COVID-19 : โรคพลิกโลก เมื่อสหรัฐฯ เกิดวิกฤต

เราเคยพูดกันว่า COVID-19 สั่นสะเทือนโลก เพราะระบาดที่จีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นมหาอำนาจใหม่ แต่ไม่แน่นะครับ หากนักประวัติศาสตร์ในอนาคตย้อนกลับมาดูช่วงเวลานี้ อาจต้องบอกว่า COVID-19

เป็นตัวเร่งสำคัญที่จะเปลี่ยนระเบียบและระบบของโลกในทศวรรษใหม่ ไม่ใช่เพราะวิกฤตที่จีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แต่เป็นเพราะวิกฤตการระบาดใหญ่ตอนนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมหาอำนาจเก่าและเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

คำถาม ณ ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องที่ว่า สหรัฐฯ จะถึงภาวะวิกฤตเช่นในอิตาลีหรือไม่ เพราะข้อเท็จจริงคือ สหรัฐฯ ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว เพียงแต่จะไปจบที่วิกฤตมากหรือน้อยเท่านั้นเอง โดย Dr. Neil M. Ferguson นักระบาดวิทยาชาวอังกฤษได้ประเมินจากแนวโน้มในขณะนี้ว่า ความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุดคือ สหรัฐฯ จะมีคนตายจากโรคนี้ 2.2 ล้านคน ส่วนความเป็นไปได้ที่ดีที่สุดคือ สหรัฐฯ จะมีคนตายจากโรคนี้ 1.1 ล้านคน แม้กระทั่งภาพความเป็นไปได้ที่ดีที่สุดก็ถือเป็นหายนะทางสาธารณสุขที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสหรัฐฯ

นี่แหละครับ ความน่ากลัวของไวรัส เพียงไฟเริ่มจุดติดและลุกลาม ก็ไม่ปรานีกับหน้าไหนหรือประเทศใดทั้งสิ้น

ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ คือ การไม่จัดให้มีการปูพรมตรวจเชื้ออย่างกว้างขวางในช่วงเริ่มแรก แน่นอนว่า การตรวจเชื้อติดข้อจำกัดด้านทรัพยากร อีกทั้งในความเป็นจริง ผู้ป่วยกว่า 80% ที่ติดเชื้อไวรัสตัวนี้มีอาการน้อย ซึ่งไม่ว่าจะตรวจพบเชื้อหรือไม่ ก็ใช้วิธีรักษาแบบเดียวกันคือรักษาตามอาการ ดังนั้นแพทย์หลายคนในช่วงแรกจึงเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจเชื้อกับกลุ่มผู้มีอาการน้อย

แต่ปัญหาคือ เมื่อคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ ก็เที่ยวเดินเล่นในเมืองแพร่เชื้อไปทั่ว จนในที่สุดก็มีคนติดเชื้อกันเต็มเมือง แถมไม่รู้จำนวนแน่นอนด้วยว่าติดกันจนขยายวงกว้างไปเท่าไรแล้ว โดยในบรรดาผู้ติดเชื้อทั้งหมด จะมีจำนวน 20% ที่อาการหนักและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล (15% อาการหนัก และ 5% อาการเข้าขั้นวิกฤต ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและอาจต้องใช้ปอดเทียม) พอรู้ตัวอีกที ผู้ป่วยหนักก็แน่นเต็มโรงพยาบาล แถมหลายคนเมื่อมาถึงมือหมอก็ช่วยไม่ทันแล้ว สรุปคือหายนะ

