ดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น? ในสัปดาห์ที่แล้ว

ผมได้รับเชิญเป็นวิทยากรร่วมเสวนาในประเด็นเศรษฐกิจ ร่วมกับนักเศรษฐศาสตร์และนักการเงินชั้นนำ หนึ่งในคำถามที่ได้รับคือ.....คำถามที่ได้รับจากวงเสวนาคือ ผู้เขียนคิดว่าภาพความผันผวนที่เกิดขึ้นในโลกการเงินในช่วงต่อไปจะมีมากขึ้นหรือไม่

ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เปราะบางและสภาพคล่องที่อัดฉีดอย่างมหาศาล

คำตอบคือ ณ ปัจจุบัน ในมุมมองของผู้เขียน ภูมิลักษณ์เศรษฐกิจการลงทุนดูเหมือนจะ "ดีเกินไปที่จะเป็นจริง" หรือ Too good to be true ทั้งจาก (1) ภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำมากในปีก่อน (2) มาตรการการคลังมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดนที่กำลังจะเข้ามา ขณะที่มาตรการการเงินยังคงการอัดฉีด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐมองว่าเงินเฟ้อยังไม่ใช่ความเสี่ยง และ (3) พัฒนาการของวัคซีนที่แจกจ่ายและฉีดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ป่วยใหม่ลดลงทั่วโลก
สภาวะทั้งสามทำให้นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนจำนวนหนึ่งมองว่า เศรษฐกิจในระยะต่อไปจะร้อนแรงมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ประเทศพัฒนาแล้วเกิด Herd immunity หรือกว่า 70% ของจำนวนประชากรได้รับวัคซีน และ/หรือมีภูมิต้านทานแล้ว ซึ่งนั่นจะทำให้ภาคบริการสามารถเปิดได้มากขึ้น เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ซึ่งในมุมมองของผู้ที่มีความเชื่อดังกล่าว จะเห็นว่ามีหลักฐานสนับสนุนโดยเฉพาะจากราคาโภคภัณฑ์ ทั้งโลหะอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ทองแดง ดีบุก นิเกิล โคบอลท์ และน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ธัญพืชและสินค้าเกษตรกรรมต่าง ๆ รวมถึงสินทรัพย์ทางการเงิน ทั้งหุ้น หุ้นกู้ หรือแม้แต่สินทรัพย์ดิจิตอลอย่างบิตคอยน์และเงินดิจิตอลอื่น ๆ
ในมุมมองของผู้ที่เชื่อเช่นนี้ มองว่าเมื่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ทำให้ในที่สุดแล้ว ธนาคารของประเทศชั้นนำจะต้องลดทอนการอัดฉีดลง หรือขึ้นดอกเบี้ย อันเป็นผลให้ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ภาพเหล่านี้สะท้อนในผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว (Yield) โดยเฉพาะ 10 ปีสหรัฐที่เด้งขึ้นถึงประมาณ 1.6% ณ ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 1.4% แต่อัตราดังกล่าวก็นับได้ว่าปรับขึ้นสูงมากจากระดับ 0.9% ณ ปลายปีที่แล้ว และเป็นส่วนหนึ่งทำให้ Yield ของพันธบัตรทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น
ซึ่งผู้เขียนมองว่า ภาวะ Too good to be true และทำให้ผู้คนคาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นนี่เองที่จะเป็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจและการลงทุนในยุคถัดไป แม้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะออกมาตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุนว่าเศรษฐกิจยังคงเปราะบางและฟื้นตัวเต็มที่ และ Fed พร้อมที่จะทำนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่องก็ตาม
แม้ว่าล่าสุดผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐจะทรงอยู่ที่ระดับ 1.4% แต่คำถามคือ Yield จะปรับเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ และจะไปอยู่ที่ระดับใด และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกเพียงใด
เพื่อตอบคำถามนี้ ผู้เขียนจึงกลับไปพิจารณาแบบจำลองการคาดการณ์ผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งนอกจากจะนำปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ การขาดดุลการคลัง และความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจต่าง ๆ มาพิจารณาแล้ว ปัจจัยที่สำคัญอีกประการคือความชันของเส้นผลตอบแทน (Yield curve) ที่พิจารณาอย่างง่ายจากผลต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น (2ปี) และยาว (10ปี) (หรือที่เรียกว่า 2-10) ซึ่ง ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 1.3%
ผู้อ่านหลายท่านคงจำได้ว่า 2-10 นี้สามารถเป็นดัชนีคาดการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในอนาคตได้ โดยหาก 2-10 ติดลบเมื่อไร (หรือที่เรียกว่า Inverted Yield Curve: IYC) เป็นไปได้สูงว่าภายใน 1-2 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจจะเกิดวิกฤต ซึ่งใน 2 ครั้งก่อนเกิดขึ้นเมื่อปี 2000 และปี 2007 ก่อนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐในช่วงปี 2001 และวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในช่วงปี 2008 และในครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2019 ก่อนที่จะเกิดวิกฤต COVID ในปี 2020
แต่หากติดตามพัฒนาการของ 2-10 นี้ จะพบว่าหลังจากเกิด IYC แล้ว 2-10 จะเริ่มกลับมาเป็นบวกเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางเริ่มลดดอกเบี้ยระยะสั้นรุนแรงเพื่อยับยั้ง/ลดทอนผลจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจค่อย ๆ ฟื้นตัว ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้นจนไปถึงจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 2.75-2.9% ซึ่ง ณ ระดับปัจจุบันที่ 1.3% นั้น นับได้ว่าเป็นระดับกึ่งกลางแล้ว
และหากใช้แบบจำลองนี้ คาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีสหรัฐ ด้วยสมมุติฐานที่ว่า Fed จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0-0.25% ไปจนถึงปี 2023 เป็นอย่างน้อย (เนื่องจาก Fed ได้ปรับนโยบายการเงินใหม่ โดยจะใช้ค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อและการว่างงานเป็นเป้าหมายแทน ทำให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ช้าขึ้น) ทำให้ 2-10 น่าจะไปถึงจุดสูงสุดในวัฐจักรนี้ที่ประมาณปลายปี 2022 ที่ระดับประมาณ 2.8% ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี และ 2 ปี อยู่ที่ 3.05% และ 0.25% ตามลำดับ ขณะที่ ณ สิ้นปีนี้ จะอยู่ที่ 2.2% และ 0.18% ตามลำดับ
พูดอย่างง่ายคือ หากเชื่อในแบบจำลองนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสหรัฐ จะปรับขึ้นอีก 0.8% จากนี้ไปถึงสิ้นปี ซึ่งถือว่ารุนแรงมาก และกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างแน่นอน เพราะภาพของเศรษฐกิจและการลงทุนในปัจจุบัน ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ดอกเบี้ยซึ่งเป็นต้นทุนทางการเงินจะอยู่ในระดับต่ำอีกนาน ซึ่งหากดอกเบี้ยขึ้นเร็วกว่าที่ควรจะเป็น จะกระทบภาระทางการเงินทั้งต่อภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งมีหนี้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเพื่อประคองเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการดำรงชีวิตท่ามกลางวิกฤต COVID ในช่วงปีที่ผ่านมา
ผู้เขียนจึงเชื่อว่า ผลตอบแทนพันธบัตรอาจไม่ปรับขึ้นอีกมากนัก โดยเชื่อว่าระดับที่ประมาณ 1.5-1.7% เป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐ ณ สิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกรวมถึงไทยปรับขึ้นจากระดับปัจจุบันบ้าง โดยหากผลตอบแทนปรับขึ้นรวดเร็วรุนแรงเกินไป ธนาคารกลางอาจเริ่มเข้ามาบริหารจัดการไม่ให้ผลตอบแทนดังกล่าวรุนแรงเพื่อลดทอนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ
การบริหารจัดการดังกล่าว ถือได้ว่าเหมาะสมท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง หนี้ที่เพิ่มขึ้นมาก และเงินเฟ้อที่ไม่ได้สูงนัก (แต่ที่เพิ่ม ณ ปัจจุบันนี้มาจากปัจจัยชั่วคราวเป็นหลัก เช่น การขาดแคลนแรงงาน คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นชั่วคราว เป็นต้น) เพราะหากความคาดหวังเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยพื้นฐานยังอ่อนแอ อาจทำให้เศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น และฉุดรั้งการฟื้นตัวได้
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ครั้งนี้บ่งชี้ว่า ในระยะต่อไป ดอกเบี้ยขาขึ้นจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (แม้จะขึ้นไปไม่ได้มากก็ตาม)
นักธุรกิจและนักลงทุนทั้งหลาย โปรดระมัดระวังการก่อหนี้ในอนาคต
โดย ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-----------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman

Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex 

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"