ราคาน้ำมันดิบดีดกลับจากแรงซื้อทำกำไร

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2561 + ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงราวร้อยละ 2 วานนี้

เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบกลุ่มโอเปก ในเดือน ก.ค ปรับตัวเพิ่มขึ้น 70,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 32.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับสูงสุดของปี 2561 หลังซาอุดิอาระเบีย คูเวต และและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่างเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยการผลิตน้ำมันจากอิหร่านที่อาจปรับตัวลดลงจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
- ความตึงเครียดด้านสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังทรัมป์ขู่จะปรับอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขึ้นเป็นร้อยละ 25 ซึ่งมากกว่าตัวเลขเดิมที่เคยระบุไว้ว่าจะมีการปรับขึ้นภาษีเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 10 ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลว่าปัจจัยข้างต้นจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความต้องการใช้น้ำมัน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรัสเซีย เผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรัสเซียในเดือน ก.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าระดับที่ตกลงกับกลุ่มโอเปกเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาว่ารัสเซียจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ 200,000 บาร์เรลต่อวัน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดยังคงถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับแรงซื้อจากอินโดนีเซียที่เบาบางลง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยถูกกดดันจากปริมาณการส่งออกจากจีนและอินเดียที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่าน

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 71-76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นหลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Syncrude ในแคนาดา กำลังการผลิต 360,000 บาร์เรลต่อวัน มีแนวโน้มกลับมาผลิตได้ตามปกติในเดือน ส.ค.

การร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกได้ปรับลดลงกว่าร้อยละ 5 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 111 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังทั้งสองกลุ่มผู้ผลิตตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมโอเปกที่ผ่านมา

ปริมาณการผลิตและส่งออกของลิเบียมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้น หลังท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบ Zueitina และ Hariga กลับมาดำเนินการตามปกติ นอกจากนี้ ท่าเรือ Ras Lanuf และ Es Sider สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้แล้วด้วย แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงถังเก็บน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Sharara ยังคงหายไปกว่า 160,000 บาร์เรลต่อวัน หลังเกิดเหตุลักพาตัวคนงานโดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์

Cr.ฐานเศรษฐกิจ

http://www.thansettakij.com/content/302926 

บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"