เปรียบเทียบกับเกาหลีใต้ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกในเวลาเดียวกับที่สหรัฐฯ พบ แต่เกาหลีใต้ใช้ยุทธวิธีปูพรมตรวจเชื้ออย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ซึ่งที่เกาหลีใต้ทำได้ เพราะมีบริษัทวิจัยของเกาหลีใต้พัฒนาชุดตรวจและเทคโนโลยีการตรวจที่ง่ายและต้นทุนถูก อีกทั้งทางการยังอนุมัติชุดตรวจใหม่นี้ด้วยขั้นตอนที่รวดเร็ว เกาหลีใต้จึงไม่ได้ใช้วิธีตรวจตามมาตรฐานปกติซึ่งใช้ในสหรัฐฯ และไทย แต่ใช้ชุดตรวจที่เกิดจากเทคนิคใหม่ที่พัฒนาขึ้นเอง ทำให้สามารถตรวจได้ปริมาณมากและเร็วจนพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ผู้ติดเชื้อเองเมื่อรู้ตัว ก็จะกักกันตัวเอง ไม่แพร่เชื้อต่อ และสามารถคอยตรวจสอบอาการได้ว่าเมื่อไรควรรีบไปพบแพทย์ ดังนั้น อัตราการเสียชีวิตในเกาหลีใต้จึงต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ

มีนักสถิติประเมินว่า ตอนนี้สถานการณ์ในสหรัฐฯ เปรียบเทียบได้กับสถานการณ์ในสัปดาห์ก่อนหน้าที่อิตาลีจะระบาดจนควบคุมไม่ได้ แถมสหรัฐฯ ยังมีจำนวนแพทย์และเตียงต่อหัวประชากรน้อยกว่าอิตาลี ดังนั้น ถ้าสหรัฐฯ เกิดวิกฤตในระดับเดียวกับอิตาลี ความเสียหายอาจหนักหนากว่ามาก

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) พบว่า ถ้าการระบาดในสหรัฐฯ ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด อาจมีความต้องการเตียงสำหรับผู้ป่วยวิกฤตประมาณ 366,000 เตียง ซึ่งมากกว่าจำนวนเตียง I.C.U. ที่โรงพยาบาลในสหรัฐฯ มีถึง 10 เท่า ตอนนี้จึงมีนักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่เยอรมนีมีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อย เพราะเยอรมนีสามารถผลิตเครื่องช่วยหายใจได้เอง และมีการระดมทรัพยากรผลิตเครื่องช่วยหายใจเพิ่มให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะที่ในสหรัฐฯ ต้นทุนเครื่องมือทางการแพทย์เหล่านี้มีราคาแพง และแต่ละโรงพยาบาลก็มีเครื่องมือเหล่านี้น้อย จึงเกิดเป็นสถานการณ์ที่ว่า โรงพยาบาลในสหรัฐฯ มีคุณภาพและมาตรฐานสูง แต่ไม่มีความสามารถที่จะรองรับผู้ป่วยปริมาณมหาศาลได้

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ ชุดปกป้องตัวเองของแพทย์ (ที่มีลักษณะคล้ายชุดนักบินอวกาศ) มีรายงานว่า ในช่วงแรกที่จีนต้องเผชิญกับโรคระบาด บุคลากรทางการแพทย์ในอู่ฮั่นติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อทางการจีนระดมอาสาสมัครทางการแพทย์จากพื้นที่ต่างๆ จำนวน 42,000 คน เข้าไปช่วยในอู่ฮั่น ก็ได้จัดชุดปกป้องตัวเองแบบเต็มที่ให้กับทุกคน

ผลคืออาสาสมัครทางการแพทย์จากพื้นที่ต่างๆ ของจีนที่เข้าไปช่วยในอู่ฮั่นไม่ติดเชื้อเลยแม้แต่คนเดียว แต่วันนี้ ภาพที่แชร์กันอย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดียของสหรัฐฯ คือ ภาพการขาดแคลนหน้ากากอนามัยสำหรับแพทย์ในโรงพยาบาลสหรัฐฯ ยังไม่พูดถึงอุปกรณ์ป้องกันบริเวณดวงตาและศีรษะ จนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐฯ ต้องออกมาเรียกร้องให้คนที่ไม่ป่วยอย่าใช้หน้ากากอนามัย ซึ่งเหตุผลจริงๆ ไม่ใช่ว่าหน้ากากอนามัยปกป้องไม่ได้ แต่เป็นเพราะการขาดแคลนทรัพยากร และความจำเป็นที่จะต้องให้ทรัพยากรถึงมือผู้ที่จำเป็นต้องใช้มากที่สุดต่างหาก

