ส่องงบฯ 4 แบงก์ใหญ่ ทำไมกำไรหดยกแผง

ช่วงเดือนตุลาคม ธนาคารพาณิชย์ไทยทยอยแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ปี 2563 กันออกมาแล้ว โดยส่วนใหญ่ก็ออกมาตามที่มีการคาดการณ์กัน ว่ากำไรสุทธิของแบงก์จะยังคงชะลอตัว

ซึ่งเมื่อเข้าไปดูผลประกอบการของ 4 แบงก์ใหญ่ คือ ธนาคารกรุงเทพ (BBL), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ก็พบว่า เป็นไปตามที่มีการคาดการณ์กัน โดย 4 แบงก์ใหญ่มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 รวมกันอยู่ที่ 18,394 ล้านบาท ลดลงถึง 22,148 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวมกัน 40,542 ล้านบาท
ขณะที่กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของ 4 แบงก์ใหญ่ปีนี้อยู่ที่ 66,543 ล้านบาท ลดลงไป 50,132 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่อยู่ที่ 116,675 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ ลดลง 9,438 ล้านบาท
เริ่มจากธนาคารกรุงเทพ (รวมบริษัทย่อย) ที่มีกำไรสุทธิ 4,017 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 9,438 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนจำนวน 14,783 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27,814 ล้านบาท
โดยสาเหตุหลักเนื่องจากการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นเงินสำรองสำหรับความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของสถานการณ์ โควิด-19 ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน ก.ย.2563 ธนาคารกรุงเทพมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,367,296 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.6% จากสิ้นเดือน มิ.ย. 2563 จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล ขณะที่อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 4.1%
โดยมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตที่ 178% ส่วนเงินรับฝากมีจำนวน 2,821,883 ล้านบาท ลดลง 1.1% จากสิ้นเดือน มิ.ย. 2563 อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ 83.9% สะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอในการรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ด้านอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งหมดอยู่ที่ 17.6% อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.1% และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 14.2% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด
ไทยพาณิชย์ตั้งสำรองสูง-กำไรหด 69 %
ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ในไตรมาส 3 จำนวน 4,641 ล้านบาท ลดลง 69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,798 ล้านบาท เป็นผลจากการตั้งเงินสำรองปกติที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้ และการเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายการกำไรพิเศษครั้งเดียวจากการขายหุ้นในบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรสุทธิลดลง 56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 22,252 ล้านบาท ลดลง 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34,930 ล้านบาท
ทั้งนี้ ณ สิ้น ก.ย.2563 สินเชื่อโดยรวมของไทยพาณิชย์ขยายตัว 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 3% จากสิ้นปี 2562
โดยธนาคารได้ทำการประเมินคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดอย่างรอบคอบ เพื่อทำการจัดชั้นลูกหนี้เชิงคุณภาพในกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง และมีแนวโน้มสูงที่จะฟื้นตัวไม่ได้ภายใต้โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ณ สิ้นเดือน ก.ย.2563 อยู่ที่ 3.32% เพิ่มขึ้นจาก 3.05% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2563 (ณ สิ้นไตรมาส 2) เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและคุณภาพสินเชื่อที่อาจด้อยลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 12,955 ล้านบาท โดยอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูงที่ 146% ในขณะที่เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.7%
กสิกรไทย ลดลง 3,272 ล้าน
ด้านธนาคารกสิกรไทย (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวน 6,679 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,951 ล้านบาท และ กำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2563 จำนวน 16,229 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวด 9 เดือน ปี 2562 กำไรสุทธิลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิที่ 29,924 ล้านบาท จำนวน 13,695 ล้านบาท หรือ 45.77%
ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ธนาคารใช้หลักความระมัดระวัง อย่างต่อเนื่องในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss) เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 17,692 ล้านบาท หรือ 70.24%
เนื่องจากธนาคารคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ประกอบกับมาตรการของทางการที่ให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ยังคงต้องมีการติดตามดูแลคุณภาพหนี้อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ดี เฉพาะไตรมาส 3 ธนาคารกสิกรไทย ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ลดลงจำนวน 9,377 ล้านบาท หรือ 46.44% หลัก ๆ เกิดจากในไตรมาสก่อนได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระดับที่สูงไปแล้ว
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ก.ย. 2563 ธนาคารกสิกรไทย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,545,648 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 251,759 ล้านบาท หรือ 7.64% ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของสินเชื่อ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) อยู่ที่ระดับ 3.95% เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่อยู่ที่ระดับ 3.65%
ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 30 ก.ย. 2563 อยู่ที่ระดับ 161.12% จากสิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 148.60% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย ตามหลักเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 18.45% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.74%
กรุงไทย หดไป 3,057 ล้าน
ปิดท้ายทที่ธนาคารกรุงไทย (รวมบริษัทย่อย) ในไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร ลดลงเป็น 3,057 ล้านบาท หรือลดลง 51.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,355 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 12,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.6% เมื่อเทียบกับการตั้งสำรองในไตรมาสเดียวกันของปี 2562
ส่วนช่วง 9 เดือน กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร อยู่ที่ 13,279 ล้านบาท ลดลง 39.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 24,007 ล้านบาท เนื่องจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 35,649 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.7% จากค่าใช้จ่ายสำรองในช่วงเดียวกันของปี 2562
นอกจากนี้ NPLs Ratio-Gross อยู่ที่ 4.21% ลดลงจาก 4.33% ณ สิ้นปี 2562 ขณะที่อัตราส่วน Coverage Ratio เพิ่มระดับขึ้นเป็น 135.6% จาก 131.8% ณ สิ้นปีก่อน ด้านยอดสินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับสุทธิอยู่ที่ 2,149,620 ล้านบาท โดยธนาคาร (งบการเงินเฉพาะ) มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.01% และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงที่ 18.42% ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ของ ธปท.
ทั้งนี้ การที่กำไรของแต่ละแบงก์ลดลงไปค่อนข้างมาก ล้วนเกิดจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น เพื่อรับมือความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้านั่นเอง
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"