การลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศ เทรนด์ใหม่นักลงทุนไทย

ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยมีเงินตราต่างประเทศไหลเข้ามาในปริมาณมากจากการที่ต่างชาติมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพต่างประเทศของไทย เช่น การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

(Foreign Direct Investment : FDI) เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า

บทความนี้จะเล่าให้ผู้อ่านทราบถึงกระแสเงินทุนในอีกด้านหนึ่ง คือการออกไป ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของคนไทย ซึ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่องและมีส่วนช่วยลดแรงกดดันค่าเงินบาทได้ในระดับหนึ่ง

โดยผู้เขียนจะใช้ฐานข้อมูลยอดคงค้างของการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของนักลงทุนไทย (Portfolio Investment Aboard : PIA) ที่จัดเก็บโดย ธปท. ซึ่งครอบคลุมกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund : FIF) กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นิติบุคคลไทยที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 5,000 ล้านบาท ขึ้นไป บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ผู้ลงทุน สถาบันอื่นๆ บุคคลธรรมดาที่ลงทุนผ่านนายหน้า (Broker)

รวมถึงนักลงทุนสถาบันที่บริหารเงินออม (Contractual Saving Institutions) ซึ่งประกอบด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนประกันสังคม

คนไทยลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เพิ่มขึ้น โดยนิยมตราสารหนี้มากที่สุด

จากข้อมูลพบว่าคนไทยมีแนวโน้มออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลยอดคงค้าง ณ สิ้นเดือน ก.ย.2562 สูงถึง 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็น 15% ต่อ GDP หรือเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเทียบกับยอดคงค้าง 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2558

เมื่อวิเคราะห์ "ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน" พบว่าตราสารหนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมียอดคงค้างเฉลี่ย 5 ปี อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยการ ฝากเงินในบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit : FCD) ในต่างประเทศ (1.9 หมื่นล้านดอลลาร์) และการลงทุนผ่านหน่วยลงทุนในต่างประเทศ (1.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ตามลำดับ โดยการลงทุน ในตราสารหนี้ต่างประเทศของคนไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 40% จากสิ้นปี 2558 เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของไทยอยู่ในระดับต่ำ

ขณะเดียวกัน คนไทยมีการโยกย้ายเงินลงทุนตามสถานการณ์ความเสี่ยงในตลาดการเงินโลกเช่นกัน โดยในปี 2561 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนจากการกีดกันทางการค้า รวมทั้งความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ปรับลดลงจากปี 2560 และย้ายเงินลงทุนมาพักไว้ใน FCD ในต่างประเทศซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่าแทน และล่าสุดในปี 2562 FCD ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการที่ธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบางแห่งออกไปลงทุนใน FCD ในต่างประเทศมากขึ้นเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน 3 รูปแบบข้างต้นคิดเป็น 95% ของยอดคงค้างการลงทุน ในหลักทรัพย์ต่างประเทศทั้งหมดในปัจจุบัน ขณะที่ตราสารทุนไม่ได้รับความนิยมนัก เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้ออกไปลงทุนในตราสารทุนโดยตรง แต่นิยมลงทุนผ่านหน่วยลงทุนต่างประเทศที่มีการบริหารจัดการ โดยผู้บริหารกองทุนในต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง เพราะเชื่อว่าผู้บริหารกองทุนในต่างประเทศมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการลงทุนที่ดีกว่า และจะลงทุนตามนโยบายที่ ได้กำหนดไว้

ครึ่งหนึ่งของการลงทุนกระจุกอยู่ใน 5 ประเทศ

เมื่อวิเคราะห์ "ประเภทผู้ลงทุน" พบว่า FIF จัดเป็นผู้เล่นสำคัญในการออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ คิดเป็น 73% ของการลงทุนทั้งหมด เพราะคนไทย ส่วนใหญ่จะลงทุนผ่าน FIF เป็นหลัก ตามมาด้วยบริษัทประกัน (15%) และ contractual saving institutions (5%) ตามลำดับ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาประเทศที่นักลงทุนไทย นิยมออกไปลงทุน พบว่าเงินลงทุนกว่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศกระจุกอยู่ใน 5 ประเทศหลัก ได้แก่
1.กาตาร์
2.ลักเซมเบิร์ก
3.ฮ่องกง
4.สหรัฐ และ
5.จีน โดยคนไทยนิยมลงทุน FCD ในกาตาร์และฮ่องกง ตราสารหนี้ในจีน และลงทุนในหน่วยลงทุนของสหรัฐและลักเซมเบิร์กเป็นหลัก เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมอยู่มาก

ธปท.ปรับเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนหลักทรัพย์ในต่างประเทศ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 ธปท.ได้ประกาศปรับกฎเกณฑ์เพื่อส่งเสริมการออกไปลงทุนหลักทรัพย์ในต่างประเทศ ได้แก่

1.การเปิดเสรีให้นักลงทุนไทยรายย่อยออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้เอง ภายในวงเงินไม่เกิน 2 แสนดอลลาร์ต่อปี จากเดิมที่ต้องลงทุนผ่านตัวกลางในประเทศ เช่นบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือต้องเป็นนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูงตามเกณฑ์ที่กำหนด (Qualified Investor) และ

2.เพิ่มวงเงินรวมสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่จัดสรรให้นักลงทุนสถาบันภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แก่ กองทุน รวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนรายย่อยที่ลงทุนผ่านตัวกลาง เป็น 1.5 แสนล้านดอลลาร์จากเดิมที่ 1 แสนล้านดอลลาร์

การผ่อนคลายข้างต้นนอกจากจะช่วยปรับสมดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายให้มีฝั่งไหลออกมากขึ้นและช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทแล้ว ยังช่วยให้คนไทยมีทางเลือกในการลงทุนเพิ่มเติม สามารถบริหารความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจต่างประเทศ

ส่งผลให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมที่เน้นลงทุนในประเทศ ดังนั้น การสนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศระยะต่อไปอาจทำได้โดยการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน อาทิการฝากเงินใน FCD การลงทุน ผ่าน FIF ไปจนถึงการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยให้คนไทย มีความเชี่ยวชาญ สามารถประเมินความเสี่ยง ได้ดีขึ้น ทั้งความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและความเสี่ยงของประเทศที่ไปลงทุน

ซึ่งจะทำให้การไปลงทุนในหลักทรัพย์ ต่างประเทศของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพ รวมถึงในระยะต่อไป ธปท.จะผ่อนคลาย เกณฑ์การออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติมตามความเหมาะสม เพื่อรองรับความ ต้องการของคนไทยที่มีแนวโน้มออกไปลงทุน ในหลักทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้าง ผลตอบแทนที่สูงขึ้นในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องเป็นเวลานาน

คอลัมน์แจงสี่เบี้ย: โดย มุทิตา อริยะวุฒิกุล และ พัชรี พันธุ์พงศ์พิพัฒน์
ธนาคารแห่งประเทศไทย

บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย

Source: กรุงเทพธุรกิจ


Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"