'สตาร์ค'ทำเสียหาย3.4หมื่นล.: ก.ล.ต. ผนึก 10 องค์กร แถลงฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุน กรณีหุ้น STARK ย้ำเร่งตรวจสอบเอาผิด

หากพบทุจริตโทษ จำคุกถึง 20 ปี ส่วนความเสียหายรวมประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท ด้าน สภาวิชาชีพบัญชี ระบุชัดดำเนินการตามมาตรฐานสากล ยืนยัน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ร่วมมือทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบ
หุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK

กับมหกรรมการแต่งบัญชีที่สั่นสะเทือนวงการตลาดทุนไทย ทำให้ในวานนี้ (26มิ.ย.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รวมถึง 10 องค์กรในตลาดทุน ต้องเปิดแถลงข่าวใหญ่เรียกความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุน โดยทั้ง 10 องค์กร ประกอบด้วย ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.), สมาคม ส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย, สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ,สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน , ชมรมวาณิชธนกิจ สมาคมบริษัท หลักทรัพย์ไทย ,บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด , สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ,สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
นายธวัชชัย ทิพย์โสภณ รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ผลสอบกรณีพิเศษของ STARK พบธุรกรรมที่ผิดปกติหลายรายการ ซึ่งในการบังคับใช้กฎหมาย ก.ล.ต. ได้เร่งกระบวนการตรวจสอบ โดยประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เพื่อตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้สอบบัญชีว่าเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่
นอกจากนี้ ยังได้ความร่วมมือกับสภาวิชาชีพบัญชี ในการพิจารณาคุณภาพ การปฎิบัติงานของผู้สอบบัญชีที่เกี่ยวข้องพร้อมกับพิจารณาการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ รวมถึงการขายหุ้นกู้ผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบันให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อย
ก.ล.ต. อยู่ระหว่างตรวจผู้สอบบัญชีเพิ่มเติม
กรณีการดำเนินการตรวจสอบผู้สอบบัญชี และบริษัทผู้สอบบัญชี นายธวัชชัย กล่าวว่า ตามอำนาจกฎหมายของ ก.ล.ต. ไม่สามารถตรวจสอบและเอาผิดกับบริษัทผู้สอบบัญชีได้ โดยมีอำนาจตามกฎหมายในการให้ความเห็นผู้สอบบัญชีเท่านั้น ยอมรับว่า มีช่องโหว่ และกำลัง อยู่ระหว่างแก้กฎหมายแล้ว
ขณะเดียวกัน กระบวนการตรวจสอบ ผู้สอบบัญชีนั้นก.ล.ต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบว่า มีส่วนรู้เห็นการกระทำความผิด ก็จะมีโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดทุจริต รายอื่นที่มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะมีการดำเนินคดีกับ ผู้เกี่ยวข้องรายใด
"ในขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมาย ทุกคนคาดหวังความรวดเร็วและความเฉียบขาด ก.ล.ต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่กระบวนการทำงานให้รายละเอียดไม่มากนัก เพราะเคสนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ การกระทำความผิด บางเรื่องขอความร่วมมือกับ ป.ป.ง. ดีเอสไอ และการทำงานเชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่นมีกรอบเวลาทำงาน การประสานความร่วมมือกันครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ซึ่งจะมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมตามมา ก.ล.ต.แม้ไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้ถือหุ้นได้แต่ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ เพื่อที่จะร่วมมือเยียวยาในแต่ละหน่วยงาน"
ขณะที่กรณีหุ้นกู้ STARK กล่าวว่า จะเข้าไปตรวจสอบว่าหุ้นกู้ที่ระบุเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น แต่กลับมีการเสนอขายให้กับนักลงทุนรายย่อยด้วย นายธวัชชัย กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการ ตรวจสอบ
ส่วนประเด็นคำถามว่า เหตุใดทั้งก.ล.ต.และตลท.จึงไม่อายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ โดย นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า เนื่องจากเป็นกรณีที่แตกต่าง จาก บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ที่มีผู้เกี่ยวข้องและผู้เสียหายชัดเจน แต่กรณีนี้ยังต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ อีกมาก
เบื้องต้นประเมินความเสียหายในคดี STARK ไว้ประมาณ 34,000 ล้านบาท จากหุ้นกู้ 5 รุ่น รวม 9,100 ล้านบาท และความเสียหายจากการทุจริตงบการเงินราว 25,000 ล้านบาท
เผยมีผู้เสียหายฟ้องจรรยาบรรณแล้ว
ด้าน นายสุพจน์ สิงห์เสน่ห์ กรรมการ ผู้อำนวยการ สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ตอนนี้รับทราบอย่างไม่เป็นทางการว่า มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณี STARK มากล่าวโทษต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณ ของสภาวิชาชีพฯ เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากตรวจสอบพบว่า ผู้สอบบัญชีกระทำผิดจรรยาบรรณ ก็จะมีบทลงโทษอย่างรุนแรง คือการพักใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาต
อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่เกิดปัญหาทาง สภาวิชาชีพบัญชี ฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพร้อม ร่วมมือทุกองค์กร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ในตลาดทุน
"เราขอยืนยันว่าบทบาทหน้าที่ของสภา ผู้สอบบัญชีฯ ได้จัดทำและกำหนดมาตรฐานการทำงานของผู้สอบบัญชี ตามมาตรฐานสากล เป็นไปตามที่มาตรฐานผู้สอบบัญชีทั่วโลกปฏิบัติกันอยู่ และมีการปรับปรุงมาตรฐานต่างๆ ตามสภาพแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้สอบบัญชีในตลาดทุนยังต้องผ่านการรับรองจากก.ล.ต. เป็นมาตรฐานที่เชื่อถือได้"
ระวังกรณีบอร์ดสภาวิชาชีพฯส่งนั่งกรรมการบจ.
