ภารกิจ ‘แบงก์ชาติ’ อุ้ม ‘ลูกหนี้’ ฝ่าวิกฤติโควิด

วิกฤติเศรษฐกิจรอบนี้ เป็นวิกฤติที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น เป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะเกิดจากโรคระบาดทำให้ต้อง “ปิดเมือง” เพื่อหยุดยั้งการแพร่เชื้อ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงแบบฉับพลัน

แต่ด้วยความที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กำกับดูแลสถาบันการเงินอย่างเข้มงวดมาตลอด ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกรูปแบบ และเตรียมตัวมาอย่างยาวนาน หลังได้บทเรียนจากวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ทำให้สถาบันการเงินไทยเวลานี้มีความเข้มแข็งเพียงพอ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
ในวิกฤติทุกครั้งจะเห็นว่า “คน” มักแห่ไปถอนเงินออกจากสถาบันการเงิน ตัวอย่างในปี 2540 คือ ภาพที่ชัดเจน ...แต่วิกฤติครั้งนี้ คนส่วนใหญ่กลับถอนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อนำเงินมาฝากไว้กับสถาบันการเงินแม้จะได้ดอกเบี้ยน้อยนิด เรื่องนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังให้ความมั่นใจต่อสถาบันการเงินไทยอย่างดี แต่ไม่ว่าสถาบันการเงินจะแข็งแกร่งแค่ไหน หากปล่อยให้ลูกหนี้ที่มีปัญหาทั้งหมดล้มไปโดยไม่ช่วยเหลือ สถาบันการเงินเหล่านั้นก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นวิกฤติในคราวนี้เราจึงเห็นความช่วยเหลือพุ่งเป้าไปที่ตัว “ลูกหนี้” มากกว่า “เจ้าหนี้”
"รณดล นุ่มนนท์" รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” โดยยืนยันว่า สถาบันการเงินไทยในปัจจุบันยังมีความเข้มแข็งและมั่นคงอย่างมาก สะท้อนจากระดับเงินกองทุนที่สูง คอยเป็นกลไกหลักในการช่วยเหลือลูกหนี้และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าได้
ด้วยความที่สถาบันการเงินไทยมีความเข้มแข็ง การแก้วิกฤติครั้งนี้จึงเน้นไปที่การช่วยดูแล “ลูกหนี้” แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งในระยะข้างหน้าคงมีมาตรการออกมาดูแลอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ ธปท. จะไม่ออกมาตรการที่เป็นการทั่วไปที่อาจกินส่วนทุนของธนาคารพาณิชย์ได้ และการช่วยเหลือก็ต้องมองถึงความสมดุล ต้องทำให้มั่นใจว่าระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีความเข็มแข็งอยู่ เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าวิกฤติโควิดจะจบลงเมื่อไหร่
รณดล บอกด้วยว่า ในส่วนของหนี้ครัวเรือน ยอมรับว่ามีความเปราะบางมากขึ้น ซึ่งวิกฤตโควิด-19 เป็นตัวที่เข้ามากระทบต่อความสามารถการชำระหนี้ของครัวเรือน ให้เปราะบางมากขึ้น จากก่อนหน้าที่ หนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว ดังนั้นมาตรการที่ธปท.ทำตั้งแต่ต้นปี คือ หาแนวทางลดภาระหนี้ของภาคครัวเรือนลง เช่น การลดดอกเบี้ย หรือการปรับเปลี่ยนสินเชื่อให้เป็นระยะยาว
ขณะเดียวกันต้องหาแนวทางลดภาระหนี้ครัวเรือนให้มากขึ้น เช่น การให้ความรู้ทางการเงิน การสร้างวินัยทางการเงิน และต้องทำให้ตระหนักถึง Responsible lending หรือ การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ โดยให้ดูรายได้สุทธิลูกหนี้ด้วยว่ามีเพียงพอในการดำรงชีพหรือไม่
