'ซีอีโอ' ประสานเสียง วิกฤติ 'โควิด-19' หนักกว่า 'ต้มยำกุ้ง' ลามทุกภาคส่วน ทั่วโลก

ซีอีโอประสานเสียงวิกฤติโควิด-19 กระทบหนักกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง เหตุผลกระทบลามทุกภาคส่วนบน-ล่างทั่วโลก ชี้เศรษฐกิจหลังโควิด โจทย์ใหญ่ประเทศ จี้เร่งวางแผนรับมือผลกระทบ หนุนมาตรการรัฐช่วยทุกภาคส่วนจบวิกฤติให้เร็ว ก่อนธุรกิจอั้นไม่ไหวขาดสภาพคล่อง ปลดแรงงาน

การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่ก่อตัวขึ้นในเมื่อต้นปี 2563 ผ่านไป 3 เดือน ผลกระทบยังคงลุกลามหนัก กลายเป็นวิกฤติโลก กระทบทั่งวิถีชีวิตผู้คน วิถีการดำเนินธุรกิจ จากกิจกรรมต่างๆที่ต้องหยุดชะงัก กักตัวเพื่อสกัดการระบาดของไวรัส ล็อกดาวน์ในหลายประเทศ เกิดสังคมระยะห่าง (Social distancing)

ในประเทศไทย ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เพื่อหวังระงับการแพร่ระบาดอย่างเบ็ดเสร็จ พร้อมไปกับการอัดมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ล่าสุดกับกับการอนุมัติมาตรการดูแลและเยียวยาโควิด-19 ระยะที่ 3 วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท

"กรุงเทพธุรกิจ" สอบถามไปยัง "ซีอีโอ" หลากหลายองค์กรธุรกิจในไทย เพื่อรับฟังมุมมองผลกระทบวิกฤติโควิด-19 เทียบกับวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2540 พร้อมกับการประเมินมาตรการเยียวยาของรัฐว่า เพียงพอต่อขนาดของปัญหาหรือไม่ โดย ซีอีโอส่วนใหญ่ซึ่งผ่านวิกฤติต้มยำกุ้งมาแล้ว ต่างระบุว่า วิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ รุนแรงยิ่งกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ (เอไอเอส) : ครั้งนี้ "เจ็บกว่า" และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19ยิ่งใหญ่และหนักสาหัสกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 มาก เพราะปี 2540 กระทบกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน และกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่กู้เงินจากต่างประเทศมาใช้ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้รับผลกระทบน้อย เรียกว่า "เจ็บแต่จบ" เพราะรู้สาเหตุและวิธีแก้ไข ที่เหลือแค่ทำให้สำเร็จ

ขณะที่วิกฤติ โควิด-19กระทบกับทุกภาคส่วน ทุกอุตสาหกรม ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งทางเศรษฐกิจ และทางสังคม ตลอดจนการใช้ชีวิตของคนทุกคนในประเทศ ซึ่งในช่วงชีวิตคนที่อยู่ในปัจจุบันไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ครั้งนี้ "เจ็บกว่าและยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ" เพราะมาตรการต่างๆ ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นเพียงแค่ป้องกัน ยับยั้งไม่ให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่แย่ลงไป

"วัคซีน" คือหนทางจบปัญหา

"ต้องรอวัคซีนเข้ามา จึงจะเห็นทางสว่างที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ ที่สำคัญหลังวิกฤติโควิด-19 นี้ เราจะพบกับการเปลี่ยนแปลงทั้งรูปแบบการทำธุรกิจ และที่สำคัญการใช้ชีวิตแบบใหม่ ที่แตกต่างจากที่เราเคยชินอยู่ในปัจจุบัน"

สำหรับมาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมาในปัจจุบันนี้ นับว่าบูรณาการที่ดีขึ้นจากเดิมมาก แม้ว่าจะล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

จี้รัฐวางแผนรับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาครัฐคิดแผนล่วงหน้าที่ต้องเตรียมไว้สำหรับการรองรับผลกระทบต่างๆจากแนวทางที่ประกาศออกมา เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในแนวทางดังกล่าว และพร้อมที่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

"ส่วนสำคัญที่ต้องเพิ่มอีกมาก คือ สร้างการตระหนักรู้และปฏิบัติให้ได้จริงกับประชาชนว่า วิกฤติโควิด-19นี้ คนไทยทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤติด้วยกัน ใครช่วยอะไรได้ก็ต้องมาช่วยกัน หากช่วยอะไรไม่ได้ ก็ต้องอยู่บ้าน รักษาระยะห่างกับผู้คน ใส่หน้ากากเวลาออกไปไหน รักษาสุขอนามัย ก็ถือว่ามีส่วนร่วมในการแก้วิกฤติครั้งนี้ได้แล้ว"

