เศรษฐกิจ ปี’64 ผันผวนหนัก วิกฤตเลิกจ้างลามไม่หยุด

เศรษฐกิจ ปี”64 เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน “ประธานสมาคมธนาคารไทย” ประเมินครึ่งปีแรกเจอศึกหนัก โควิดรอบใหม่ฉุดทุกอย่างลากยาว ลุ้นตัวช่วยวัคซีน “ทีเอ็มบี” ประเมินรัฐไม่ล็อกดาวน์สนิท จีดีพีโต 3.7% “ส่งออก-บริโภค” ตัวหลักขับเคลื่อน ท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น

การลงทุนต้องพึ่ง “รายใหญ่-ต่างชาติ” “กรุงศรีฯ” จับตามาตรการรัฐ หวั่น “แรงงาน” เจอผลกระทบเลิกจ้างระลอกใหม่

ปี”64 ความไม่แน่นอนสูงขึ้น
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพเศรษฐกิจไทยปี 2564 นี้ ยังมีความไม่แน่นอนและความผันผวนสูง โดยปัจจัยที่สำคัญยังต้องติดตามนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ตามมาด้วยปัจจัยเรื่องวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ว่าจะมาเมื่อไร และกระจายได้ทั่วถึงแค่ไหน นอกจากนี้ก็พิจารณาเรื่องการเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสามารถทำได้เร็วเพียงใด
“เศรษฐกิจปีหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 1-2 ครึ่งปีหลังน่าจะชัดเจนขึ้น ถ้ามีวัคซีนมาก็จะเสถียร ไม่ได้กลัวว่าโควิดจะมีผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ถ้ายังไม่มีวัคซีนก็ยังกังวลเรื่องล็อกดาวน์ เพราะประเทศเป็นแบบนี้ ต่อให้เปิดประเทศการเดินทางเข้ามาของต่างชาติก็ไม่มีอยู่แล้ว เพราะขนาดจะเดินทางข้ามจังหวัดยังเปลี่ยนใจ”
นายผยงกล่าวด้วยว่า ถ้าวัคซีนมีความชัดเจน หลังจากนี้ประเทศไทยต้องมาเร่งเรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศ จะสามารถทำได้เร็วแค่ไหนเป็นความท้าทาย เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยกระจุกอยู่กับภาคส่งออdและการท่องเที่ยว ซึ่งซัพพลายเชนการส่งออกหลาย ๆ อุตสาหกรรมก็เปลี่ยนไป เช่น รถยนต์อีวีที่ทำให้ซัพพลายเชนทั้งหมดเปลี่ยนไป เป็น “ความไม่แน่นอน” บน “ความไม่แน่นอน” ที่ต้องติดตาม
“ก่อนเกิดการระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่เริ่มจาก จ.สมุทรสาคร ปี”64รัฐบาลก็ตั้งใจที่จะเร่งเชิงรุกในเรื่องการลงทุน ซึ่งก็ต้องรอดูว่าอาจจะต้องขยับออกไปอย่างน้อย 1-2 ไตรมาส คือ เดิมเราคิดว่าถนนจะเรียบ แต่ตกหลุมอีก การระบาดรอบใหม่ในประเทศทำให้ทุกอย่างชะลอ เศรษฐกิจตกท้องช้างลากยาวออกไป” นายผยงกล่าว
ไม่ล็อกดาวน์จีดีพีโต 3.7%
นายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ไม่รุนแรงจนต้องล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวได้ 3.7% จากปี 2563 ที่คาดว่าจะหดตัว -6.7% ซึ่งถือว่าฟื้นกลับมาได้แค่ครึ่งเดียว
สำหรับตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักในปี 2564 จะเป็นการส่งออกที่คาดว่าทยอยฟื้นตัวกลับมา โดยคาดว่าส่งออกจะโตได้ 4.3% จากที่ติดลบในปี 2563 ซึ่งเซ็กเตอร์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังเติบโตได้ดี รวมถึงสินค้าเกษตรและอาหาร อย่างไรก็ดี ต้องจับตาว่าต่างประเทศมีมุมมองต่อสินค้าอาหารทะเลของไทยอย่างไร หลังเกิดการระบาดล่าสุด
ขณะเดียวกันการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นอีกตัวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยช่วงปลายปี 2563 ยอดซื้อรถยนต์ภายในประเทศฟื้นขึ้นมาเท่ากับช่วงก่อนโควิดแล้ว โดยในเดือน พ.ย.มียอดขายถึง 7.9 หมื่นคันต่อเดือน จากที่บางเดือนลดลงไปเหลือระดับ 3 หมื่นคันต่อเดือน
“ปี 2564 ถ้าไม่มีล็อกดาวน์ การบริโภคน่าจะกลับมาค่อนข้างดีที่ 3.2% จากปี 2563 ติดลบ 1.4% ซึ่งตัวนี้เป็นครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจไทยก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ เพราะเศรษฐกิจไทยตอนนี้ต้องพึ่งพาในประเทศมากขึ้น แต่หากมีการระบาดหนักขึ้นจนต้องล็อกดาวน์ก็คงต้องปรับลดประมาณการอัตราขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจลง แต่เชื่อว่าภาครัฐจะบริหารจัดการโดยพยายามจะไม่ล็อกดาวน์”
นายนริศกล่าวว่า สำหรับภาคการท่องเที่ยวในปีนี้ก็คงยังไม่สามารถฟื้นตัวได้มากนัก เนื่องจากการเดินทางจะยังไม่กลับไปเหมือนเดิม ประเมินว่านักท่องเที่ยวต่างชาติคงกลับเข้ามาไม่ถึง 8 ล้านคน อย่างที่ทางการประเมิน ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวก็จะยังได้รับผลกระทบ จากที่เคยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.9 ล้านล้านบาทต่อปี และนักท่องเที่ยวในประเทศ 1.1 ล้านล้านบาทต่อปี
