จุดเริ่มต้นของจุดจบของระบบการเงินโลก

วันที่ 15 สิงหาคม 1971 เป็นเพียงวันหนึ่งในปฏิทิน แต่เป็นวันประวัติศาสตร์ มันไม่ได้เป็นวันสุดท้ายของระบบการเงินหรอก และมันก็ไม่ใช่เป็นวันเริ่มต้นของจุดจบ ...แต่มันเป็นจุดจบของบทเริ่มต้น ...แบบที่เชอร์ชิลเคยพูดไว้เมื่อปี 1942

บทเริ่มต้นคือการสร้าง Federal Reserve ในปี 1913 เพื่อให้พวกแบ้งเกอร์เอกชนสามารถเข้าควบคุมระบบการเงินและการตราธนบัตร ...สิงหาคม 1971 จึงเป็นจุดจบของบทเริ่มต้น หลังจากวันนั้นมา..เราก็ได้เห็นเฟสสุดท้ายที่อยู่ยั้งมาถึงครึ่งศตวรรษ..และพร้อมกันนั้นได้สร้าง Super Bubble ..ฟองสบู่ขนาดมหึมา ที่โลกยังไม่เคยเห็นมาก่อน ...ชาร์ต 1

ตอนนี้เรากำลังอยู่ที่บทสุดท้าย ที่อยู่มานานเกิน 100 ปี 100 ปีแห่งระบบการเงินจอมปลอม ที่เกิดและควบคุมโดยแบ้งเกอร์เพื่อผลประโยชน์ของพวกตน ...มันอยู่มาได้ยาวนาน แต่บทจบมันจะรวดเร็วและเจ็บปวด ...มันเร็วจนโลกจะเซอร์ไพร้ส์ ....และเฟสท้ายๆ จะเป็นไปแบบยกกำลัง (Exponential Moves)

แล้ว Exponential Moves มันเร็วแค่ไหนล่ะ

สมมติถ้าจะเติมน้ำให้ท่วมสนามฟุตบอลล์ โดย 1 หยดแรกในนาทีแรก แต่ทุกนาทีถัดไปเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว การเพิ่มขึ้นจะเป็น 1..2..4..6..8..16..32 ฯลฯ ในทุกนาที ...จะต้องใช้เวลาเท่าไรถึงจะท่วมมิดสนาม? 1 วัน หรือ1 เดือน ไม่เลยมันใช้เวลาแค่ 50 นาที ...มันก็เข้าใจยากสักหน่อย แต่ที่น่าสนใจคือ ...ถ้าถามว่าในนาทีที่ 45 จะมีน้ำในสนามเท่าไร ส่วนใหญ่จะเดาว่า 75%-90%

ไม่ใช่เลย หลังจาก 45 นาทีผ่านไป บนสนามมีน้ำแค่ 7% เท่านั้น ....แต่ 5 นาทีสุดท้ายนี่แหละ มันจะเพิ่มจาก 7% เป็น 14%..28%..56%..102% ....นี่คือ Exponential Moves

มันใช้เวลา 107 ปีที่โลกสร้างหนี้และภาระผูกพันธ์ได้ถึง $2,000 ล้านล้าน ซึ่งส่วนใหญ่..เกิดขึ้นในช่วง 25 ปีหลังนี่เอง

ลองดูเฉพาะหนี้ทั้งโลกในชาร์ต 2 ..มันเพิ่มสามเท่าในศตวรรษนี้ จาก $80 ล้านล้านเป็น $258 ล้านล้าน ...เฟสท้ายๆนี้..เกิดขึ้นแบบ exponential

ถึงแม้จะเพิ่มสามเท่าใน 20 ปีหลังมานี้ ..แต่สิ่งที่เราจะได้เห็นในอีก 5 ปีข้างหน้าจะน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่า เพราะพวกธนาคารกลางพยายามกู้ระบบ พวกเขากำลังเร่งผลิตและอัดเงินจำนวนมหาศาลแบบเป็นประวัติการณ์ การกู้ระบบการเงินมันต้องใช้เงินและอนุพันธ์ตลอดถึงระบบ shadow banking รวมกันถึง $2,000 ล้านล้าน ...แล้วเงินเฟ้อ hyperinflation ก็จะทวีคูณตัวเลขนี้ขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

