“วันวินาศกรรม” ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังจะมาถึง นักวิเคราะห์วอล์ สตรีท ชาร์ล ออร์เทล (Charles Ortel) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวสปุตนิค แสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานหนี้สินของสหรัฐฯและการขาดดุลในตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตามที่นักวิเคราะห์ชี้นั้น ระบบนี้สามารถแก้ไขได้และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์รู้วิธีดังกล่าวดี
การเพิ่มขึ้นของหนี้สินในประเทศอย่างต่อเนื่องทำให้นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกานั้นเป็นกังวลจำนวนมาก ซึ่งเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า “ภัยคุกคามในประเทศอย่างใหญ่หลวง”
แอนดี้ บิกส์ นักอนุรักษย์นิยมพรรครีพลับลิกันกล่าวแก่สำนักข่าว Fox ในกลางเดือนมิถุนายนว่า “เรากำลังจะถึงปลายทาง ลองนึกว่านี่คือน้ำตก และเรากำลังอยู่บนเรือที่แล่นไปในจุดที่เราไม่สามารถไปต่อได้และกำลังจะล่วงลงถ้าเราไม่รีบทำอะไรสักอย่าง”
ในขณะเดียวกัน สำนักงานงบประมาณของรัฐสภา (CBO) และสำนักงานความรับผิดชอบรัฐบาล(GAO) ได้เตือนสภาคองเกรสสหรัฐฯ ว่า การขาดดุลของรัฐบาลมีโอกาสถึง 1,000,000,000,000 เหรียญภายในปี 2020 และเสริมว่าหนี้ของประเทศต่อ GDP อาจพุ่งขึ้นถึง 106 เปอร์เซนต์ภายใน 14-22 ปี
ตามที่นักวิเคราะห์กล่าว ทีมงานของทรัมป์นั้นรู้ดีว่าต้องแก้ปัญหาอย่างไร?
ออร์เทลกล่าวว่า คณะบริหารของทรัมป์รับทอดปัญหามาจากอดีตประธานาธิบดีโอบามาผู้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ทว่ากลับทำให้แย่ลงและส่งผลสืบเนื่องถึงจุดที่สหรัฐฯกำลังเผชิญในทุกวันนี้
“ใช่ครับ อเมริกาเราต้องเลิกขอยืมสักที และใช่ พวกเราต้องเริ่มเรียนรู้วินัยทางการเงิน ทั้งรัฐบาลกลาง ทั้งรัฐต่างๆ และท้องถิ่นที่เคยใช้เงินไปกว่า 600 พันล้านเหรียญต่อปี” ออร์เทล์เน้นย้ำ
นักวิเคราะห์ชี้ถึงประเด็นว่า ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง นักลงทุนทั้งหลายก็ได้พยายามสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนโยบายของโอบามา รวมทั้งนโยบายของบุชทั้งสอง และ บิล คลินตัน “ด้วยการประมูลราคาให้สมดุลอย่างเพียงพอ”
ออร์เทลชี้ว่า รากปัญหาของเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้มาจากสมัยศตวรรษ 200 และ 1990
“ตั้งแต่ปี 2001 รัฐบาลทุ่มเงินจำนวนมากไปกับด้านกองทัพ และเสียเงินจำนวนมหาศาลไปโครงการภายในประเทศที่ไร้สาระ ขณะเดียวกัน แหล่งกู้เงินสหรัฐ
อาทิ สำนักงาน บริษัท สถาบันทางการเงิน ได้เปลี่ยนทัศนคติต่อการเป็นหนี้ว่าเป็นเรื่องที่รับได้และไม่มีปัญหาท่ามกลางสถานการร์ที่ระดับหนี้เพิ่มมากขึ้นและอัตรากำไรดอลลาร์สหรัฐฯนั้นน้อยลงเรื่อยๆ และอยู่ในระดับที่ต่ำ” นักวิเคราะห์วอล์สตรีท กล่าว
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การที่สหรัฐฯจะออกจากจุดวิกฤตนี้ได้ สหรัฐฯจำต้องล้มลาง “การเชื่อมโยงทั้งโลก (Globalization) ที่ไม่เป็นระเบียบนี้” โดยนักเศรษฐศาสตร์เสรีนิยมใหม่
“โครงการเชื่อมโยงทั้งโลกนั้นเริ่มต้นในปี 1988 ที่พยายามจะสร้างเครือข่ายให้ทุกประเทศทั่วโลกเชื่อมต่อกันสำหรับผู้นำทางการเมือง ซึ่งทำให้บั่นทอนความแข็งแรงรัฐบาลของประเทศและกลับสนใจสร้างความแข็งแกร่งให้การเมืองระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติแทน”
โครงการ Globalization นั้นมุ่งเป้าส่งเสริมการรวมกลุ่มบริษัทหลากหลายประเทศและพันธมิตรทางการเมือง ซึ่งไม่ได้ก่อผลดีให้แก่ชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน
เมื่อนักวิเคราะห์ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐฯและแผนกลยุทธ์ของทรัมป์เขากล่าวว่า “สิ่งที่สื่อต้องเฝ้าจับตาคือต้นเหตุของความฉิบหายที่เกิดขึ้นในตอนนี้”
ตามที่นักลงทุนแสดงความเห็น เป็นไปได้ว่าฝ่ายตรงข้ามของทรัมป์นั้นกำลังใช้วิกฤตปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ขึ้นมาในการโจมตีทรัมป์และตัวแทนพรรครีพลับบลิกันสำหรับการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้
“ในที่นี้ ผมขอเพ่งเล็งไปที่ จอร์จ โซรอส และบรรดาผู้ที่เกลียดทรัมป์คนอื่นๆที่ได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปเป็นพันล้านก่อนที่จะเริ่มพนันท้าทายรัฐบาลของทรัมป์ไปทั่วโลก ซึ่งนี่ไม่ทำให้ผมแปลกใจเลยที่จะเห็นพวกเขาเหล่านี้เริ่มพนันท้าทายแผนการฟื้นฟูของทรัมป์”
https://sputniknews.com/analysis/201807061066116818-national-debt-federal-deficit/
RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หมี CNN
บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman