รัสเซียอาจไม่ใช้ Bitcoin เลี่ยงการคว่ำบาตร นักวิเคราะห์คาด ปูตินเตรียมแผนมาอย่างดี

ในขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงหาทางคลี่คลายไม่ได้ นานาประเทศได้ดำเนินมาตรการกดดันรัสเซียทุกวิถีทาง โดยเฉพาะการคว่ำบาตรทางด้านเศรษฐกิจ การตัดการเชื่อมต่อกับระบบ SWIFT ซึ่งเป็นระบบชำระเงินที่เชื่อมธนาคารทั่วโลก

จนขณะนี้ค่าเงินรูเบิลรัสเซียร่วงลงอย่างน่าใจหาย ทำสถิติต่ำสุดที่ 0.30 บาทต่อ 1 รูเบิลรัสเซีย ปัจจุบันอยู่ที่ 0.32 บาท และจนถึงขณะนี้ก็มีรายงานข่าวอีกว่า ทางอเมริกากำลังพยายามหาวิธีใหม่ที่จะยกระดับความกดดัน โดยกำลังพุ่งเป้าไปที่การใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin และ Ethereum
นับตั้งแต่รัสเซียประกาศทำสงครามกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สถิติจากผู้ให้บริการด้าน Crypto Data อย่าง Kaiko แสดงให้เห็นว่าธุรกรรมในการเทรด Bitcoin ในคู่เหรียญรูเบิลรัสเซียและคู่เหรียญฮรีฟเนียยูเครน ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลยูเครนและอเมริกาได้ออกมาเรียกร้องให้กระดานเทรดคริปโทฯชื่อดังของโลกอย่าง Binance และ Coinbase ยกเลิกการให้บริการกับผู้ใช้ในรัสเซีย แต่ผู้ให้บริการทั้ง 2 รายก็ต้องออกมาปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า ผู้คนในทั้ง 2 ประเทศได้รับความบอบช้ำมากพออยู่แล้ว และการแบนผู้ใช้จากประเทศใดประเทศหนึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาควรทำ เพราะมันขัดกับการเกิดขึ้นของ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลควรจะไร้พรมแดน ไม่ควรถูกแทรกแซงจากเหตุการณ์ใดๆก็ตาม
อย่างไรก็ตามทางอเมริกาได้มีการตั้งคณะทำงานใหม่เพื่อเข้ามาเพิ่มความเข้มข้นในการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่ง 1 ในเป้าหมายของทีมงานนี้คือ การหาทางแก้เกมรัสเซียที่อาจใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของอเมริกา ครอบคลุมไปถึงการทุจริตฟอกเงินในต่างประเทศด้วย
แต่ก็มีข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ แม้คริปโทฯจะได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่การจะใช้คริปโทฯหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของนานาประเทศนั้น ในทางปฏิบัติถือว่าไม่น่าเป็นไปได้
นั่นเพราะตลาดคริปโทฯมีสภาพคล่องเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบธุรกรรมผ่าน Blockchain ได้ โดย Yaya Fanusie เจ้าหน้าที่ Center for a New American Security ซึ่งทำหน้าที่ ประเมินความมั่นคงของชาติและความเสี่ยงจากการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล บอกกับสำนักข่าว CNBC ว่า ที่จริงแล้ว มีวิธีที่ดีกว่าการใช้ Bitcoin ในการหลบเลี่ยงผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางการเงิน โดยเขากล่าวว่า
“ขนาดและสภาพคล่องของตลาดคริปโทฯนั้นไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้ การใช้ Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรเป็นเหมือนการถูกงดจ่ายเงินเดือน 1 เดือน แล้วต้องใช้เงินในกระปุกออมสินเพื่อชดเชย”
ที่จริงแล้วการคว่ำบาตรสำหรับรัสเซียไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร และรัสเซียก็มีการเตรียมการเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2014 ที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียในยูเครน มีการคาดว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้สร้างเกราะป้องกันรัสเซียจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่ารัสเซียต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี
ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่รัสเซียใช้ เกี่ยวข้องกับการกระจายความเสี่ยงออกจากคลังของอเมริกาและเงินดอลลาร์ เพื่อสร้างโครงสร้างหนี้รูปแบบใหม่โดยอิงจากเงินยูโรและทองคำเป็นส่วนใหญ่ โดยรัสเซียได้รวมทุนสำรองต่างประเทศมูลค่าถึง 630 พันล้านดอลลาร์ และใช้เงินก้อนนี้เป็นเกราะป้องกันทางการเงินที่มาจากผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าว CNBC ยังรายงานอีกว่า รัสเซียมีอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP เพียง 18% ซึ่งเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ด้านราคาน้ำมันก็พุ่งขึ้นเหนือ 113 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ นั่นทำให้รัสเซียได้ประโยชน์อย่างแน่นอน มีการคาดว่าจนถึงตอนนี้อเมริกาก็ต้องหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรรการขายน้ำมันของรัสเซียด้วยซ้ำ
Salman Banaei หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะของ North American for Chainalysis ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการติดตามกิจกรรมบนเครือข่าย Blockchain กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงและและเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของรัสเซียได้เตรียมพร้อมสำหรับการคว่ำบาตรมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะเกิดการเคลื่อนไหวของเงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์ก่อนที่รัสเซียจะประกาศโจมตียูเครน ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่รัสเซียจะย้ายเงินทุนไปอยู่ในคริปโทฯตอนนี้ ในทางกลับกันหากรัสเซียจะใช้คริปโทฯหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจริงๆ น่าจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆในหลายเดือนต่อมา และถ้าเป็นจริงนั่นอาจทำให้ทั้งโลกเห็นว่าเงินทุนที่วิ่งไปหารัสเซียนั้นมาจากที่ไหนบ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นช่องโหว่อย่างมาก
ตอนนี้ประเด็นที่ต้องจับตามองน่าจะไม่ใช่การใช้ Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร แต่อาจเป็นการเริ่มต้นใช้ CBDC ของรัสเซีย โดยในเดือนตุลาคม ปี 2020 Elvira Nabiullina ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย ออกมาประกาศว่า รัสเซียมีแผนที่จะสร้างต้นแบบของ “รูเบิลดิจิทัล” และจะเริ่มนำร่องใช้งานในปี 2022
โดยรูเบิลดิจิทัลจะเป็นสกุลเงินประจำชาติของประเทศ คล้ายกับหยวนดิจิทัลของจีน ถูกควบคุมจากส่วนกลางโดยธนาคารแห่งรัสเซียและใช้เทคโนโลยี Distributed Ledger (DLT) ซึ่งในตอนประกาศครั้งแรกนั้นมีการคาดว่าเงินรูเบิลดิจิทัลอาจช่วยลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ และบรรเทามาตรการคว่ำบาตรต่างๆ
ซึ่งก่อนที่รัสเซียจะประกาศสงครามกับยูเครน Michael Greenwald อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้กล่าวยอมรับกับ CNBC ว่า เงินรูเบิลดิจิทัลอาจสร้างปัญหาให้อเมริกาได้ โดยเฉพาะหากรัสเซีย จีน และอิหร่าน สร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางเพื่อดำเนินการนอกสกุลเงินดอลลาร์ และประเทศอื่นๆเลือกปฏิบัติตาม
Source: การเงินธนาคารออนไลน์

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"