitcoin สะท้อนจากความต้องการเป็นหลัก โดยผู้สร้าง Bitcoin ได้จำกัดจำนวนเหรียญในระบบทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนในระบบแล้วทั้งสิ้น 18.6 ล้านเหรียญ (คิดเป็น 89% ของจำนวนเหรียญทั้งหมด)ทำให้เคลื่อนไหวของราคา Bitcoin เกิดจากความต้องการ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเป็นหลัก ซึ่งในรอบนี้เราสามารถแบ่งกลุ่มผู้ที่ต้องการ Bitcoinออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. นักลงทุนรายย่อย
นักลงทุนรายย่อยมีบทบาทสำคัญต่อราคา Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญที่ผ่านมาราคา Bitcoin เทียบกับดอลลาร์สหรัฐจะสอดคล้องกับยอดค้นหาใน Google หรือจำนวนทวิตใน Twitter ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin มาโดยตลอด (รูปที่ 1ซ้าย) และในปี 2021 มีจำนวนทวิตต่อวันใน #Bitcoin สูงสุดถึง 2.1 แสนโพสต์ เทียบกับในปี 2017 ที่มีจำนวนทวิตสูงสุด 1.6 แสนโพสต์ สะท้อนว่าในวัฏจักรรอบนี้ผู้คนสนใจ Bitcoin มากกว่ารอบก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัดและสอดคล้องกับจำนวนบัญชี Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น
โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2021 จนถึงวันที่ 16กุมภาพันธ์ มีจำนวนบัญชี Bitcoin เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 5.5 แสนบัญชีต่อวันเทียบกับปี 2017 ที่มีจำนวนบัญชีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียง 3.9 แสนบัญชีต่อวันทำให้ในปัจจุบันมีจำนวนบัญชี Bitcoin ที่มีมูลค่าน้อยกว่า 1BTC (เทียบเท่ากับ 48,585 ดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2021) สูงถึง 95% ของจำนวนบัญชีทั้งหมด
สาเหตุหนึ่งที่นักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2017 เกิดจากการมีศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มากขึ้นในหลายประเทศ ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถทำธุรกรรมที่สะดวกขึ้น นอกจากนี้ ความนิยมของนักลงทุนรายย่อยที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งอาจมาจากการเข้ามาลงทุน Bitcoin ของบริษัทรายใหญ่และนักลงทุนสถาบัน ซึ่งยิ่งสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนรายย่อยในการลงทุนมากขึ้น
2. บริษัทขนาดใหญ่และนักลงทุนสถาบัน
ในช่วงวัฏจักรขาขึ้นในปี 2017 บริษัทและนักลงทุนสถาบันยังไม่มีบทบาทใน Bitcoin มากนัก แต่สำหรับปี 2021 บริษัทและนักลงทุนสถาบันหลายแห่งเริ่มให้ความสนใจ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เพิ่มขึ้นโดยมีสาเหตุหลักอยู่ 2 ประการดังนี้
- บริษัทขนาดใหญ่และนักลงทุนสถาบันมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกในภาวะที่ธนาคารหลักทั่วโลกผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2020 ธนาคารกลางหลักทั่วโลกปรับลดอัตราดอกเบี้ย และออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing: QE) จำนวนมากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับต่ำและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่า บริษัทขนาดใหญ่และนักลงทุนสถาบันจึงมองหาสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกอื่น ๆ ที่ไม่ถูกด้อยค่า (Devalue)
โดยนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ที่ผ่านมาสินทรัพย์ที่มีลักษณะดังกล่าวและได้รับความนิยมสูง คือ ทองคำ ซึ่งมีคุณสมบัติเก็บมูลค่าได้ มีจำนวนจำกัด และราคาสอดคล้องอัตราเงินเฟ้อ แต่การลงทุนในทองคำเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ซึ่งจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลและค่าขนส่ง จึงมีอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกับทองคำ คือ Bitcoin ซึ่งมีข้อได้เปรียบเรื่องการเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลจึงแทบไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