เร่งตัวสู่ "ดิจิทัลเต็มรูปแบบ"

นายสมชัย กล่าวว่า วิกฤติที่เกิดขึ้นทำให้ทุกภาคส่วนก้าวสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และเชื่อว่าหลังจากที่วิกฤติผ่านพ้นไปหลายๆธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนบิซิเนส โมเดลให้อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น

สุรช ล่ำซำ (ล็อกซเล่ย์) : ทุกธุรกิจต้องหา "ทางรอด" ของตัวเอง

นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ ล็อกซเล่ย์ กล่าวว่า วิกฤติครั้งนี้ไทยโดนหนักกว่าครั้งวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 40 ที่ส่วนใหญ่ไปกระทบกับสถาบันการเงินเป็นหลัก แต่ครั้งนี้กระทบทุกคน ทุกกลุ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นโรคระบาดไปทั่วโลก ส่งผลให้รูปแบบการทำธุรกิจเปลี่ยนไป ทุกธุรกิจต้องหา "ทางรอด" ของตัวเอง

"วิกฤติครั้งนี้ ทำให้วิธีการทำงาน วิธีการเดินทาง มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่อินฟราสตรัคเจอร์ด้านไอที มีบทบาทสำคัญมากในครั้งนี้ แน่นอนว่า ต่อไปเราจะเห็นโมเดลต่างๆ เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งผมคิดต่างจากคนอื่นว่าโควิด-19 จะไม่ได้จบลง แต่มันจะเป็นสิ่งที่อยู่กับเราต่อไป ซึ่งมนุษย์จะหาทางแก้ปัญหา และสร้างภูมิคุ้มกันได้ในที่สุด" นายสุรช กล่าว

บัณฑูร ล่ำซำ (กสิกรไทย) : ต้องสร้างองค์ความรู้ใหม่ เพราะความรู้แบบเดิมช่วยไม่ได้

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าหากเทียบกับ “วิกฤติต้มยำกุ้ง” กับ “วิกฤติโรคระบาด” ครั้งนี้ นับเป็นพายุคนละแบบ วิกฤติต้มยำกุ้ง เป็นพายุของความโลภของมนุษย์ที่เกินพอดี ก็เกิดความเสียหาย ความเจ็บปวดต่อชีวิตมนุษย์ ขณะที่โรคระบาดเป็นอะไรที่จะโทษมนุษย์โดยตรงไม่ได้ แต่ว่าก็ทำให้เกิดความเสียหายต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์เช่นเดียวกัน เกิดการหยุดชะงักของการทำมาหากิน และไม่มีตัวอย่างหรือรูปแบบวิธีการแก้ปัญหาให้เห็นมาก่อน

โชคดีที่วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดโรคระบาดครั้งนี้ แม้มีผลกับเศรษฐกิจ แต่โครงสร้างความมั่นคงของสถาบันการเงินได้ตุนเสบียงสำรองไว้พอสมควร ต่อให้เกิดการถดถอยสืบเนื่องมาจากการที่ผู้คนทำงานไม่ได้ตามปกติค้าขายไม่ได้ตามปกติ ระบบธนาคารพาณิชย์ยังรับได้ แม้สูญเสียกำไรไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่หากไม่ได้มีทุนสำรองเอาไว้เลยก็คงจะเดือดร้อน

ส่วนการฟื้นฟู รัฐบาลช่วยเต็มที่ เยียวยาผู้ประสบความเดือดร้อน ระบบธนาคารพาณิชย์ก็ช่วยเป็นที่พึ่งพิงได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องดูอีกว่าโรคนี้จะลากยาวแค่ไหน ถ้าลากยาวผลกระทบทางเศรษฐกิจก็มาก ก็หวังว่ามาตรการต่างๆที่ทำเข้มขึ้นมากขึ้นทุกวันทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายแพทย์ดูเสมือนว่าจะมีความหวังว่าจะสกัดได้

"นี่เป็นตัวอย่างอีกตัวอย่างหนึ่ง ถ้าเราไม่ได้เตรียมการไว้ รัฐบาลไม่ได้กู้เงินมากเกินไปในอดีต เพราะครั้งนี้จำเป็นต้องกู้เงินมาเยียวยารักษาเศรษฐกิจก็ยังพอมีช่องที่จะทำได้ แต่ก็จะตึงๆหลังจากนี้ รัฐบาลก็จะตึง ธนาคารก็จะตึงระบบการเงินก็จะตึงแต่ก็ยังเชื่อว่ารับได้"