“เอสเอ็มอี” ยังสาละวนแก้หนี้
ส่วนการลงทุนเอกชนน่าจะกลับมาเป็นบวกได้เล็กน้อย จากปี 2563 ที่ติดลบ 10% โดยเริ่มเห็นกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) กลับเข้ามา และบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยเริ่มกลับมาลงทุน ส่วนกลุ่มประกอบการเอสเอ็มอียังไม่เห็นสัญญาณการลงทุน เนื่องจากคงยังต้องสาละวนกับการปรับโครงสร้างหนี้
“การลงทุนก็คงต้องฝากไว้กับเอกชนรายใหญ่ กับการลงทุนจากต่างชาติ ส่วนเอสเอ็มอียังเหนื่อย ต้องเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้รอดก่อน ใครจะได้ไปต่อ ใครจะหยุดพัก ทางการจะช่วยใคร เพราะทรัพยากรมีจำกัด ซึ่งหมายความว่าจะไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้เท่ากันทุกคน ก็คงจะถึงจุดที่ต้องเลือก ขณะที่เอสเอ็มอีก็ต้องปรับตัว อะไรไม่จำเป็นก็ต้องตัดขาย ตัดทิ้ง ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อเก็บสภาพคล่องไว้ให้เพียงพอ” นายนริศกล่าว
ศก.ปี”64 ขึ้นอยู่กับโควิดรอบใหม่
ขณะที่ นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี) ระบุว่า ทิศทางเศรษฐกิจในปี 2564 จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ หากคุมกิจกรรมถูกต้อง เชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังไปได้ แต่ถ้าล็อกดาวน์แบบกดสนิทแบบรอบที่แล้ว จะได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งไม่ได้สนับสนุนให้ทำแบบนั้น
อย่างไรก็ดี หากสามารถบริหารจัดการและรักษาการติดเชื้อให้อยู่ในระดับทรงตัวได้ โดยเลือกกิจกรรมที่ทำได้และทำไม่ได้ เช่น กิจกรรมการค้าขาย กินข้าวนอกบ้าน ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรหยุด เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ ขณะที่กิจกรรมคอนเสิร์ต มหกรรมต่าง ๆ การสัมมนาที่มีการรวมตัวคนจำนวนมากอาจจะต้องงด แม้ว่าการหยุดกิจกรรมบางประเภทจะกระทบบางธุรกิจ เช่น ธุรกิจโรงแรม ซึ่งปัจจุบันค่อนข้างเหนื่อยอยู่แล้วให้เหนื่อยหนักมากขึ้น แต่เป็นการตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต
ผวากระทบแรงงานระลอกใหม่
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แรงขับเคลื่อนหลักสำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2564 ยังมาจาก “ภาคส่งออก” เป็นสำคัญ ขณะที่ปัจจัยในประเทศสิ่งที่ต้องจับตา คือ “การบริโภค” แม้ว่าจะขยายตัวได้ แต่เป็นการขยายตัวแบบเปราะบาง เพราะไม่ได้ขยายตัวจากทุกกลุ่มรายได้ โดยคนที่มีรายได้สูงจะเติบโตเร็วกว่า และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จะเป็นกลุ่มที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการส่งออก แต่ภาคบริการยังคงหนักและมีความเปราะบางสูง
ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์การระบาดรอบใหม่ หากมีการล็อกดาวน์รุนแรงและมีการหยุดกิจกรรมเศรษฐกิจจะกระทบผู้ใช้แรงงาน ซึ่งจะทำให้รายได้ถูกกระทบและมีความเสี่ยงที่ผู้ใช้แรงงานจะมีรายได้ลดลงและสูญเสียการจ้างงาน ตลาดแรงงานยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อเนื่องในปี 2564 รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์จะขยายวงกว้างขนาดไหน
“การทำนโยบายเศรษฐกิจ เราต้องตามดูว่าจะตอบสนองสถานการณ์ได้มากแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เห็นนโยบายที่ออกมารองรับเรื่องการประคองกำลังซื้อของคนผ่านเรื่องของเงินโอน หรือ “คนละครึ่ง” ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอดูนโยบายเรื่องการชะลอเลิกจ้างงาน ประคองการจ้างงาน เพราะเป็นนโยบายที่ควรจะต้องทำเพิ่มเติม หากมีการล็อกดาวน์กิจกรรม” นายสมประวิณกล่าวและว่า
ปีนี้ภาคธุรกิจยังต้องการสภาพคล่องเพื่อรักษาและประคองธุรกิจในช่วงที่มีการปิดชั่วคราว หรือประคองตัวในช่วงที่รายได้ไม่เหมือนเดิม โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่ทำให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้ตรงจุด จะสำคัญมากกว่าการลดดอกเบี้ย (หน้า 1, 4)
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"