สำหรับการให้สถาบันการเงินทำแบบทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress test) เนื่องจาก ธปท. ต้องการเห็นภาพของระบบสถาบันการเงินในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะในอีก 3 ปีข้างหน้า ว่าสถาบันการเงินจะเป็นอย่างไร ดังนั้น Stress test ก็คือผลลัพท์ที่จะนำมาตอบโจทย์ ประมาณการเงินกองทุน นโยบายปันผลและการตั้งสำรองของระบบสถาบันการเงินในระยะข้างหน้า เพราะธปท.อยากเห็นแบงก์ ยืนอยู่ด้วยความมั่นคง และเป็นกลไกในการช่วยเหลือลูกหนี้ เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 อาจลากยาวก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม หากดูเงินกองทุนของระบบธนาคาพาณิชย์ในปัจจุบันมีสูงถึง 19.2% และมีเงินสำรองสูงถึง 144% หากเทียบกับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล ต้องถือว่ามีสำรองอยู่ค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ การทำ Stress test เบื้องต้น อยู่บนสมมุติฐาน ตามคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจหรือจีดีพีที่ติดลบราว 8.1% ปีนี้ และกรณีร้ายแรงที่สุด คือ จีดีพี ติดลบที่ราวๆ 12%
“การให้แบงก์ทำ Stress test ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อวางแผน 3 ปีข้างหน้า ว่าเงินกองทุนจะเป็นอย่างไร ตอบคำถามไปถึง นโยบายปันผลด้วย ว่าจะสามารถจ่ายได้หรือไม่ ดังนั้นเราอยากดู Stress test ที่จะออกมาต.ค.นี้ก่อน สิ่งที่ทำเหมือนการจับควันให้ไว เพราะสถานการณ์เปลี่ยนทุกวัน สถานะลูกหนี้ก็เปลี่ยนตลอด ดังนั้นเราต้องจับควันให้ไว ต้องมอนิเตอร์ใกล้ชิด ส่วนสำรองก็เชื่อว่าน่าจะเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้”
อย่างไรก็ตาม การทำแผน Stress test ไม่เพียงแต่ ดูจากปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น แต่บางสถาบันการเงินจำเป็นต้องทำแผนการเชื่อมโยงให้สอดรับกับสถานการณ์ต่างประเทศด้วย ให้สามารถเชื่อมโยงกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้แผนมีความสมจริงสมจังมากที่สุด หากต่างประเทศเกิดวิกฤต จะกระทบต่อลูกหนี้แบงก์อย่างไร ดังนั้นแต่ละแบงก์จะต้องมีอะไรเพิ่มเติม จากสมมุติฐานที่ธปท.วางไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธปท.อยากเห็น
ทั้งนี้ หากดูระบบแบงก์ปัจจุบัน พบว่าสถานการณ์กลับข้าง หากเทียบกับวิกฤตที่ผ่านมา ที่เกิด Bank Run คือ ประชาชนแห่มาถอนเงิน แต่วันนี้เราจะเห็นประชาชนนำเงินมาฝากไว้กับระบบธนาคารมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เงินฝากจะอยู่ตรงนี้ตลอด เพราะวันนี้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามใกล้ชิด คือ การ Search for yield
อีกทั้งจากเงินฝากที่เข้ามามาก ก็เป็นสิ่งที่แบงก์ต้องบริหารจัดการ และต้องบริหารจัดการด้าน ภาระค่าใช้จ่าย หรือ Credit cost ที่สูงขึ้น และแบงก์ต้องประเมินว่าภายใต้ Credit cost ปัจจุบันมีความสามารถปล่อยกู้ลูกหนี้ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ว่า ดอกเบี้ยต่ำกว่านี้ แล้วจะช่วยให้แบงก์ปล่อยกู้ลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพได้
แต่หาก Cerdit cost สูง แบงก์ก็อาจลังเลในการปล่อยสินเชื่อลูกหนี้มากขึ้น ดังนั้น หลายมาตรการรัฐที่ออกมา ก็เพื่อลดภาระ Credit cost ให้ลดลง เช่นมาตรการซอฟท์โลน ที่เข้าไปชดเชยความเสี่ยง ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Credit cost แบงก์ดีขึ้น
