มันจะมีบางช่วงเวลาในประวัติศาสตร์โลกครับ ที่เราจะเห็นว่าคนเริ่มมองไปข้างหน้า แล้วให้น้ำหนักกับบริษัทเทคโนโลยี โดยตั้งความหวังไว้ว่า โลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ากำลังจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ซึ่งถ้ามองในจุดนี้เราจะมีบริษัทอันดับหนึ่งเลย

ที่สามารถยกตัวอย่างได้ นั้นคือ Tesla เนื่องจากตอนนี้เทสล่านั้น ไม่ได้มีให้เห็นตามท้องถนนขวักไขว่ เรายังใช้ Toyota Honda กันเสียมากกว่า แต่ถ้ามามองในตลาดหุ้น ซึ่งในที่นี้เปรียบเหมือน "เครื่องกดโหวด" ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง เราจะเห็นบางอย่าง เข้าเรื่อง 

TESLA แพง แค่ ไหน !!!!!!!!!
มูลค่าตลาดตอนนี้บวมขนาดไหน?
ตอนนี้มูลค่าหุ้น Tesla นั้นอยู่เหนือบริษัทใดบริษัทหนึ่งไปแล้ว แล้วจริงๆมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าดัชนีรถยนต์ในยุโรปทั้งหมด อยู่เหนือกว่ามูลค่าดัชนีรถยนต์ในอเมริกาทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นเท่านั้นที่ยังมากกว่า
VS CISCO 1999
เมื่อถามว่าในอดีตเคยมีบริษัทที่ราคาหุ้นขึ้นมาแบบ Parabolic move ไหม? (ราคาเล่นบันจี้จั้มป์)หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือตอน DOTCOM bubble ในปี 1999 ครับ ตอนนั้นเป็นช่วงที่วิกฤติเศรษฐกิจเกิดจากมูลค่าหุ้นในตลาดนั้นไม่สะท้อนความเป็นจริงเท่าไหร่ การเร่งตัวของเทคโนโลยีเกิดใหม่อย่าง Internet นั้น ทำให้บริษํทอย่าง CISCO ขึ้นจากราคา $20 ขึ้นไปสี่เท่าตัวไปจบที่ราคา $77 ก่อนจะร่วงอย่างรวดเร็วมาจบที่ $13 และยังไม่กลับไปที่เดิมแม้จะผ่านไปแล้ว 20 ปี
ในกรณีของ Cisco ที่ให้บริการด้าน Internet และการสื่อสารทั้งด้าน Hardware และ Software เมื่อดูราคาหุ้นต่อรายได้ จะเห็นว่า Tesla ยังมีช่องให้ขึ้นไปได้อีก แม้ภาพ ราคาหุ้นต่อเงินสด จะใกล้เคียงกันซึ่งภาพที่ใกล้เคียงกันนี้ส่อให้เห็นถึง ความไม่สมเหตุของราคาหุ้น ซึ่งมันก็มีโอกาสไปได้ทั้งสองทาง
คือในอีกหลายปี Tesla อาจจะไปใน Way Cisco คือเหตุการณ์ในช่วงนั้น คุณ Alan Greenspan ประธาน Fed ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงตลาด เมื่อบริษัทเกิดใหม่ต่างๆล้มหายตายจากไป ความต้องการในการขยาย Network ก็น้อยลงไปด้วย ทำให้ Cisco ไม่มีโอกาสในการขยาย Network ต่อ
หรืออาจจะเป็นอีกทางคือ Tesla อาจมีรายได้ใหม่ๆเข้ามาจนราคาหุ้นกลับมาสะท้อนความเป็นจริง เนื่องจากตอนนี้รถ BEV นั้นคิดเป็นสัดส่วนแค่ 1.4%ของรถทั้งหมดเท่านั้น
ขวัญใจ ROBINHOOD
Source: robintrack.netเวลาที่ผ่านมา ทำให้เด็กรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ด้วยค่าซื้อขายหุ้นที่ถูกลง เปิดบัญชีไม่ยาก ใช้เงินเริ่มต้นไม่เยอะ การโตขึ้นของบัญชี Robinhood ซึ่งเป็น Platform ซื้อขายหุ้นของคนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับการดันราคาหุ้นของ Tesla มาก โดยสมาชิกซื้อขายหุ้น Tesla เยอะเป็นอันดับหนึ่ง
เรื่องนี้ดันให้ขา Short ล้มละลาย จำนวนshortหุ้นในตลาดลดลงอย่างมาก เนื่องจากราคาหุ้นที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บัญชี Short ถูก Force Sale จากจำนวน 43ล้าน เหลือเพียง 13ล้าน
งบอาจไม่ได้สวยจริง
ยอดขายล่าสุด มากจากสิ่งที่เรียกว่า Regulatory Credit