ถ้าท่านยังจำได้ว่า เมื่อตอนที่จีนวิกฤต โลกก็เหมือนจะวิกฤตไปด้วยแล้ว แต่สถานการณ์วิกฤตในสหรัฐฯ จะยิ่งพาโลกเข้าสู่วิกฤตหนักหนาสาหัสยิ่งกว่า เพราะสหรัฐฯ มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้น ผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกอาจหนักกว่าครั้งวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2007 เสียอีก และค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า ปีนี้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่สภาวะถดถอยแน่นอน

ผลกระทบถัดมาที่พอคาดการณ์ได้ คือ โดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสสูงที่จะแพ้การเลือกตั้ง เพราะเศรษฐกิจไม่ดีและวิกฤตสาธารณสุขรุนแรง ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการที่ทรัมป์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความรุนแรงของโรคนี้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น

ส่วนผลที่จะสั่นสะเทือนโลกในระยะยาวยิ่งกว่านั้น คือ การเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกและระบบโลก ในด้านระเบียบโลก ในระยะสั้น จีนสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้เร็ว และอาจเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เริ่มมีการกระตุ้นและหมุนเวียนใช้จ่ายในตลาดขนาดใหญ่ภายในประเทศ ขณะที่ทางสหรัฐฯ อาจยังอยู่ในภาวะวิกฤตอีกหลายเดือน นอกจากนั้น เราจะเห็นจีนเริ่มออกมาเล่นบทบาทผู้นำในการให้ความช่วยเหลือทางสาธารณสุขกับประเทศต่างๆ ด้วย ส่วนในระยะยาว ผลกระทบต่อระเบียบโลกย่อมอยู่ที่ว่า สุดท้ายแล้ว สหรัฐฯ จะเกิดวิกฤตมากน้อยเพียงใด เศรษฐกิจจะพังยาวหรือพังสั้น ฟื้นตัวเร็วหรือฟื้นตัวช้า

ส่วนในด้านระบบโลก เราต้องไม่ลืมว่า สหรัฐฯ เป็นผู้นำความคิดเกี่ยวกับระบบและอุดมการณ์ทางเศรษฐกิจของโลก ดังนั้น หากวิกฤตในสหรัฐฯ หนักหนาสาหัสจนถึงจุดหนึ่งแล้ว ย่อมนำไปสู่การเรียกร้องระบบรัฐสวัสดิการ และยิ่งเผยให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในสังคมสหรัฐฯ เพราะส่วนหนึ่งของวิกฤตครั้งนี้เป็นวิกฤตที่เกิดจากระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมเชิงอนุรักษนิยมของสหรัฐฯ ซึ่งไม่มีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าเช่นประเทศพัฒนาแล้วในยุโรป และไม่มีประกันการลาป่วยให้กับแรงงาน ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้ทำให้สหรัฐฯ มีโอกาสจะเผชิญวิกฤตการระบาดหนักกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ เพราะคนป่วยที่ยากจนเข้าไม่ถึงการตรวจและการรักษา รวมทั้งไม่สามารถลาพักกักตัวที่บ้านได้เพราะจะขาดรายได้

หลายคนเคยสงสัยว่า อะไรจะเป็นจุดพลิกให้ระเบียบโลกเปลี่ยน อะไรจะเป็นจุดพลิกให้เราต้องมาทบทวนการจัดระบบสังคมใหม่ที่ยุติธรรมมากขึ้น หลายคนมักคิดว่า คงต้องมีวิกฤตครั้งใหญ่ก่อน แต่ไม่มีใครคิดว่าวิกฤตครั้งใหญ่นี้จะมาจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่
ไวรัสที่ตักเตือนมนุษยชาติว่า สุดท้าย ชะตากรรมของแต่ละประเทศต่างผูกกัน และชะตากรรมของทุกคนต่างผูกกันเช่นกัน

โดย Arm Tungnirun

Source : 101 World

คลิก

Cr. Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"