ในปีที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้ผลตอบแทนที่สูงมาก และแนวโน้มของการเจริญเติบโตก็ยังสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อีก ซึ่งอัตราเร่งของการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ทุกๆคนสามารถรับรู้ได้จากชีวิตประจำวันของตน
จนแทบจะเรียกว่าเทคโนโลยีโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับดิจิตอลเป็นอีกเมกะเทรนด์เลยก็ว่าได้ โดยส่วนตัวนั้นผมเองได้แบ่งหุ้นเทคโนโลยีออกเป็น 2 กลุ่ม
1. หุ้นที่มีรากฐานเป็นอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่นำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อ ลดต้นทุน ขยายตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ( เน้นการพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพในฝั่งของเจ้าของ)
หุ้นกลุ่มนี้เช่น กลุ่มค้าปลีกออนไลน์ การกู้ยืมเงินแบบ p2p การขายประกันออนไลน์ สมาร์ทโฮม โรงงานที่เป็นเครื่องจักรผลิตแบบออโต้ทั้งหมด ฯลฯ โดยเทคโนโลยีที่จะสามารถเปลี่ยนจากอุสาหกรรมดั้งเดิม มาเป็นดิจิตอล ประกอบด้วย
Blockchain ,Bigdata ,Deep learning ,AI ,Cloud computing ,Cloud storage และ Automation หรือหุ่นยนต์ โดยอาศัยการติดตั้งตัวเซ็นเซอร์เพื่อเชื่อมต่อโลก off line ให้เป็น on line
สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ การส่งข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัย และรวดเร็ว การวิเคราะห์ข้อมูล การทำการตลาด การเข้าถึงลูกค้า สามารถทำได้ในต้นทุนที่ต่ำลงอย่างมาก ทำให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง
ถ้าเรารู้ และเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วโอกาสอยู่ที่ไหน ???? แล้วทำไมบริษัทต่างๆที่มีเงินในปัจจุบันไม่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ??
ไม่ใช่ทุกบริษัทจะสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากทุกบริษัทต่างมีโครงสร้างองค์กรของแต่ละที่อยู่แล้ว และตัวพนักงานในองค์กรเองเป็นอุปสรรคที่สุดที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้
การใช้ หรือสร้างเทคโนโลยีใหม่นั้นบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็ยังเป็นที่ขาดแคลนอย่างมาก แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกาก็มีการซื้อตัวจากบริษัทอื่นให้เห็นเป็นข่าวอยู่ และเทคโนโลยีเหล่านี้ยังถือว่าใหม่มากๆซึ่งยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ และอาจมีความเสี่ยงที่ไม่มีใครคาดคิด หรือมีข้อบกพร่องที่ยังไม่เคยแสดงให้เห็นเลยก็ได้
ลองจินตนาการถึงบริษัทที่ใช้พนักงานน้อยกว่า 10 เท่า หรือ 100 เท่า เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมเมื่อปรับปัจจัยด้านขนาดแล้ว
ยังสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าได้อย่าง Real time แล้วนำไปวิเคราะห์ทันที สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างทันที เมื่อมีการร้องเรียน หรือขอความช่วยเหลือ รวมถึงถ้ามีข้อมูลมากพอสามารถแนะนำสินค้าที่ลูกค้าต้องการ ทั้งๆที่ลูกค้าเองไม่เคยรู้ว่าตนเองต้องการสินค้านี้เลยก็ได้
บริษัทเหล่านี้ต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงสูงมากๆ แต่ถ้าสามารถทำให้ลูกค้ายอมรับ รวมถึงพัฒนา และปรังปรุงระบบอยู่ตลอดเวลาจนวันหนึ่งสามารถเป็นเจ้าตลาดได้ เมื่อนั้นก็คงยากที่คนอื่นจะมาแย่งส่วนแบ่งการตลาด เนื่องจาก ต้นทุนที่ต่ำ ข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก และองค์ความรู้ใหม่ๆที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล
สำหรับผมแล้วแม้ว่าบริษัทเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงมากแต่ก็ยังคงน่าลงทุน เนื่องจากเราสามารถลดความเสี่ยงได้หลายทางมากๆ เช่นกระจายการลงทุน หรือลงทุนในสัดส่วนต่ำเมื่อเทียบกับพอร์ตการลงทุน รวมถึงศึกษา และติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทว่าเป็นไปตามคาดไหม แตกต่างจากที่คาดเพราะอะไร แล้วทำการเพิ่ม หรือลดน้ำหนักการลงทุน
บริษัทเหล่านี้เกิดขึ้นจริงแล้ว และบางบริษัทได้นำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วด้วย นี่แหละคือโอกาส!!!!!
ADMIN สรธร #SORATHORN WATTANAMALACHAI #DINOTECH 5.0
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman