ปีที่อยากลืม…แต่ลืมไม่ได้

ปี 2563 นับเป็นปีที่ยากลำบากและเป็นปีที่ยากจะลืมลง ความรุนแรงของการระบาดนับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี ส่งผลกระทบทั้งในแง่สุขภาพ และตอกย้ำความอ่อนแอของเศรษฐกิจที่มีอยู่เดิมก่อนปี 2563

อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สุดท้ายของปี 2563 เป็นปีที่หลายคนอยากลืม เพราะชีวิตคนทั้งโลกลำบากและมีการสูญเสียมากในปีนี้ ทั้งจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โรคระบาดที่มาจากไวรัสโควิด-19 พูดได้ว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี ยอดผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 1.7 ล้านคน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกถึงขณะนี้มีมากกว่า 79 ล้านคน ซึ่งสูงมาก
ในแง่เศรษฐกิจผลกระทบที่เกิดจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่จำเป็นต่อการหยุดการระบาดก็รุนแรง ประมาณว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวกว่าร้อยละ 4 ในปีนี้ เกิดปัญหาการว่างงานและความยากจนเพิ่มสูงขึ้น เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
แม้ 1 ปีกำลังจะผ่านไปแต่การระบาดก็ยังไม่หยุด ยังมีการระบาดรอบ 2 รอบ 3 ในหลายประเทศรวมถึงไทย ขณะที่ความหวังที่จะมีวัคซีนหยุดการระบาดก็ยังดูเลือนราง เพราะประสิทธิภาพของวัคซีนที่ผลิตขึ้นมามีความไม่แน่นอน นี่คือ สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นปีที่หลายคนอยากลืม และรอวันที่โลกจะกลับไปสู่ความปกติเหมือนที่เคยมีก่อนปี 2563
ในกรณีของเรา การสูญเสียชีวิตจากการระบาดมีน้อยโดยเปรียบเทียบ เพราะความสามารถในการควบคุมการระบาดทำได้ดีมากในช่วงต้น ทำให้ประเทศปลอดการระบาดในประเทศนานกว่า 5 เดือน ช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
แต่จากความอ่อนแอของเศรษฐกิจที่มีอยู่เดิมก่อนปี 2563 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากวิกฤติคราวนี้จึงรุนแรง หลายสำนักประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะหดตัวกว่าร้อยละ 6 และจะส่งผลกระทบไม่เท่ากันต่อคนในประเทศ ที่ถูกกระทบมากคือคนส่วนล่างที่มีรายได้หลักจากภาคบริการและท่องเที่ยว ทั้งแรงงานและผู้ประกอบการขนาดเล็กและย่อยที่ตกงาน ปิดกิจการ ขาดรายได้และต้องพึ่งความช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นหลักในการประคองชีวิต
สิ่งเหล่านี้ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นเป็นแบบตัวอักษร K คือเศรษฐกิจของคนส่วนบนที่มีงานทำมีธุรกิจก็ฟื้นตัวจากการใช้จ่ายที่เริ่มมีมากขึ้น เป็นส่วนบนของตัวอักษร K ชี้ไปทางขวา ขณะที่คนส่วนใหญ่การฟื้นตัวช้า เพราะตกงาน ขาดรายได้และยังต้องพึ่งความช่วยเหลือจากภาครัฐ เป็นส่วนล่างของตัว K ที่เศรษฐกิจยังเป็นขาลง นี่คือเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกลำบากในภาวะเศรษฐกิจขณะนี้
แต่สิ่งที่วิกฤติครั้งนี้ได้เปิดให้เห็นและลืมไม่ได้ก็คือ ความอ่อนแอหลายด้านที่ซ่อนอยู่ในเศรษฐกิจของเราที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัว วิกฤติคราวนี้จึง “เปิดหูเปิดตา”ให้เราเห็นถึงความอ่อนแอที่มีอยู่และเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้มากขึ้นในอนาคต ซึ่งหมายถึงการเติบโตของรายได้ของคนในประเทศที่สูงขึ้นกว่าเดิม
ความอ่อนแอแรกคือ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ประเทศมี ซึ่งก่อนโควิดความเหลื่อมล้ำที่เศรษฐกิจเรามีก็รุนแรงอยู่แล้วจนติดอันดับโลก ขณะที่ความยากจนเพิ่มสูงขึ้นสวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่สิ่งเหล่านี้ดูเป็นนามธรรม คือมองไม่เห็นความรุนแรงของปัญหาในภาวะที่เศรษฐกิจขยายตัว
แต่พอโควิดเกิดขึ้น ความรุนแรงของปัญหาก็ชัดเจนเมื่อคนในประเทศเกือบ 40 ล้านคนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐในประเทศที่มีประชากร 67 ล้านคน นี่คือข้อเท็จจริง ที่สำคัญวิกฤติโควิดจะทำให้ความเหลื่อมล้ำยิ่งรุนแรงมากขึ้น พร้อมจำนวนคนจนในประเทศที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก
ในทางเศรษฐศาสตร์ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศเราได้มาถึงจุดที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะถ้ารุนแรงกว่านี้ปัญหาก็จะเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศจะไม่มีการเติบโตของรายได้มากพอที่จะเป็นกำลังซื้อให้กับระบบเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำจึงจำเป็น เป็นสิ่งสำคัญและลืมไม่ได้