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยหลังโรคระบาด จะเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับประเทศ เมื่อโรคระบาดหายไป จะกลับมาทำมาหากินแบบเดิมๆอย่างไร หรือจะหาวิชาชีพแบบใหม่ให้คนไทย ทำงานได้ดีกว่าเดิม ด้วยการหาองค์ความรู้ใหม่ เพราะโลกแข่งขันกันมากบนความรู้ใหม่ การศึกษา การวิจัยต่างๆต้องเพิ่มขึ้น เพราะประเทศที่ไม่มีการพัฒนาความรู้ใหม่ ไม่มีทางสู้ใครได้ ไม่มีทางที่ความเป็นอยู่ประชาชนจะดีขึ้น ซึ่งเรื่องขององค์ความรู้เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง เป็นพายุลูกใหม่ที่ไม่สามารถแข่งขันกับเขาได้ในโลกนี้ จึงต้องสร้างองค์ความรู้ใหม่ เพราะความรู้แบบเดิมช่วยไม่ได้

ณรงค์ชัย อัครเศรณี (เอ็มเอฟซี) : เวลานี้ สภาพคล่อง ก็เหมือนออกซิเจน หากปอดติดไวรัส ก็หมดสภาพคล่อง เศรษฐกิจก็พัง

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 ถือเป็นวิกฤติร้ายแรงกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง เพราะผลกระทบรุนแรงกว่า กระทบเป็นวงกว้างต่างกับปี 2540 ที่กระทบจากปัญหาสภาพคล่องของคนระดับบน บริษัทขนาดใหญ่ ลามไปสู่สภาพคล่องของสถาบันการเงิน

ส่วนมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐที่ออกมา ถือว่าทำได้เร็วกว่าปี 2540 ซึ่งเป็นมาตรการที่ช่วยตั้งแต่ระดับล่างขึ้นไปถึงระดับบน

"เวลานี้ สภาพคล่อง ก็เหมือนออกซิเจน หากปอดติดไวรัส ก็หมดสภาพคล่อง เศรษฐกิจก็พัง ทำให้ต้องเร่งออกมาตรการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เช่น กลุ่มหาเช้ากินค่ำ ตายแน่นอนหากไม่มีเงิน และต้องเร่งช่วยธุรกิตรายเล็ก รายกลาง เพราะขณะนี้ขาดสภาพคล่อง ให้กลุ่มนี้กู้อาจไม่ได้เพราะหนี้ก็มีมาก ขณะที่การกู้ก็คงไม่ง่ายในภาวะนี้ ดังนั้นอย่าใช้วิธีกู้เงินแต่ให้ช่วยเรื่องลดรายจ่าย"

นอกจากนี้มาตรการของ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ออกมา ก็ถือเป็นมาตรการที่ดี เช่น การปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟท์โลน) โดยให้แบงก์ไปปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเป็นการโฟกัสไปที่สภาพคล่อง ไปเพิ่มออกซิเจนให้สังคมไม่ว่าระดับใด ให้ได้มีโอกาสหายใจในช่วงนี้ เหมือนที่แพทย์ช่วยคนป่วยจากไวรัสโควิด-19 เป็นการต่อลมหายไปให้หายใจต่อไปได้

อีกมาตรการคือการเข้าไปดูแลด้านสภาพคล่องให้กับตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร หุ้นกู้ต่างๆ มองว่าเป็นมาตรการที่ดี และทำได้ดีกว่าปี 2540 การที่ธปท.ออกมาช่วยดูแลด้านสภาพคล่อง ถือว่าถูกต้อง เพื่อช่วยไม่ให้ เกิดปัญหาการขาดสภาพคล่อง ไม่ให้เกิดการวิตก ไม่ใช่เกิดการตื่นตระหนกจนแห่ถอนเงิน เหมือนกรณีที่เกิดกับเลห์แมน บราเธอร์ส ในอดีต ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญ ในการเข้าไปช่วยดูแลสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ เพื่อหยุดความตื่นตระหนก ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่ทำเพื่อคนรวย แต่ช่วยประคองทั้งระบบ

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คลิก

เพิ่มเติม
- ข่าว ธปท. ​ฉบับที่ 20/2563 เรื่อง มาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือ SMEs และดูแลเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้เอกชน
เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"