เปิดสงครามเย็นศก.จีน-มะกันพลิกระเบียบโลก

ในที่สุดการขึ้นภาษีรอบใหม่ระหว่าง 2 เขตเศรษฐกิจใหญ่สุดมูลค่า 2.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็เริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้วในวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.นี้ หลังจากที่จีนประกาศล้มโต๊ะการเจรจากับสหรัฐในสัปดาห์นี้

และทำให้ช่องทางเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างทั้งสองฝ่ายดูมืดมนลง ฝ่ายสหรัฐขึ้นภาษีรอบใหม่กับสินค้าจีน 10% จำนวน 6,000 รายการ รวมเป็นมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ฝ่ายจีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีระหว่าง 5-10% กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 5,207 รายการ รวมเป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ นับเป็นการต่อยอดจากเดิมที่ทั้งสองประเทศขึ้นภาษีรอบแรกกันไปแล้วฝ่ายละ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ ณ ปัจจุบัน ศึกพิพาทการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3.6 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 11.7 ล้านล้านบาทเข้าไปแล้ว

ทว่า ประเด็นที่สร้างความกังวลให้ทั่วโลกมากกว่าก็คือ สงครามการค้าครั้งนี้จะไปจบที่ตรงไหน และเมื่อไร

แจ็ค หม่า แห่งอาลีบาบา บอกว่าศึกนี้อาจจะยืดเยื้อไปนานถึง 20 ปีเห็นจะได้ ขณะที่นักวิเคราะห์ของ เอเชียไทมส์ให้ไว้ถึง 30 ปี เมื่อมองจากยุทธศาสตร์ใหญ่ของฝั่งจีน

ทั้งนี้ อัตราภาษีรอบใหม่ที่ 10% และ 5-10% อาจดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสงครามการค้ายุคทศวรรษ 30 ที่อยู่ระหว่าง 13.5% จนถึงสูงสุด 59.1% (เฉลี่ยที่ราว 40%) ทำให้ตลาดทุนและนักวิเคราะห์บางส่วนยังพอวางใจได้บ้าง

แต่หากดูจากท่าทีที่จีนปิดประตูเจรจา (เบื้องต้น) ท่ามกลางความขัดแย้งที่ลุกลามออกไปยังภาคอื่นๆ ตั้งแต่ด้านสื่อจนถึงด้านกลาโหม และการตั้งการ์ดภายในของจีนเพื่อพร้อมรับแรงกระ แทกล็อตใหม่ ทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่านี่น่าจะเป็นศึกที่ยาวและยืดเยื้อกว่าที่คาด และอาจบานปลายไปสู่ "สงครามเย็นทางเศรษฐกิจ" ที่โลกไม่ได้เห็นมานานแล้วนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นระหว่างสหรัฐกับอดีตสหภาพโซเวียต

สมมติฐานที่ว่าประเทศหัวการค้าอย่างจีน และประธานาธิบดีหัวธุรกิจอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ น่าจะคุยกันเบื้องหลังได้รู้เรื่อง เพราะเป็นเรื่อง "ผลประโยชน์" เหมือนกันนั้น อาจไม่เป็นจริงเสมอไป หากทั้งสองฝ่ายมองไปยังภาพที่ใหญ่กว่าอย่าง "อนาคตของชาติ"แม้อาจมีบางคนดูถูกว่าทรัมป์ไม่น่าจะจริงจังขนาดนั้น และน่าจะเป็นเพียงเกมการเมืองหวังผลเลือกตั้งมากกว่า แต่คุณไม่อาจประเมินจีนต่ำเกินไปแค่ในฐานะพ่อค้าได้ เพราะนโยบายต่างๆ ของจีนในวันนี้ล้วนเป็นการเตรียมเพื่อมุ่งไปสู่ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีภายใต้ยุทธศาสตร์ "เมด อิน ไชน่า 2025" (Made in China 2025) และฟื้นความรุ่งเรืองของจีนให้กลับมาอีกครั้งแบบยิ่งใหญ่กว่าแผนการมาร์แชลของสหรัฐช่วงหลังสงครามโลก กับยุทธศาสตร์ "แถบและถนน" (Belt and Road : BRI)