ความอ่อนแอที่สองคือ ประสิทธิภาพและความสามารถของระบบราชการที่จะสนับสนุนการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงที่ระบบเศรษฐกิจต้องมี เพื่อให้ประเทศสามารถแข่งขันอยู่ได้ในโลกธุรกิจหลังโควิด ที่จะเป็นโลกที่แข่งขันกันด้วยความรู้ เทคโนโลยี และคุณภาพของบุคลากรทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐ ก่อนโควิด ความไม่มีประสิทธิภาพและการทุจริตคอร์รัปชันในระบบราชการก็เป็นข้อจำกัดสำคัญของการทำธุรกิจในบ้านเราอยู่แล้ว
แต่ที่เราเห็นจากวิกฤติคราวนี้คือความกระตือรือร้นและความสามารถที่จะตอบสนองต่อนโยบายที่ต้องการการแก้ไขโดยเร็วกลับขาดหายไป เห็นได้จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างทันเวลา ทำให้การแก้ไขเศรษฐกิจอ่อนแรงและต้องพึ่งพามาตรการแจกเงินเป็นส่วนใหญ่
ผลคือความเสียหายต่อเศรษฐกิจอาจมีมากกว่าที่ควรเป็นจากความล่าช้าของการผลักดันนโยบาย นี่คือสิ่งที่ลืมไม่ได้และต้องแก้ไข นั่นคือการปฏิรูปการทำงานของระบบราชการ
ความอ่อนแอที่สามคือ ช่องว่างระหว่างสิ่งที่ภาคเอกชนควรทำเพื่อเตรียมให้ประเทศสามารถแข่งขันได้ในโลกธุรกิจหลังโควิดในแง่การลงทุนและนวัตกรรมกับสิ่งที่ภาคธุรกิจทำอยู่คือขยายธุรกิจผ่านการควบรวมซื้อกิจการที่ไม่ได้เป็นการลงทุนใหม่ คือเศรษฐกิจมีกำลังการผลิตเท่าเดิม เพียงแต่เปลี่ยนความเป็นเจ้าของ ไม่มีนวัตกรรมหรือสินค้าใหม่ๆ ที่จะแข่งขันกับตลาดโลกในอนาคต
ช่องว่างนี้เกิดจากระบบแรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด ที่เป็นผลจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมในประเทศไม่มีการพัฒนา ไม่มีนวัตกรรม ไม่มีการลงทุนใหม่ ไม่มีสินค้าใหม่ๆ ที่จะไปแข่งขันกับต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้ ขณะเดียวกันภาคธุรกิจโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ก็ได้รับการปกป้องในการทำธุรกิจในประเทศ จนทำให้การทำธุรกิจในประเทศมีการแข่งขันน้อย ธุรกิจขนาดใหญ่มีอิทธิพลมากจากสัดส่วนตลาดที่มีสูงและความใกล้ชิดกับผู้ทำนโยบาย
สิ่งเหล่านี้ทำให้การแข่งขันที่มีน้อยเป็นข้อจำกัดต่อผู้ประกอบการรายใหม่ ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจจากต่างประเทศ ผลคือไม่มีแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนในประเทศโดยผู้เล่นรายใหม่และเศรษฐกิจเสียโอกาส นี่คืออีกประเด็นที่ลืมไม่ได้และต้องแก้ไข เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาว
นอกจากความอ่อนแอเหล่านี้ สิ่งที่ลืมไม่ได้อีกอย่างก็คือผลระยะยาวที่วิกฤติโควิดจะมีต่อเศรษฐกิจของเราผ่านผลกระทบต่อคุณภาพของการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ จากการเรียนการสอนที่ต้องปิดและหยุดเรียนเป็นเวลานาน ทำให้เราอาจได้ผู้จบการศึกษาที่ขาดคุณภาพสวนทางกับโลกที่กำลังเปลี่ยนเร็ว ขับเคลื่อนโดยพลังของเทคโนโลยีทั้งในแง่อีคอมเมิร์ซ และการใช้เทคโนโลยีแก้ไขหรือลดต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นในภาคอุตสาหกรรม บริการหรือเกษตรกรรม
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ชี้ว่าความรู้และการใช้ความรู้จะสำคัญมากต่อการแข่งขันและการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงความยั่งยืนของเศรษฐกิจในแง่สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ทำให้การปฏิรูประบบการศึกษา จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
คำถามคือ เราจะเดินต่อไปอย่างไรหลังปี 2563 ทางเลือกที่มีคือ
1.พยายามกลับสู่โลกเดิมของการเติบโตแบบส่วนบนของตัว K ที่เศรษฐกิจพึ่งการส่งออกที่นับวันจะแข่งขันไม่ได้เพราะไม่มีนวัตกรรม พึ่งภาคท่องเที่ยวที่เราต้องแข่งด้วยราคาไม่ใช่คุณภาพ ขณะที่กำลังซื้อในประเทศอ่อนแอจากปัญหาความเหลื่อมล้ำ หรือ
2.สร้างความเข้มแข็งให้กับส่วนล่างของตัว K ที่เป็นคนส่วนใหญ่ด้วยการปฏิรูประบบการศึกษาและทักษะแรงงาน ทำระบบแรงจูงใจทางเศรษฐกิจให้ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการลงทุนและการจ้างงาน ทำให้การแข่งขันในประเทศเป็นธรรมมากขึ้น และปฏิรูปการทำงานของระบบราชการเพื่อไม่ให้เป็นข้อจำกัดจนเศรษฐกิจไม่มีการลงทุน
นี่คือโจทย์และการบ้านที่รออยู่
โดย บัณฑิต นิจถาวร | คอลัมน์ เศรษฐศาสตร์บัณฑิต
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คลิก

-----------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"