รณดล บอกด้วยว่า อีกประเด็นที่ ธปท. ดูแลมาตลอด คือ ผลจากการลดเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบัน(FIDF) ที่ ธปท. ได้ลดค่าธรรมเนียมการนำส่งเงินจากฐานเงินฝากลงมาอยู่ที่ 0.23% จากเดิม 0.46% เป็นเวลา 2 ปี เพื่อต้องการให้สถาบันการเงิน นำไปส่งผ่านสู่ประชาชน และลูกหนี้ ดังนั้นขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างการติดตามดูว่า การส่งผ่านทำได้เต็มที่แล้วหรือยัง เท่าที่ ธปท. ติดตามดู เชื่อว่า ยังมีช่องว่างที่ธนาคารพาณิชย์จะส่งผ่านไปยังลูกค้าได้อีก
เขาบอกด้วยว่า ธปท. ได้ให้สถาบันการเงินทำแผนเข้ามา เพราะลดดอกบี้ยเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำได้ แต่ก็ยังมีรูม การส่งผ่านต้นทุนเหล่านี้ได้อีก เช่น การลดค่าธรรมเนียม ให้กับประชาชน กับลูกหนี้ ไม่ว่าจะเป็นค่า Free Payment หรือค่าธรรมเนียมจากการชำระเงิน ค่าธรรมเนียมที่ผูกพันกับเงินกู้ หรือ Commitment fee เป็นต้น ซึ่งค่าฟีที่เก็บกับลูกหนี้ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่ามีค่อนข้างมาก
“เราให้แบงก์ส่งแผนมาให้ว่า ถ้าจะให้ลด 0.23% เขาจะส่งผ่านในส่วนนี้ไปให้ลูกค้าได้อย่างไร ซึ่งการลดสมทบมีถึง 2ปี ดังนั้นต้องทำให้เราเห็นภาพ ตามที่สัญญากัน ว่าจะทำอะไร เช่น การลดดอกเบี้ย การลดค่าธรรมเนียม แต่วันนี้แบงก์ยังทำได้ไม่เต็มที่นัก ซึ่งเขาก็ต้องทำตามแผนที่บอกไว้ ยังมีรูมให้ทำได้ ไม่งั้นก็จะเป็นดินพอกหางหมู เพราะ 0.23% ที่ลดให้ปีนี้ ปีหน้าก็ลดอีก หากไม่ทำอะไรให้เราเห็น แล้วไปทำสิ้นปีที่สอง ก็คงไม่ทันกาลแล้ว”
สำหรับการปล่อยสินเชื่อซอฟท์โลน ปัจจุบันมีการเบิกจ่ายแล้ว 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งยังมีรูมเหลืออีกมากที่สามารถปล่อยได้ ดังนั้นขณะนี้ ธปท. พยายามดึงกลุ่มลูกหนี้ที่มีศักยภาพ และมีหลักประกันเหลือเช่น ลูกหนี้ที่ใช้ LTVต่ำ 60-70% โดยเอาลูกหนี้กลุ่มนี้ส่งไปให้แบงก์ เพื่อให้แบงก์ใช้พิจารณาในการปล่อยสินเชื่อซอฟท์โลน ซึ่งแบงก์ต้องหาเหตุผลมาอธิบายกับธปท.ว่า ทำไมลูกหนี้กลุ่มนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้
เช่นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาทำให้ลูกหนี้ไม่จำเป็นที่ต้องเข้าสู่การช่วยเหลือ หรือภาพเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน อาจไม่อยากมีภาระ2% ดังนั้นธปท.ก็อยากทราบเหตุผลเชิงลึก และอยากได้คำตอบ ว่าเพราะอะไร กลุ่มลูกหนี้หน้าตาดีเหล่านี้ ทำไมยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ คาดว่าแบงก์จะส่งคำตอบมาให้ในช่วง 1-2สัปดาห์นี้
ส่วนกฎเกณฑ์กติกาต่างๆ ที่ไม่เอื้อต่อการปล่อยกู้ซอฟท์โลน เขาย้ำว่า ธปท.อยู่ระหว่างพิจารณา เพื่อลดอุปสรรคต่างๆ ลง นำไปสู่การปรับกฎเกณฑ์ต่างๆในการเอื้อให้เกิดการปล่อยกู้ในอนาคต ดังนั้นบางเรื่องหากไม่เกี่ยวกับ ตัวพ.ร.ก.ซอฟท์โลน ทาง ธปท.ก็สามารถทำได้เลย แต่หากเกี่ยวกับ พรก. ก็ต้องหารือผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หากจะมีการแก้ไขในอนาคต แต่เบื้องต้นมีการพูดคุยกับสถาบันการเงิน ว่าหากติดที่หลักประกัน ไม่จำเป็นที่ต้องเรียกสูง เพราะบางแบงก์มีความคุ้นเคยกับลูกหนี้อยู่แล้ว ซึ่งหากแบงก์สามารถช่วยลูกหนี้ได้ เจ้าหนี้ก็พ้นวิกฤติด้วย
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คลิก


Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
--------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforexhttps://www.eluforex.com/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"