มาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ทำให้ตลาดผันผวนรุนแรงในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาและยิ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ในตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.)

ประธานธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยและมีมาตรการกระตุ้นทางการเงินน้อยกว่าที่คาดและโทนเสียงของเขาได้สร้างความมั่นใจให้กับตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีท่าทีในแบบเดียวกันในการประชุมวันที่ 30-31 กรกฎาคมนี้ และแนวโน้มในขณะนี้ คือ เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% ไม่ใช่ 0.50% เหมือนที่บางคนได้สงสัย

ธนาคารกลางยุโรปได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยแต่กล่าวว่าอาจจะลดดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้ และพร้อมที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ในเวลาต่อมา ดรากีได้ให้ความเห็นว่า มีโอกาสน้อยลงที่เศรษฐกิจยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ผลที่เกิดขึ้นหลังการแสดงความเห็นของอีซีบีก็คือ ตลาดพันธบัตรและเงินยูโรแกว่งตัวอย่างรุนแรงและรวดเร็วโดยเงินยูโรอ่อนตัวลงในรอบหนึ่งปีก่อนที่จะดีดตัวกลับมาในวันเดียวกัน ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมนีที่มีอายุไถ่ถอน 10 ปี และ 30 ปี ได้ลดลงไปทำนิวโลว์ใหม่แต่ได้เปลี่ยนทิศทางอย่างรุนแรงในเวลาต่อมาเช่นกัน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ปรับตัวลงเช่นกัน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงถึง 150 จุดในบางช่วงและได้รับแรงกดดันตลอดทั้งวัน

นักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็นเพราะอีซีบีส่งสัญญาณสับสน ในช่วงต้นดรากีกล่าวว่า สถานการณ์ไม่ดีต้องมีมาตรการกระตุ้นอีกแต่พอตอนท้ายบอกว่า สถานการณ์ในยุโรปไม่ได้เลวร้ายและไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย อีซีบีจะดำเนินนโยบายอย่างช้า ๆ มากขึ้น

ตลาดการเงินได้กำหนดราคาหลักทรัพย์ใหม่เมื่อดรากีเริ่มพูดจนกระทั่งพูดจบ และความเห็นของเขาได้ช่วยยืนยันว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเพียง 0.25%

เครื่องมือจับตาเฟดของซีเอ็มอี กรุ๊ป ชี้ว่า ในขณะนี้ตราสารเฟด ฟันด์ กำลังสะท้อนว่ามีโอกาสเพียง 21% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% จากที่ก่อนดรากีปราศรัยมีโอกาส 28% ในทางกลับกันเทรดเดอร์ในตลาดมั่นใจเกือบ 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25%

การลดดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธนี้จะเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่าสิบปี ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มลดดอกเบี้ยในขณะที่เจเน็ต เยลเลน เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2551-2552 และได้ลดดอกเบี้ยต่อเนื่องมาจนถึงยุคของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐคนปัจจุบัน จนกระทั่งในปี 2558 เฟดได้เริ่มขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549

พาวเวลล์ได้ขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเมื่ออัตราการว่างงานต่ำเป็นประวัติการณ์และมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่ในที่สุดความกังวลดังกล่าวเริ่มลดลง เมื่อสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เริ่มยืดเยื้อ ส่งผลให้การเติบโตในต่างประเทศลดลง และมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดความแข็งแกร่งลง เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐหลายคนจึงเริ่มส่งสัญญาณที่จะดำเนินนโยบายอย่างเอื้อเฟื้อมากขึ้น

ในขณะนี้ดอกเบี้ยมาตรฐานของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.25-2.50% ซึ่งยังคงถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับยุคก่อน ๆ แต่ประวัติศาสตร์ของตลาดชี้ว่า การลดดอกเบี้ยใด ๆ จะเป็นสัญญาณคึกคักสำหรับหุ้น และในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ก่อนที่เฟดจะเข้าสู่วงจรการลดดอกเบี้ยครั้งใหม่ ดัชนีหุ้นสำคัญของสหรัฐฯ มักเป็นบวก

ในขณะนี้ตลาดตราสารเฟด ฟันด์ คาดการณ์ว่ามีโอกาส 58% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายน อย่างไรก็ดี มีคำเตือนจากนักกลยุทธ์ของแบล็กร็อกว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะไม่ลดดอกเบี้ยหลายครั้งตามที่มีการคาดการณ์กัน และเมื่อมีความผิดหวังเกิดขึ้นจะทำให้หุ้นปรับตัวลง

นักกลยุทธ์ของแบล็กร็อกอธิบายว่า ดัชนีเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 3,000 จุดในขณะนี้ไม่ได้เป็นเพราะผลกำไรบริษัท แต่เป็นเพราะสภาพคล่องที่เกิดจากความหวังที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยค่อนข้างรุนแรง และถึงแม้จะเห็นด้วยว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอย่างแน่นอน 0.25% ในวันพุธนี้ แต่หลังจากการประชุมครั้งนี้ไป ไม่เห็นด้วยกับความเห็นส่วนใหญ่ที่บอกว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอีก ทั้งนี้เป็นเพราะว่าตลาดคาดการณ์ไม่เก่งเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตหรือเส้นทางที่เฟดจะเดินไป และไม่เคยทายถูก และตัวเฟดเองก็ไม่ได้คาดการณ์เส้นทางในการดำเนินนโยบายของตัวเองได้เก่งกว่าตลาด ซึ่งสถานการณ์เช่นนั้นจะทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนและจะทำให้เกิดการจัดอันดับสินทรัพย์เสี่ยงใหม่

Source: ข่าวหุ้น

- Draghi sparks a wild ride in markets and cements expectations for a quarter-point Fed cut :

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you