What The World Will Experience

คงเป็นไปไม่ได้ที่เฟสสุดท้ายนี้จะทนอยู่ได้ถึง 5 ปี ..ฟองสบู่หนี้คงไม่ใช้เวลานานขนาดนั้นที่จะระเบิด ...ดังนั้น ก่อนปี 2025 ระบบการเงินทั้งหมดไม่เพียงแต่จะจำเค้าเดิมไม่ได้ แต่มันจะเหลือแค่เงาลางๆของที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น ...โลกจะได้เห็นผลของระบบเงิน ..ทรัพย์สิน ..และมูลค่าปลอมๆ รวมถึงหนี้ที่ไม่จำกัดมาตลอด 107 ปี

แล้วพอมันระเบิดออกในเวลาอันสั้น (ไม่ถึง 5 ปี) ก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหานี้จบลงนะ มันเป็นเพียงแค่หนี้และมูลค่าทรัพย์สินหายไปในหลุมดำเท่านั้น ทรัพย์สินที่อยู่ในรูปของกระดาษเช่น อนุพันธ์ทั้งหลายประมาณ $1,500 ล้านล้าน..จะหายไปเลย พันธบัตรทั้งหลายก็หมดค่า กิจการที่ดีที่อยู่ในตลาดหุ้นอาจรอดได้ แต่กำไรก็จะหายไปเยอะ ...ผลโดยเฉลี่ยคือ ราคาหุ้นในตลาดทั้งหมดจะร่วงหายไปถึง 95% เทียบกับมูลค่าแท้จริง

เศรษฐกิจโลกที่เคยอิงกับมูลค่าจอมปลอมจะต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว อาจนับเป็นสิบๆปีหรือนานกว่า อย่าลืมว่ายุคมืด Dark Age น่ะอยู่ถึง 500 ปีหลังอาณาจักรโรมันล่มสลายลง

The Final Phase

เรารู้ว่าในช่วง final phase นี้ ไม่มีใครจะทำให้เศรษฐกิจโตได้จากการพิมพ์เงินและสร้างหนี้ ...รัฐบาลไม่มีทางชนะได้

ตลอดมาในประวัติศาสตร์ ชนชั้นปกครองเอาเปรียบหลอกลวงประชาชนของตนในหลายๆรูปแบบ ภาษีเป็นวิธีพื้นๆที่สุด เป็นการยึดจากประชาชนแบบดื้อๆ เพื่อมา finance ค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยหรือสงครามของรัฐบาล การเก็บภาษีครั้งแรกคือที่อียิปต์เมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว จากนั้นมาก็เกิดมีภาษีการค้าและในสินค้าหลายๆรูปแบบ แม้แต่ภาษีของบ้าน..คิดตามจำนวนหน้าต่างในอังกฤษ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ต่อต้านการเก็บภาษี เพราะยังมีเรื่องของการที่ต้องเปิดเผยรายได้ซึ่งถือว่าเป็นการคุกคามเรื่องส่วนตัว

ฟังแล้วรู้สึกดีที่ยังมีเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้คนยุคนั้น ซึ่งต่างจากโลกปัจจุบันที่รัฐบาลมีการสอดรู้สอดเห็นในเรื่องส่วนบุคคลและพร้อมที่จะเข้าควบคุมในทุกกิจกรรม จอร์จ ออร์เวลพูดถูก ตอนนี้เรามี BIG BROTHER ที่คอยสอดส่องทุกย่างก้าวของพวกเรา ....แต่เรื่องนี้ก็จะจบลงในไม่ช้า เมื่อทุกอย่าง collapse รัฐก็จะหมดเงินที่จะใช้ในระบบที่ใช้ควบคุมประชาชนไปเอง

ภาษีเป็นเหุตผลสำคัญของการปฏิวัติในอเมริกาซึ่งทำให้เกิดการประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ ...ในปี 1913 สหรัฐมีการเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคล 1% สำหรับเงินได้ที่มากกว่า $3,000 ซึ่งน้อยคนที่จะมีรายได้ขนาดนั้น

ดังนั้นนับพันๆปีมาแล้วที่ทุกประเทศสามารถเดินหน้าไปได้โดยแทบไม่ต้องมีการเก็บภาษีเลย แต่สำหรับระบบราชการที่แสนจะฟุ่มเฟือยของปัจจุบันมันเป็นตรงกันข้าม ถ้ามีการสะสางระบบภาษีจนเหลือภาษีการค้าที่ 10% และภาษีนิติบุคคลก็เป็น 10% รัฐบาลก็ยังบริหารประเทศไปได้ เพียงแต่ตัดรายจ่ายที่เป็นขยะในระบบออกให้หมด โดยประชาชนอาจต้องมีการจ่ายค่าใช้สาธาณูปโภคบางอย่าง

นอกจากระบบภาษีแล้ว การทำให้เงินเฟียตหรือเงินกระดาษเสื่อมค่าก็เป็นอีกวิธีปกติที่ทุกรัฐบาลใช้เอาเปรียบประชาชนของตน การทำลายมูลค่าของเงิน คนธรรมดาทั่วๆไปก็จะสูญเสียเงินออมและเงินบำนาญไปบางส่วน แต่คนรวยจะได้เปรียบกว่า เพราะพวกเขาลงทุนโดยใช้ leverage ในตลาดทรัพย์สินเช่นหุ้นหรืออสังหาฯ ซึ่งก็ยังตามทันการเติบโตของเครดิตที่เป็นผลมาจากการทำลายมูลค่าเงิน

ถึงแม้พวกคนรวยจะต้องพบกับความความพินาศบางส่วนของความมั่งคั่งของพวกเขา แต่ทรัพย์สินส่วนที่เหลือก็ยังมีขนาดที่ไม่น้อย ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของพวกเขาก็ยังคงอยู่ถึงแม้มูลค่าจะลดไปบ้าง

คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทรัพย์สิน มีแต่หนี้ ...และสำหรับคนที่มีบ้านติดจำนอง มูลค่าทรัพย์สินที่มีก็ลดลงต่ำกว่ามูลค่าหนี้ ..คำถามคือ รัฐจะออกกฏหมายอนุญาตให้พวกเขายังอาศัยอยู่ในบ้านได้หรือไม่ ถ้าพวกเขาชักดาบ

การอนุญาตให้ลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหรือส่งดอกเบี้ยยังคงอาศัยอยู่ในบ้าน ย่อมต้องทำให้แบ้งค์เจ๊งแน่นอน ธนาคารกลางก็ยังคงต้องพิมพ์เงินเพื่อมาช่วยแบ้งค์เหล่านี้อีก

ส่วนใหญ่ความไม่สงบในสังคมมักจะเป็นผลมาจากวิกฤติเศรษฐกิจที่มาถ่างความแตกต่างระหว่างคนยากจนทั่วๆไปกับเศรษฐีให้กว้างออกไป ....ในประเทศตะวันตกส่วนใหญ่รวมถึงจีน รัสเซีย ขณะนี้อัตราส่วนช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมันมาถึงจุดสุดๆแล้ว ...ชาร์ตที่ 3 แสดงถึงแก็ปในสหรัฐระหว่างคนรวยสุด 0.1% กับจนสุด 90% เมื่อกลางยุค 1980s พวกชั้นล่างเป็นเจ้าของทรัพย์สิน 37% ..พวกท้อป 0.1% เป็นเจ้าของ 10% ...แต่มาตอนนี้ ทั้งสองกลุ่มมีทรัพย์สินพอๆกัน..แก็ปมาบรรจบกันแล้ว

การกระจายความมั่งคั่งในลักษณะนี้ไม่ดีต่อเศรษฐกิจเลย และที่สำคัญมันอันตรายมาก ...เมื่อเกิดการ downturn ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คนยากจนที่อดอยากหิวโหยอาจจะรวมกลุ่มก่อความไม่สงบหรือาจเป็นสงครามกลางเมืองได้เลย การมีผู้อพยพจำนวนมากในหลายประเทศขณะนี้ก็อาจนำไปสู่ฝ่ายขวาจัดหรือนีโอนาซีเกิดขึ้นได้

โดยสรุป เรากำลังเข้าใกล้ยุคอันตรายที่ไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม เราก็เริ่มได้เห็นการประท้วงด้วยความรุนแรงไปทั่วโลก ตามด้วยความรุนแรงของอาชญากรรม หลายรัฐบาลในโลกไม่สามารถควบคุมได้ แล้วถ้าสถานการณ์มันยิ่งกว่านี้ไปอีกล่ะ ทั่วโลกก็จะไม่มีที่ปลอดภัยเพราะรัฐบาลจะเริ่มเอาไม่อยู่มากขึ้น

Cr.Sayan Rujiramora

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"