ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดลบในวันนี้ (27 ส.ค.) สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อผลประกอบการของกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลงหลังจากที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงกดดัน นักลงทุนกำลังจับตาดูผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย
ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันจันทร์ (26 ส.ค.) มีความผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลบ การร่วงลงของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ก่อนการประกาศผลประกอบการเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยนักลงทุนยังคงติดตามข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐอย่างใกล้ชิด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (26 ส.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในเดือนกันยายนจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังช่วยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
SCB EIC รายงานว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตที่ 2.5% ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ได้ปรับลดประมาณการสำหรับปี 2568 เหลือ 2.6% จากเดิมที่ 2.9% โดยมีสาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัย:
-
การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน: การบริโภคเอกชนยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยว
หุ้น BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.95% ในเช้าวันที่ 26 สิงหาคม 2567 โดยราคาเพิ่มขึ้น 0.30 บาท สู่ระดับ 7.90 บาท เนื่องจากมีการเจรจากับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อลดค่าทางด่วนแลกกับการลงทุนในโครงการทางพิเศษ Double Deck ในอนาคต
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"