Regulatory Credit คือแต้มที่มลรัฐหรือรัฐบาลกลางให้กลับบริษํทเอาไว้ ในฐานะที่บริษํทไม่ได้สร้างมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม ((Zero Pollution to the environment) เครดิตนี้นำไปขายให้บริษัทอื่นซื้อต่อได้
งบล่าสุดที่ออกมา รายได้ที่มาจาก Regulatory Credit มีถึง $428ล้าน เปรียบเทียบกับรายได้ 104ล้าน ถ้านำรายได้ตรงส่วนนี้ออกไปในงบ 26 ไตรมาศที่ผ่านมา มีเพียงสี่ไตรมาสที่ Tesla ทำกำไรได้จริง โดยไม่ต้องพึ่งส่วนนี้ ซึ่งไตรมาสล่าสุดคือ ไตรมาส3ปีที่แล้ว
ตรงนี้อาจจะสื่อได้ว่า Tesla นั้นมีรายได้จากในส่วนของขายรถ จากการที่รัฐสนับสนุน ถ้าตัดเรื่องนี้ออกไป แรงจูงใจในการซื้อรถไฟฟ้าของ Tesla จะลดลงขนาดไหน
ส่วนตัวผมว่า Tesla เป็นกระแสไปแล้ว เขาคือตัวแทนของเทคโนโลยีรถยนต์ ฝังเข้าไปในหัวคนเรียบร้อยแล้ว คงมีจำนวนลดลงแต่คงไม่ขนาดขายลดไม่ได้เลย
Tesla: Excuse Me, 1999 Is Calling (NASDAQ:TSLA)
Source: pcmag.com Today, I will highlight the similarities and differences between Tesla ( TSLA) and Cisco ( CSCO) so…seekingalpha.com
แล้วถ้าเรามองไปข้างหน้าเทคโนโลยียังไม่สุด ที่ต้องจับตาดูคือ แบตเตอรี่
โครงสร้างราคาของรถ EV เปรียบเทียบกับรถน้ำมัน ยังมีส่วนที่มองแล้วคลุมเคลือว่าเงินที่เราจ่ายไปมันคุ้มค่าไหม เพราะถึงค่าไฟในรถ EV จะถูกกว่า แต่เมื่อผ่าน 1.6ล้านกิโลเมตรหรือเกินระยะ Warranty 8 ปี ก็มีแนวโน้มที่รถจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่อีกครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ไม่ถูก อาจจะแพงเกือบเท่าซื้อรถน้ำมันสักคันเลยทีเดียว ถ้าแบบนี้เช่าแบตเตอรี่ จ่ายเดือนละ5,000บาทหละ
Batteries As A Service
ในจีนเขามีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า Battery Swapping ครับ หรือการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในรถ EV แทนการต่อแถวรอเสียบสายชาร์ทครับ ระบบนี้ตอนนี้พัฒนามาจนมันอัตโนมัติทั้งระบบแล้วครับ แค่ถอยรถเข้าไปจอด แล้วรอ 5นาที จบครับ ไม่ต้องชาร์ทไฟเอง ไม่ต้องรอเสียบสายชาร์ทครึ่งชั่วโมง
เมื่อการเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นง่ายขนาดนี้ เลยมีบริษัทอย่าง NIO ซึ่งเป็นบริษัทรถไฟฟ้าเจ้าใหญ่ ร่วมกับ CATL ผู้ผลิตแบเตอรี่เจ้าใหญ่ ออกสิ่งที่เรียกว่า Battery as a service ครับ นั่นคือเราสามารถที่จะซื้อรถต่างหากโดยไม่มีแบตเตอรี่ ทำให้ราคารถยนต์ถูกลง 350,000 บาท แล้วถ้าเราจะใช้แบตเตอรี่ ก็ใช้ผ่านการเช่าแบตเตอรี่ขนาด 70 kWh เดือนละ 5,000 บาทแทน โมเดลนี้ทางการยอมรับแล้ว โดยทาง ศูนย์พัฒนารถพลังงานใหม่ (์National NEV ) ได้รวมการซื้อรถยนต์เปลียนแบตได้ เข้าอยู่ในแผนที่ประชาชนสามารถซื้อโดยรัฐให้เงินสนับสนุนได้ แต่รถยนต์ที่ซื้อต้องราคาเกิน 1.5ล้าน ผลก็คือในวันที่เขียนนี้ ราคาหุ้น NIO นั้นพุ่งทะยาน All time high เข้าสู่จุดที่ผมว่าแพงมากสำหรับบริษัทที่ยังไม่ได้ทำกำไร
