EIC ชี้ 4 ปัจจัยเสี่ยงกดดันเศรษฐกิจครึ่งหลังของปี

GDP ไทยไตรมาส 2/2020 หดตัวหนักสุดในรอบ 22 ปีที่ -12.2%YOY ในระยะต่อไป EIC คาดเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปแต่ยังมีหลายปัจจัยเสี่ยงกดดัน
Key summary

- เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2020 หดตัว -12.2%YOY นับเป็นการหดตัวสูงสุดในรอบ 22 ปีใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 2 ของปี1998 ที่ไทยประสบกับวิกฤติต้มยำกุ้ง (-12.5%YOY)
- มาตรการปิดเมืองในประเทศคู่ค้ารวมถึงในไทยในช่วงไตรมาส 2 ส่งผลกระทบหนักต่อภาคการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุน และการบริโภคภาคเอกชน แต่เศรษฐกิจยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายจ่ายภาครัฐ ทั้งที่มาจากการเบิกจ่ายในงบประมาณ และมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบของภาครัฐ
- ข้อมูลล่าสุดสะท้อนเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว (Bottomed out) แต่เริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ช้าลงในช่วงหลัง (Stalling economic recovery)
- ในช่วงที่เหลือของปี เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำอยู่มาก ได้แก่ ภาคท่องเที่ยวที่ยังซบเซาต่อเนื่อง, ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในหลายประเทศทั่วโลก, ความไม่แน่นอนของการต่ออายุมาตรการสนับสนุนของภาครัฐที่กำลังจะหมดอายุลง (policy cliff) และความเสี่ยงด้านการว่างงานและการปิดกิจการที่อาจเพิ่มสูงขึ้นมาก จนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพภาคการเงินจากหนี้เสียที่เพิ่มสูงขึ้น
Key point
เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2020 หดตัว -12.2%YOY นับเป็นการหดตัวสูงใกล้เคียงกับช่วง ไตรมาส 2 ของปี 1998 ที่ไทยประสบกับวิกฤตต้มยำกุ้ง (-12.5%YOY) หรือเป็นการหดตัวมากสุดในรอบ 22 ปี สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกของ 2020 เศรษฐกิจไทยหดตัวที่ -6.9%YOY ขณะที่การหดตัวแบบเทียบไตรมาสต่อไตรมาสแบบปรับฤดูกาล (%QoQ sa) พบว่ามีการหดตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส โดยในไตรมาส 2/2020 เศรษฐกิจไทยหดตัวมากถึง -9.7%QoQ sa
เศรษฐกิจไทยด้านการใช้จ่าย (Expenditure Approach) หดตัวในเกือบทุกด้าน จากผลกระทบของมาตรการควบคุมโรค COVID-19 ยกเว้นรายจ่ายภาครัฐที่ขยายตัวจากการเร่งเบิกจ่ายหลังงบประมาณผ่านการอนุมัติ
1) มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการที่แท้จริงหดตัว -28.3%YOY ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน
มูลค่าการส่งออกสินค้าที่แท้จริงพลิกกลับมาหดตัว -15.9%YOY หลังจากขยายตัว 2.0%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งในไตรมาสนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการปิดเมืองซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหยุดชะงัก รวมถึงเกิดปัญหา supply chain disruption ทำให้การส่งออกสินค้าในหลายภาคส่วนหดตัวสูงโดยเฉพาะสินค้าในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์
การส่งออกภาคบริการหรือการท่องเที่ยวหดตัวสูงถึง -70.4%YOY หลังจากหดตัว -32.2%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า จากการที่หลายประเทศรวมถึงประเทศไทยมีมาตรการปิดเมืองและปิดประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้รายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาสที่ 2 หายไปทั้งหมด แต่ยังได้รับอานิสงส์จากรายรับบริการอื่น ๆ ที่ยังขยายตัวได้บ้าง
2)มูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการที่แท้จริงหดตัวสูงถึง -23.3%YOY ตามการส่งออกที่ลดลง และอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนตัว โดยการนำเข้าสินค้าหดตัว -19.3%YOY ขณะที่การนำเข้าบริการหดตัวสูง -37.9%YOY จากการที่คนไทยไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้
3)การใช้จ่ายเพื่อบริโภคภาคเอกชนหดตัว -6.6%YOY หลังจากขยายตัว 2.7%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า โดยการหดตัวมาจากการลดลงของการใช้จ่ายเพื่อสินค้าคงทน กึ่งคงทน และภาคบริการ ขณะที่การใช้จ่ายซื้อสินค้าไม่คงทนยังขยายตัวได้ โดยเฉพาะในหมวดสินค้าจำเป็น เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (3.1%YOY) การใช้จ่ายเพื่อที่อยู่อาศัย ประปา ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงอื่น ๆ (3.8%YOY) เป็นต้น
