ภาวะเงินทุนไหลออกจากจีนยังไม่กระเตื้องขึ้น โดยจากรายงานของบลูมเบิร์กระบุว่า เดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมา เงินทุนไหลออกจากจีนแย่ลงไปอีก ทำสถิติไหลออกสูงที่สุด
ทั้งนี้ หากดูตามข้อมูลของสำนักบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีนที่เผยแพร่ออกมา
พบว่าธนาคารจีนได้ขายเงินตราต่างประเทศให้บริษัทต่าง ๆ ที่เป็นลูกค้า 3.67 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุดนับจากเดือนธันวาคม 2016 ขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกจีนก็เตะถ่วงไม่ยอมนำดอลลาร์สหรัฐมาแลกเป็นเงินหยวน ส่วนประชาชนทั่วไปก็พากันซื้อเงินตราต่างประเทศสำหรับท่องเที่ยว
ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นมุมมองที่ระมัดระวังต่อเงินหยวน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของจีนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยสหรัฐ ทำให้ดอลลาร์ได้รับความนิยมกว่า ขณะเดียวกัน การที่ธนาคารกลางจีนรักษาความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อดอลลาร์ไว้ในช่วงแคบ ๆ ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ ก็ยิ่งทำให้การบริหารค่าเงินหยวนยากขึ้นไปอีก
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมนแซกส์ กรุ๊ป อิงก์ ระบุว่า คาดว่าผู้วางนโยบายของจีนจะยังคงควบคุมการไหลออกของเงินทุนอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความคาดหวังจากตลาด ว่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงไปอีก ด้วยการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเข้มข้นและบริหารสภาพคล่องนอกประเทศ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่นักลงทุนต้องการเงินตราต่างประเทศ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพวกเขามีมุมมองบวกต่อหลักทรัพย์ใด ๆ ก็ตามที่ไม่มีเงินหยวนครอบงำอยู่ และหากมองดูดุลบัญชีเดินสะพัด (ดุลการค้า+ดุลบริการ) ก็ไม่ได้สนับสนุนค่าเงินหยวนเช่นกัน เพราะแสดงให้เห็นถึงการซื้อสุทธิเงินตราต่างประเทศ อันเป็นสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยมาก เพราะจีนเกินดุลการค้าจากการส่งออกมาเป็นเวลานาน แต่กลับกลายเป็นว่า ในส่วนของภาคบริการเกิดการขาดดุล เพราะคนจีนออกไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น
ตัน หวัง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์หั่งเส็ง แบงก์ ไชน่า บอกว่า บรรดาผู้ส่งออกของจีนมีแนวโน้มสูงมากที่จะถือเงินตราต่างประเทศเอาไว้แทนเงินหยวน เพราะพวกเขามีความคาดหวังต่ำเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมทั้งเกิดภาวะเงินทุนไหลออกอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2023 จีนประสบปัญหาเงินไหลออกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยไหลออกทั้งสิ้น 6.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งในรูปเงินบริษัทและครัวเรือน และเป็นที่น่าสังเกตว่าเป็นการไหลออกของเงินลงทุนโดยตรง เช่นการลงทุนก่อสร้างโรงงาน ซึ่งในครั้งก่อนหน้านี้เมื่อเกิดเงินทุนไหลออกในปี 2018 จีนใช้มาตรการคุมเพดานการไหลออกเป็นเวลาถึง 4 ปีติดต่อกัน
สำหรับมาตรการชุดใหญ่ที่รัฐบาลจีนประกาศออกมา เพื่อกอบกู้วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับการตอบสนองทางบวกจากตลาดนั้น “เอ็ดเวิร์ด ชาน” ผู้อำนวยการคอร์ปอเรต เรตติ้ง ของเอสแอนด์พี ระบุว่า แม้จีนจะมีมาตรการออกมา แต่เอสแอนด์พียังคงมีมุมมองเช่นเดียวกับช่วงก่อนหน้า ว่าตลาดอสังหาฯของจีนมีแนวโน้มที่จะอยู่ในสภาวะ “ค้นหาจุดต่ำสุด” แม้ว่านโยบายสำคัญที่จีนประกาศออกมาจะแสดงให้เห็นการเอาจริงเอาจังและทุ่มเทอย่างมาก เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับภาคอสังหาฯ แต่ต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล
ส่วน “หุย ซาน” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์โกลด์แมนแซกส์ ก็พูดในทำนองเดียวกันว่า แม้มาตรการบางอย่างจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่นการลดเงินดาวน์ต่ำกว่า 20% ถือว่ายังไม่เพียงพอ เพราะตามการประเมินของโกลด์แมนฯ เห็นว่าต้องใช้เงินอย่างน้อย 1 ล้านล้านหยวน เพื่อลดสินค้าคงคลังส่วนเกินในตลาด เพื่อให้ราคาบ้านสร้างใหม่สามารถหาจุดต่ำสุดภายใน 1 ปี
ขณะที่ ติง ลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์โนมูระระบุว่า จีนเดินมาถูกทางแล้วในการ “ยุติวิกฤตอสังหาฯ” เพราะมีการเปลี่ยนจุดมุ่งเน้นจากการสร้างบ้านรัฐ ไปสู่การรับประกันว่าจะสามารถส่งมอบบ้านที่จำหน่ายก่อนการสร้างให้กับผู้บริโภค เพื่อกอบกู้ความมั่นใจของผู้บริโภคกลับคืนมา เป็นก้าวเริ่มต้นสำคัญที่จะล้างซัพพลายส่วนเกิน
คอลัมน์ : ชีพจรเศรษฐกิจโลก
ผู้เขียน : นงนุช สิงหเดชะ.
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you