Global Economic Divergence ตอนที่ 2 by ทวีสุข ธรรมศักดิ์

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มขึ้นทางทิศตะวันออก ประเทศจีนได้มีการวางแผนประเทศ ในการพัฒนาประเทศให้ขึ้นมาเป็นที่ 1 ของโลก เรียกโครงการนี้ว่า"100 years marathon" ให้ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลก

ในปี 2040 จีนจึงได้วางโครงสร้างของประเทศมาอย่างต่อเนื่องจีนได้พัฒนาภายใต้โครงสร้างเศรษฐกิจแบบเกษตรกรรมมาสู่ระบบอุตสาหกรรมและ....กำลังไปสู่ประเทศ นวัตกรรม โดยผู้นำจีนได้ประกาศว่าประเทศจีนจะไม่ผลิตสินค้าราคาถูกอีกต่อไป

หากจะมีใครที่มองเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของระบอบทุนนิยมได้ดีที่สุดก็ต้องมาจากฝั่งของผู้นำในระบบตรงกันข้ามก็คือ ระบอบคอมมิวนิสต์เราจะเห็นได้ว่าประเทศจีนได้ดำเนินนโยบาย...แบบ"ย้อนศร...ทุนนิยม"กลุ่มมันสมองของประเทศได้ศึกษาและสามารถ...ย้อนศร..ทุนนิยมได้ จนถึงขั้นประธานาธิบดี โดนัน ดัก ถึงต้องดำเนินนโยบายปิดประเทศ

พรรคคอมมิวนิสต์ได้มองเห็นเห้นหัวใจของการขับดันทางเศรษฐกิจ...ก็คือ...การเงินและการธนาคารจึงได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านการธนาคารของโลกมาวางระบบ การธนาคารของประเทศ โดยที่ปรึกษาที่สำคัญก็คือ Evelyn de Rothschild ในการวางระบบให้กับธนาคาร ICBCจะเห็นได้ว่า 4 ธนาคารหลัก คือแรงขับดันที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของจีนขยับขึ้นมาสู่อันดับ 2 ของโลก

หลักการณ์สำคัญในการสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศประกอบไปด้วยการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบไปด้วย
- ถนนในหลายๆขนาดเช่น Motor Way , Super Highway etc
- ระบบราง ประกอบไปด้วย ระบบรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง รถรางตามหัวเมืองใหญ่ๆ
- ท่าอากาศยาน ทั่วประเทศ และพัฒนาให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ ระบบสายการบิน ทั้งระดับ Luxury ไปจนถึงระดับ Lowcost
- เครือข่ายการสื่อสาร และอุตสาหกรรมทางด้านเทคโนโลยี่

การพัมนาเช่นนี้ได้ประโยชน์อะไรบ้าง
- การเพิ่มขึ้นของ...ราคาที่ดิน..และ..อสังหาริมทรัพย์เท่ากับว่า...ราคาที่ดินทั้งประเทศจีนปรับเพิ่มขึ้นทั่งประเทศทันที...และ...ประเทศมีพื้นที่ ที่มีขนาดที่ใหญ่อันดับ 4 ของโลกเมื่อราคาที่ดินเพิ่มขึ้นก็เท่ากับว่า มูลค่าหลักทรัพย์เพื่อไปขอวงเงินกู้เพื่อประกอบการค้าของประชาชนทั้งประเทศก็ปรับเพิ่มขึ้นไปด้วย(แต่ถ้าประชากรประเทศด้อยพัฒนาก็จะ...ขาย..ที่ดินออกไป..แล้วเอาเงินไปซื้อสินทรัพย์เสื่อมค่าเช่น รถกระบะ และกินเลี้ยงกินเหล้า...สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไร)

เมื่อที่ดินหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่มมูลค่าขึ้น ประชาชนก็มีวงเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นเพื่อทำการค้าเมื่อบริษัทมีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น ก็นำบริษัทเข้าระดมทุนด้วยการจดทะเบียนในตลาดหุ้น ก็ทำให้เครดิตในการขอเงินกู้เพื่อมาทำธุรกิจเพิ่มขึ้นความมั่งคั่งของประชากรก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ส่วนธุรกิจที่ล้ม..ภาคธนาคารก็เข้ายึดกิจการและนำออกขายทอดตลาด จะเห็นว่า...เป็นโมเดลของการพัฒนาประเทศในระบบทุนนิยมแบบอเมริกา แต่ อเมริกาพัฒนาจากประชากร 200 ล้านคน จีน....พัฒนาจากประชากร 1,200 ล้านคนที่ยากจน...จากระบบคอมมิวนิสต์แบบเดิม...จึงมีแรงขับดันที่สูงมากที่จะต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของตนเอง

ทำให้จีนเมื่อ 20 ปีที่แล้วมีชนชั้นกลางประมาณ 20 ล้านคน มาถึง 400 ล้านคนในปัจจุบันเมื่อรัฐบาลและประชาชน...ไปในทางเดียวกันและถูกควบคุมจากนโยบายของประเทศการขับดันของทุนในระบบคอมมิวนิสต์จึงเกิดการขับดันในเติบโตอย่างรวดเร็ว

ที่สำคัญนโยบายของจีน คือ การระดมทุนจากทั่วโลกให้มาสร้างโรงงานในจีนเป็นการระดมทุน...ไม่ใช่..การกู้ยืมเงิน...จากต่างประเทศทำให้หนี้จึงเป็นการก่อหนี้จากภายในไม่ได้เป็นการก่อหนี้จากต่างประเทศจึงทำให้...ไม่สามารถโจมตีเศรษฐกิจของประเทศจีนได้อย่างที่ทำกับประเทศอื่นๆทั่วโลก

สำนักข่าวและนักวิเคราะห์ทั่วโลก มองว่าหนี้ที่เกิดในประเทศจีนคือปัญหาการพัฒนา จะสังเกตว่า จีนรับมือได้เป็นอย่างดีด้วยการดำเนินการ
- ปรับระบบเศรษฐกิจของประเทศจากระบบอุตสาหกรรมไปสู่การเป็นประเทศนวัตกรรม เพื่อกระตุ้นการบริโภคสินค้าเทคโนโลยี่ที่มีราคาแพง
- เพิ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปสู่ การใช้เทคโนโลยี่ขั้นสู่มาวางระบบของประเทศและยกระดับเส้นทางสายไหม

ก็จะทำให้ราคาที่ดินและหลักทรัพย์ต่างเพิ่มมูลค่าขึ้น ทำให้ปริมาณหนี้ลดลงจากราคาที่ดินและสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น

ครั้งต่อไปจะมาเขียนเรื่องการสร้างนวัตกรรมกับทุนนิยมย้อนศร
ทวีสุข ธรรมศักดิ์ Executive Consultant - Investment DTGO

ขอบคุณผู้สนับสนุน
https://line.me/R/ti/p/%40brandname3j 
Line ID:@brandname3j
- + - + - + - + - + - + - + - + - +
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"