4)การลงทุนภาคเอกชนหดตัว-15.0%YOY ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน โดยเป็นการหดตัวทั้งในส่วนของการลงทุนก่อสร้าง (-2.1%YOY) และลงทุนเครื่องมือเครื่องจักร (-18.4%YOY) โดยเฉพาะในหมวดรถยนต์
5)· การบริโภคและการลงทุนภาครัฐขยายตัวในไตรมาสนี้จากการเร่งเบิกจ่ายหลังจากงบประมาณได้รับการอนุมัติ โดยการใช้จ่ายของรัฐบาลขยายตัว 1.4%YOY ในขณะที่การลงทุนรัฐบาลขยายตัวสูงถึง 12.5%YOY โดยส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อนหน้า
ในด้านการผลิต (Production Approach) มีการหดตัวในเกือบทุกสาขาการผลิตสำคัญ ยกเว้น การก่อสร้างซึ่งได้รับอานิสงค์จากการลงทุนภาครัฐ
1)ภาคการเกษตรหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ในอัตราชะลอลงที่ -3.2%YOY หลังจากหดตัว -9.8%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า จากปัญหาภัยแล้งที่ยังคงมีอยู่ทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรสำคัญลดลง อาทิ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง เป็นต้น
2)การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวสูงต่อเนื่องที่ -14.4%YOY ตามการลดลงของอุปสงค์ในประเทศและภาคการส่งออก โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์
3)สาขาการขายส่งและขายปลีกพลิกกลับมาหดตัวที่ -9.8%YOY หลังจากขยายตัว 4.8%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับการไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสาขาการขายส่งและขายปลีกโดยตรง
4)สาขาที่พักแรมและอาหารหดตัวในอัตราเร่งขึ้นที่ -50.2%YOY หลังจากหดตัว -23.3%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้มีการปิดประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปทั้งหมด รวมถึงยังมีมาตรการปิดเมือง ทำให้ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบ
5)สาขาการขนส่งและจัดเก็บสินค้าหดตัวสูงที่ -38.9%YOY ตามปริมาณการเดินทางที่ลดลงมากจากช่วงที่มีมาตรการปิดเมือง
6)อย่างไรก็ดี การผลิตในบางสาขามีการขยายตัว โดยสาขาสำคัญ ได้แก่ การก่อสร้าง ซึ่งขยายตัวสูงถึง 7.4%YOY หลังจากหดตัว -9.9%YOY ซึ่งได้รับอานิสงค์จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลปี 2020 โดยส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างในโครงการต่อเนื่อง นอกจากนี้ สาขาการเงินและสาขาข้อมูลข่าวสาร ยังขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 1.7%YOY
Implication
เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 หดตัวสูงใกล้เคียงกับที่เคยคาดไว้ จากผลกระทบของมาตรการปิดเมืองเป็นสำคัญ โดยมาตรการปิดเมืองที่ถูกประกาศใช้ในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงในไทย ในช่วงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคการท่องเที่ยวที่มีการปิดการเดินทางเข้าออกประเทศ ภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกหยุดชะงักและปัญหา supply chain disruption ส่วนด้านการลงทุนได้รับผลกระทบเช่นกัน จากการที่หลายบริษัทตัดสินใจชะลอหรือยกเลิกการลงทุน ตามยอดขายที่หายไปมาก
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 2 ยังมีปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยไม่หดตัวไปมากกว่านี้ ได้แก่
1) การใช้จ่ายของภาครัฐ ทั้งที่เป็นการใช้จ่ายในงบประมาณที่มีการเร่งเบิกจ่ายหลังงบประมาณได้รับการอนุมัติ ได้แก่ การบริโภคและการลงทุนภาครัฐ ประกอบกับเม็ดเงินเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่น มาตรการให้เงินช่วยเหลือเดือนละ 5 พันบาท เป็นเวลา 3 เดือน เป็นต้น รวมถึงมาตรการอื่น ๆ เช่น มาตรการ soft loan และการพักชำระหนี้ ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
2) รายจ่ายด้านสุขภาพและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานเป็นแบบ work from home โดยจากรูปที่ 3 จะเห็นได้ว่ารายจ่ายการบริโภคสินค้าในประเทศในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีการหดตัวสูงในสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว, บันเทิง และการทำงานนอกบ้าน ขณะที่สินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพและการอยู่บ้านหรือทำงานที่บ้านยังสามารถขยายตัวได้ดี ดังนั้น พฤติกรรมการใช้จ่ายดังกล่าว จึงนับเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