ส่วนฝั่งสหรัฐเองที่เต็มไปด้วยสายเหยี่ยวหลายคน เช่น ปีเตอร์ นาวาร์โร ผู้อำนวยการสภาการค้าแห่งชาติสหรัฐ และวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์นั้น ก็ตอกย้ำมาตลอดว่าจีนต้องปรับพฤติกรรมมา "เล่นตามกฎ" ซึ่งการขึ้นภาษีของสหรัฐเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการบีบจีนภายใต้ คอนเซ็ปต์สำคัญ 3 ประการ คือ 1.เตะจีนออกจากศูนย์กลางซัพพลายเชนโลก 2.บีบให้บริษัทเอกชนหันไปพึ่งผู้ผลิตรายอื่นแทน และ 3.บีบให้ภาคเอกชนระหว่างประเทศหยุดทำธุรกิจกับจีน ทั้งสามข้อนี้แม้จะดูเป็นไปได้จริงยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย และยังสะท้อนถึงความจริงจังของสหรัฐที่ต้องการสกัดการขึ้นเป็นมหาอำนาจของจีนในอนาคต

ดังนั้น ไม่ว่าจะมองจากในมุมที่ทั้งสองฝ่ายแตกต่างทางความคิดอย่างสิ้นเชิง และในมุมที่เดิมพันอนาคตของชาติเอาไว้ ทั้งสองประเทศนี้ หรืออย่างน้อยก็คือจีน จึงไม่น่าจะยอมถอยจากหลักการของตัวเอง และทำให้สมมติฐานเรื่องสงครามเย็นทางเศรษฐกิจระหว่างขั้วสหรัฐกับจีน ยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้น

แอรอน ฟรีดเบิร์ก ศาสตราจารย์ด้านการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ซึ่งเป็นผู้ดูนโยบายด้านจีนในฐานะที่ปรึกษาให้อดีตรองประธานาธิบดี ดิ๊ก เชนีย์ สมัยประธานาธิบดีบุชคนลูก ให้มุมมองกับ วอชิงตันโพสต์ว่า การเผชิญหน้าของทั้งสองประเทศใหญ่อาจนำไปสู่ภาวะสงครามเย็นทางเศรษฐกิจระหว่างขั้วสหรัฐกับขั้วจีน

การแบ่งขั้วดังกล่าวจะเปลี่ยนโฉมความสัมพันธ์ทางการค้าเกือบ 4 ทศวรรษที่พึ่งพากันมาระหว่าง 2 ประเทศนี้ และจะส่งผลกระทบไปยังทั้งระบบเศรษฐกิจโลก เขย่าตลาดการเงิน ซัพพลายเชนของภาคธุรกิจ และยังเสี่ยงกระทบไปถึงภาคการทหารด้วย

ทรัมป์นั้นขู่มาตลอดว่าจะขึ้นภาษีให้แรงขึ้นอีกด้วยภาษีล็อตใหม่ 2.67 แสนล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่าได้กับการขึ้นภาษีสินค้าจีนทุกรายการทั้งหมด หากจีนตอบโต้กลับในล็อต 2 แสนล้านดอลลาร์ ปัจจุบันจีนทั้งขึ้นภาษีกลับและประกาศยกเลิกการเจรจาทีมการค้ากับสหรัฐ ทำให้เกิดการจับตาว่า ทรัมป์จะขึ้นภาษีอีกตามที่ขู่ไว้หรือไม่ ซึ่งโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐน่าจะทำตามที่ขู่ในวงเงิน 2.57-2.67 แสนล้านดอลลาร์ ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

แกรี ฮัฟโบเออร์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศ มองว่าหากทรัมป์ขึ้นภาษีดังกล่าวจริง ก็จะเท่ากับว่าสหรัฐมุ่งสู่การเผชิญหน้าสงครามเย็นกับจีนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และจะนำไปสู่การจำกัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในทุกรูปแบบตามมา

"คนมักจะมุ่งจับตาไปที่เรื่องการขึ้นภาษีเป็นหลัก ทั้งที่เป็นเพียงแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น มาตรการตอบโต้ที่ไม่ใช่ภาษีก็สำคัญไม่แพ้กัน และอาจมีผลสืบเนื่องยาวนานกว่าด้วย" ไมเคิล เฮอร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของ ยูเรเซีย กรุ๊ป กล่าว

โดย นันทิยา วรเพชรายุทธ

Source: Posttoday

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"