ขณะเดียว กันราคา Bitcoin ก็มีความสัมพันธ์อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในทิศทางบวกเช่นกัน ทำให้บริษัทขนาดใหญ่และนักลงทุนสถาบัน ที่มีสภาพคล่องทางการเงินสูงและไม่ต้องการให้เงินสดถูกด้อยค่า ให้ความสนใจลงทุนใน Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ตัวอย่างบริษัทที่เริ่มลงทุนใน Bitcoin เช่น บริษัท MicroStrategy ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจได้ถือ Bitcoin ไว้ราว 7 หมื่น BTC โดยเป็นเงินทุนสำรองของบริษัทเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และบริษัท Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รายงานว่าบริษัทวางแผนลงทุนซื้อ Bitcoin ด้วยเม็ดเงินมูลค่ากว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น
- บริษัทถือ Bitcoin เพื่อเป็นทางเลือกในการชำระเงินรูปแบบใหม่เพื่อรองรับการใช้จ่ายในรูปของสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ว่าปัจจุบันความต้องการ Bitcoin สำหรับการชำระเงินยังไม่แพร่หลายเป็นวงกว้าง แต่หลายบริษัทเริ่มขยับตัวเพื่อรองรับการชำระเงินด้วย Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ไว้ล่วงหน้า เช่น ในเดือนตุลาคม 2020PayPalผู้ให้บริการการชำระเงินรายใหญ่เปิดให้ผู้ใช้ซื้อสินค้าจากร้านค้าในเครือข่ายด้วยสกุลเงินคริปโท (Cryptocurrency) ได้
ในปัจจุบันสัดส่วน Bitcoin ของบริษัทขนาดใหญ่ และนักลงทุนสถาบันยังมีไม่มาก โดยกองทุน Bridgewater ประเมินว่าบริษัทและนักลงทุนสถาบัน ณ เดือนธันวาคม 2020ถือครองมูลค่าBitcoin อยู่ราว 10% ของมูลค่า Bitcoin ทั้งหมดในตลาดแต่บทบาทของบริษัทและนักลงทุนสถาบันในตลาด Bitcoin ยังถือว่าเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ซึ่งแนวโน้มในอนาคตยังต้องขึ้นอยู่กับความท้าทายของ Bitcoin ในระยะข้างหน้าด้วย
ความท้าทายสำหรับ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ในอนาคต
อนาคตของ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ยังมีความท้าทายอีกหลายประเด็นให้ต้องจับตามอง ทั้งสำหรับเป้าหมายที่จะเป็นตัวกลางการชำระเงินหรือสินทรัพย์ลงทุนทางเลือก โดยความท้าทายหลักที่ส่งผลต่อกำลังซื้อของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบด้วย
1. Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่เป็นตัวแทนการชำระเงินอื่นๆ จนถึงปัจจุบันBitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง และกำลังซื้อในอนาคตส่วนใหญ่ยังคงมีเป้าหมายเพื่อการเก็งกำไรอยู่ เมื่อเปรียบเทียบความผันผวนของสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ เช่น ทองคำ หุ้น หรือพันธบัตรรัฐบาล Bitcoin มีความผันผวน(Volatility) ที่สูงกว่าดัชนีหุ้น S&P500 ทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีอยู่ที่ 2, 4และ 14เท่าเป็นสาเหตุให้นักลงทุนสนใจลงทุนเพราะมีโอกาสทำกำไรได้สูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น (แต่ก็มีโอกาสขาดทุนสูงกว่าเช่นกัน)เมื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการถือครอง Bitcoin ในแต่ละบัญชีพบว่า ส่วนใหญ่ยังเป็นการถือครองระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี โดยในปี 2020 จำนวนบัญชีที่ถือครอง Bitcoin มากกว่า 5 ปีมีเพียง 22% ของจำนวนบัญชีทั้งหมด
ขณะที่ จำนวนบัญชีที่ถือครอง Bitcoin น้อยกว่า 1 ปีมีถึง 42% ของจำนวนบัญชีทั้งหมด สะท้อนว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังมอง Bitcoin เป็นการเก็งกำไรระยะสั้นมากกว่าการถือครองเพื่อสะสมความมั่งคั่งในระยะยาว (รูปที่ 1 ขวา) ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ Bitcoin ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจสำหรับการเป็นตัวแทนการชำระเงินหรือการสะสมความมั่งคั่งในระยะยาว และเป็นข้อจำกัดของการเข้ามาของบริษัทขนาดใหญ่และนักลงทุนสถาบันเป็นวงกว้างอย่างไรก็ดี ในอนาคตเมื่อมีผู้เล่นในตลาด Bitcoin เพิ่มขึ้นและมีสภาพคล่องที่มากขึ้นก็อาจมีความเป็นไปได้ที่ความผันผวนดังกล่าวจะลดลงในอนาคต
2. ความไม่แน่นอนในการกำกับดูแลจากภาครัฐ อนาคตของ Bitcoin ขึ้นอยู่กับการยอมรับ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลของภาครัฐในแต่ละประเทศทั่วโลก กำหนดนโยบายของแต่ละประเทศต่างต้องการให้ Bitcoin อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐมากขึ้น ซึ่งทางเลือกนโยบายที่เป็นไปได้ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ทางเลือก ได้แก่