ขณะที่ กรณีที่มีคณะกรรมการฯ สภาวิชาชีพบัญชีฯ เคยเป็นกรรมการผู้บริหาร STARK นั้น นายสุพจน์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ดังกล่าวของคณะกรรมการฯสภาวิชาชีพบัญชี เป็นงานอาสาสมัคร หรือสมัครใจเข้าไปช่วยดูแล ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
อย่างไรก็ตาม สภาวิชาชีพบัญชีฯ จะใช้ความระมัดระวังมากขึ้น หากผู้ที่ได้รับความเสียหายพบการกระทำผิด สามารถร้องกล่าวโทษคณะกรรมการจรรยาบรรณของ สภาวิชาชีพฯได้
สมาคมบลจ.เอาแน่ ฟ้องร้องแบบกลุ่ม
นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคม สมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือ AIMC กล่าวว่า สมาคมฯได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย.2566ที่ผ่านมา เรื่องข้อสรุปการเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนสถาบันที่มีการลงทุนหุ้น STARK ด้วยแนวทางการฟ้องร้องแบบร่วมกลุ่มสมาชิก บลจ.กับอดีตทีม ผู้บริหารSTARK ขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับนักกฎหมาย เพื่อดำเนินการฟ้องร้องดังกล่าว
สำหรับนักกฎหมายที่จะเข้ามาจัดการเรื่องนี้ จำเป็นต้องใช้นักกฎหมายที่เป็นบริษัทของคนไทย เนื่องจากมีความเข้าใจสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า หลังหารือทางก.ล.ต.ได้มีเสนอทีมนักกฎหมายมา 2 บริษัท ทางสมาคมบลจ.ต้องมาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมว่าสามารถฟ้องร้องได้ในแง่ไหนบ้าง หลังจากนี้ ทางสมาคมบลจ.เตรียมเรียกสมาชิกร่วมหารืออีกครั้งในเร็วๆ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า หลังจากที่สมาชิกบลจ.รับรู้ว่าเงินเพิ่มทุนSTARKแล้วไม่นำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนตามวัตถุประสงค์ตามที่แจ้งไว้ บลจ.ต่างพากันลดน้ำหนักการลงทุนดังกล่าวก่อน ตลท. จะประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP ทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกองทุนเสียหายน้อยมาก ส่วนกรณีผู้ที่ตรวจสอบบัญชีนั้น ทาง สมาคมบลจ.ยังไม่สามารถกล่าวโทษใดได้ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลชัดในการกระทำผิด
นางชวินดา กล่าวอีกว่า อุตสาหกรรมจัดการลงทุนให้ความสำคัญการทำหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบของผู้จัดการกองทุน ใน การดูแลปกป้องผลประโยชน์สูงสุดของ ผู้ถือหน่วยลงทุน บลจ.ที่มีการลงทุนใน STARK มีความเห็นตรงกันในแนวทางการทำ class action
"ในฐานะนายกสมาคมฯ มองว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย เป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมกันหาแนวทางป้องกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย"
ผู้เสียหายหุ้นและหุ้นกู้ STARK รวมตัว
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตราสารหนี้ไทยกล่าวว่า หุ้นกู้ของ STARK มีจำนวน 5 รุ่นที่เป็น Call Default หรือถูกเรียกให้ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างโดยพลัน รวมเป็นมูลค่า 9.1 พันล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นกู้ของ STARK ทั้งนักลงทุนไทยและนักลงทุนสถาบัน รวม 4,528 ราย
นางสาวสิริพร สงบธรรม เลขาธิการสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) กล่าวว่า จากที่สมาคมฯ ได้เปิดให้ผู้ลงทุนหุ้น STARK ลงทะเบียนเพื่อดำเนินคดีแบบกลุ่ม ตั้งแต่ 19-25 มิ.ย.2566 มีจำนวนผู้ลงทะเบียน 1,759 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 4,063 ล้านบาท โดยหลังจากนี้สมาคมฯจะนำข้อมูลของผู้เสียหายมาตรวจสอบเบื้องต้น และให้ความรู้ในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม โดยจะเป็นคนกลางเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"