อย่างไรก็ดีผมว่าโมเดลนี้น่าสนใจ NIO นั้นมีสิทธิบัตรเกี่ยวกับเรื่อง Battery Swaping ถึง 1200 ฉบับ และกำลังติดตั้งศูนย์เปลี่ยนแบตเตอรี่ทั่วประเทศ มีการเปลี่ยนแบตไปแล้ว 800,000 ครั้ง และด้วยโมเดลนี้เขาเคลมว่า สามารถทำให้รถไฟฟ้าถูกกว่ารถ ICE ในระดับเดียวกันได้แล้ว แต่ผมคิดว่าโมเดลนี้ยังไม่สุด เอาจริงๆ ใครจะซื้อรถยนต์โดยไม่มีแบตเตอรี่ หรือ ถ้าเดือนที่เราไม่ใช่ เราก็ไม่สามารถไปถอดแบตเตอรี่ออกแล้วจอดไว้ตรงนั้นได้ รถยนตืไฟฟ้าสมัยนี้มันก็เป็นโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่อยู่แล้ว ควรทำเป้นโมเดลราคาตามจำนวนการใช้มากกว่า แต่ว่าโมเดลนี้ก็เป็นโมเดลที่ดีมาก และผมคิดว่ามาถูกทาง
NIO Launches Battery as a Service
Enabled by vehicle-battery separation, battery subscription and the chargeable, swappable and upgradable batteries, NIO…www.nio.com
ยังมีอีกทางที่จะออกมาได้ คือแหล่งพลังงานใหม่ ที่จะทำให้รถไฟฟ้าที่มีในปัจจุบันตกยุคเร็วขึ้น ซึ่งขอยกตัวอย่างแหล่งพลังงานที่ผมสนใจครับ เอามาจากสิ่งที่ไม่มีใครต้องการครับ
New Clear Waste Battery
ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เมื่อผลิตพลังงานออกมาได้แล้ว ก็จะมีกากนิวเคลียร์เหลือออกมา ซึ่งจำเป้นจะต้องเก็บรักษาไว้ใต้ดินถึง 1พันปี จนกว่ากว่าปล่อยรังสีจะหายไป ซึ่งผมก็เพิ่งทราบเหมือนกัน ตอนนี้มีกากนิวเคลียร์ถึง 34ล้านลูกบาทเมตรที่ต้องกำจัด มีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บมากกว่า $1แสนล้าน เจ้าพวกกากรังสีเหล่านี้ส่วนใหญ่คือ Graphite ซึ่งใน โครงสร้าง Carbon-14 ของ Graphite ก็มี Electron ซึ่ง NDB บริษัท Start Up ที่ศึกษาเรื่องนี้คิดว่าสามารถสกัดพลังงานไฟฟ้าจากสิ่งนี้ออกมาเป็นแบตเตอรี่ในรูปแบบของถ่านไฟฉาย AA หรือ AAA ที่มีอายุการใช้งานได้มากกว่า 90 ปี และด้วย Graphite เหล่านี้ถูกเคลือบด้วยเพชร มันจึงยากมากที่จะทำลายเปลือกนอกและทำให้รังสีรั่วออกมา ผมมองว่าเทคโนโลยีนี้ถ้าทำได้จริง จะน่าสนใจมาก เพราะแทบไม่มีข้อเสียเลย รัฐของประเทศที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ต้องใช้เงินภาษีประชาชนมหาศาลมาใช้จ่ายในการเก็บรักษากากนิวเคลียร์เหล่านี้ อีกอย่างการครอบครองแหล่งพลังงานมหาศาลขนาดนี้เอาไว้ ถ้าเอามาทำเป็นประโยชน์ได้ ก็สามารถทำให้ประเทศอยู่ในอำนาจหรือขึ้นมามีอำนาจต่อไป เพียงแต่เราจะเอาสิ่งนี้มาใช้ให้มันปลอดภัย ห่างไกลจากการก่อการร้ายได้จริงไหม แต่ถ้าทำได้ และเอามาใส่ในรถยนต์จริงๆ ก้อยู่ที่ว่าค่ายไหนจะทำก่อน ซึ่งค่ายที่ตามมาทีหลังก็จะสูญเสียการแข่งขันไป
แต่ในอีก 20 ปี TESLA NIO จะหายไปไหม
ผมว่าก็เหมือน CISCO บริษัทเหล่านี้สร้าง "MOTE" เสริ่มความแข็งแกร่ง มีจุดที่ แม้คู่แข่งอยากทำก็ทำไมได้ ในแง่ราคาหุ้น อาจจะมีการเหวี่ยง และคาดเดาได้ลำบาก แต่ในแง่เทคโนโลยี Brand ตอนนี้รถยนต์อย่าง TESLA ซึ่งตอนนี้มีเทคโนโลยี Battery และการประกอบรถยนต์ที่เหนือคู่แข่งหลายขุม (เหนือกว่าอย่างน้อย 2 ปี) ถ้าเรามองไปในอนาคต ผมจึงคิดว่ายากที่เราจะไม่เห็นรถยนต์ Tesla อีกในอนาคต แม้ว่าตอนนั้น เจ้าของบริษัทจะคือใคร NIO ก็เช่นกัน ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นของบริษัทนี้ ผมไม่แน่ใจเขาจะยังอยู่ได้ไหม แต่เขาก็มีเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง สร้างสิ่งที่เราไม่เห็นตอนนี้ในโลก แต่ที่แน่ใจคือถ้าเรามองถนนในทุกวันนี้ คงเหมือนกับมองม้าและรถรางวิ่งบนถนนในปี 1917 ครับ
บอม
คลิก

Cr.DinoTech5.0
--------------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you