ถึงแม้การชุดบิทคอยน์จะเป็นธุรกิจแนวใหม่ที่นักลงทุนหลายคนสนใจ เพราะเชื่อว่ามีโอกาสทำกำไรได้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าบิทคอยน์ยังเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน สำหรับสิ่งที่นักลงทุนต้องระวังหากเข้ามาขุดบิทคอยน์ คือ
สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศไทย ล่าสุด ณ สิ้นปี 2563 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 52.1% เทียบกับสิ้นปี 2562 ที่อยู่ระดับ 41.2% ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก GDP ที่หดตัวลง ประกอบกับรัฐบาลต้องกู้ยืมเงินเพื่อมาพยุงเศรษฐกิจที่โดนผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
บิตคอยน์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดใกล้หลุดระดับ 46,000 ดอลลาร์ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการถือครองบิตคอยน์
ปรากฎการณ์ใหม่ที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในโลกการเงินและตลาดหลักทรัพย์ คือความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น ความบูมของบริษัทรูปแบบหนึ่งที่สามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยที่ไม่ต้องมีธุรกิจ ไม่ต้องมีลูกค้า หรือไม่ต้องมีผลประกอบการใด ๆ
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ในการกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"