1) ภาครัฐสร้างสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลที่ก่อให้เกิดความไว้วางใจในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
2) ภาครัฐไม่ไว้วางใจ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ จนนำไปสู่มาตรการขัดขวางการใช้สินทรัพย์ดังกล่าวหรือ
3) ภาครัฐสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง เพื่อเป็นตัวกลางการชำระเงินรูปแบบใหม่
ภาครัฐเริ่มยอมรับ Bitcoin ในแง่สินทรัพย์ลงทุนทางเลือกแต่ยังไม่ไว้วางใจให้ Bitcoin เป็นตัวกลางการชำระเงินในปัจจุบันภาครัฐมีมุมมองต่อ Bitcoin ออกเป็น2 รูปแบบตามวัตถุประสงค์ของการถือครอง ได้แก่สินทรัพย์ลงทุนทางเลือก กับตัวกลางการชำระเงินซึ่งภาครัฐมีนโยบายการกำกับทั้งสองรูปแบบที่แตกต่างกัน นั้นคือสำหรับด้านสินทรัพย์ลงทุนทางเลือก หลายประเทศเลือกใช้นโยบายทางเลือกที่ 1ที่ต้องการสร้างสภาพแวดล้อมการกำกับดูแล เพื่อให้ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกภายใต้การกำกับดูแลของรัฐเช่น สหรัฐฯ ยุโรป และไทย เป็นต้น
ในทางกลับกัน รัฐบาลส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับ Bitcoin สำหรับการเป็นตัวกลางการชำระเงินเนื่องจาก Bitcoin ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงอาจเป็นช่องโหว่ในการฟอกเงินหรือการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายได้ และการยอมรับ Bitcoin อาจหมายถึงการสูญเสียอำนาจในการกำหนดนโยบายการเงินในอนาคตได้ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลเลือกใช้นโยบายทางเลือกที่ 2 คือ ออกมาตรการขัดขวางการใช้ Bitcoin สำหรับการชำระเงิน หรือนโยบายทางเลือกที่ 3 คือ รัฐบาลแต่ละประเทศออกสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมาเอง เพื่อรวมข้อดีของเทคโนโลยี Blockchain ของ Bitcoin และเสถียรภาพด้านราคาของสกุลเงินดั้งเดิมเข้าด้วยกัน โดยไม่สูญเสียอำนาจในการกำหนดนโยบายการเงินอีกด้วย เช่น ธนาคารกลางจีนได้ออกเงินหยวนดิจิทัล ซึ่งผูกไว้กับเงินหยวนในอัตรา 1:1 เพื่อนำมาใช้แทนที่การใช้เงินในรูปแบบเงินสด เป็นต้น
ทั้งนี้ การกำกับดูแลจากภาครัฐที่เข้มงวดขึ้นอาจส่งผลดีในระยะยาวในแง่สินทรัพย์ลงทุนทางเลือกแต่การขัดขวางหรือการทำสกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาลอาจส่งผลให้บทบาทของ Bitcoin ในแง่ของการตัวกลางการชำระเงินลดลง ที่ผ่านมาราคา Bitcoin มีความอ่อนไหวกับมาตรการภาครัฐในทางลบค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระจากการกำกับของภาครัฐค่อนข้างมาก หากภาครัฐเข้ามากำกับดูแลมากขึ้น อาจทำให้ผู้ถือครองรายใหญ่เทขาย Bitcoin ออกมาจำนวนมาก ซึ่งสร้างความผันผวนแก่ตลาดในระยะสั้นแต่กฎระเบียบย่อมเป็นผลดีในระยะยาวต่อการยอมรับของบริษัทและนักลงทุนสถาบันในวงกว้างมากขึ้นในทางกลับกันมาตรการขัดขวางการใช้ Bitcoin และการทำสกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาลอาจส่งผลให้บทบาทของ Bitcoin ในแง่ของการเป็นตัวกลางการชำระเงินในระยะยาวลดลง จนทำให้กำลังซื้อ Bitcoin เพื่อใช้ในการชำระเงินลดลงในอนาคต
Bitcoinยังมีอายุไม่มากนัก ซึ่งยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกมากในการบรรลุเป้าหมายทั้งในแง่ของการเป็นสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกหรือตัวกลางการชำระเงินโดยการเข้ามาของบริษัทและนักลงทุนสถาบันในรอบนี้จะช่วยเร่งกระแสความนิยมของ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้สภาพคล่องในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสูงขึ้นจนสร้างเสถียรภาพราคาในตลาดได้และนำไปสู่เป้าหมายของการเป็นสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกหรือแม้กระทั่งตัวกลางการชำระเงินในอนาคตได้แต่ระหว่างทางยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากกฎระเบียบของภาครัฐแต่ละประเทศและการแข่งขันจากสกุลเงินดิจิทัลโดยรัฐบาลเอง
โดย : ชินโชติ เถรปัญญาภรณ์ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์
Source: การเงินธนาคารออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman

Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"