3) การนำเข้าที่หดตัวในระดับสูง ทั้งที่เป็นการนำเข้าสินค้าและการนำเข้าบริการ (หดตัวกว่า -23.3%YOY) ซึ่งโดยปกติแล้ว รายจ่ายที่ใช้เพื่อการนำเข้าสินค้า จะนับเป็นเงินที่รั่วไหลออกนอกประเทศ จึงถูกนับเป็นตัวหักใน GDP ในทางกลับกัน หากรายจ่ายนำเข้าลดลงมาก ย่อมหมายถึงเงินของคนไทยออกไปต่างประเทศลดลง จึงมีส่วนทำให้ GDP ไม่ลดลงมากในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ในช่วงที่เหลือของปี EIC คาดเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ยังมีความเสี่ยงด้านต่ำอยู่มาก โดยจากข้อมูลล่าสุด (รูปที่ 4) พบว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว (bottomed out) และกำลังฟื้นตัว ซึ่งการหดตัวของเครื่องชี้ต่าง ๆ จะติดลบมากสุดในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีมาตรการปิดเมืองเข้มงวด แต่เมื่อมีการผ่อนคลายความเข้มงวด ก็ทำให้เครื่องชี้เศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาเครื่องชี้เร็วของ Google Mobility Index ในช่วงเดือนกรกฎาคม พบว่าเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ช้าลงในช่วงหลัง (stalling economic recovery) เช่นเดียวกับข้อมูลด้านจำนวนประกาศรับสมัครงานของ JobsDB.com (รูปที่ 5) ที่ให้ภาพสอดคล้องกันว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม จำนวนประกาศรับสมัครงานเริ่มทรงตัวหลังจากที่มีการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด
สำหรับในช่วงที่เหลือของปี เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญอุปสรรคและมีความเสี่ยงด้านต่ำอยู่มาก ที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป ได้แก่
1)ภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มหดตัวในระดับสูงต่อเนื่อง เนื่องจากยังไม่มีแนวนโยบายชัดเจนว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศเมื่อใด ทำให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบต่อเนื่อง
2)ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในหลายประเทศทั่วโลก โดยล่าสุด หลายประเทศเริ่มมีการกลับมาระบาดและต้องใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดอีกครั้ง (รูปที่ 6) ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการส่งออกของไทย
3)ความเสี่ยงด้านการปิดกิจการและการว่างงาน โดยมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจมีหลายธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs ที่ขาดรายได้จนกระทั่งไม่สามารถจ่ายต้นทุนคงที่ได้ จึงทำให้ต้องมีการปิดกิจการ และปลดคนออก การว่างงานจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งล่าสุด การว่างงานของบุคคลที่ได้รับประกันสังคมตามมาตรา 33 พบว่ามีอัตราว่างงานสูงถึง 3.5% ในเดือนมิถุนายน 2020 (เมื่อเทียบกับ 1.5% ในเดือนมีนาคม) ซึ่งเป็นอัตราว่างงานที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลเป็นต้นมา (เริ่มเก็บปี 2005) ขณะที่การว่างงานรวมของทั้งประเทศ ตัวเลขล่าสุดในไตรมาสที่ 2 (จากเอกสาร สศช. ที่อ้างถึงตัวเลขของ สสช.) บ่งชี้ว่ามีอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 1% ในไตรมาสแรก เป็น 2% ในไตรมาส 2 หรือมีจำนวนคนว่างงานมากถึง 7.5 แสนคน
4)ความไม่แน่นอนของการต่ออายุมาตรการสนับสนุนของภาครัฐที่กำลังจะหมดอายุลง (policy cliff) มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภาครัฐที่จะเริ่มหมดไปในช่วงเดือนกรกฎาคม หากมาตรการเหล่านี้ไม่ได้รับการต่ออายุ หรือต่ออายุในขนาดที่เล็กลง ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงหนึ่งด้านต่ำต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี จากข่าวล่าสุด คาดว่าทางกระทรวงการคลังอาจออกมาตรการรอบใหม่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งทาง EIC จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้จากตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ล่าสุด พบว่าค่อนข้างใกล้เคียงกับที่ EIC เคยคาดไว้ โดยมีเลขประมาณการทั้งปี 2020 อยู่ที่ -7.3% อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน EIC กำลังทำการประเมินสมมติฐานเดิมและปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามามีผลต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะทิศทางด้านการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลรอบใหม่ ดังนั้น โปรดติดตามประมาณการเศรษฐกิจโดยละเอียดของ EIC ที่จะมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะในช่วงต้นเดือนกันยายน 2020 นี้
โดยดร. กําพล อดิเรกสมบัติ,พนันดร อรุณีนิรมาน,พิมพ์ชนก โฮว
Source: ThaiPublica

คลิก

---------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"