ความเพียรพยายาม คือ กุญแจแห่งความสำเร็จของสิงคโปร์ ที่ก้าวขึ้นอันดับ 1 โลก

Co-creation คือ การสร้างคุณค่าร่วมกันของบริษัทและลูกค้า ซึ่งเป็นการให้ลูกค้าร่วมสร้างประสบการณ์การบริการให้เหมาะสมกับพวกเขา ไม่ใช่การให้ลูกค้ามาเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินการ แต่เป็นการร่วมกันดำเนินการสร้างคุณค่า

ซึ่งนั่นรวมถึงธุรกิจจะต้องเปิดโอกาสและกระตุ้นให้เกิดการแบ่งปันข้อมูลต่าง ๆ ระหว่างกัน

สำนักข่าว Channel NewsAsia รายงานการสำรวจระบบนิเวศสตาร์ตอัพโลกและการจัดอันดับประจำปี ค.ศ. 2017 ของ สตาร์ตอัพจีโนม (Startup Genome) ซึ่งเป็นสถาบันระดับที่การรวบรวมข้อมูลและวิจัยเกี่ยวกับสตาร์ตอัพทั่วโลก พบว่าในหมวดคนเก่งสตาร์ตอัพ ซึ่งเป็นดัชนีสำคัญตัวหนึ่งในระบบนิเวศที่เป็นบวกต่อการเกิดและขยายตัวของธุรกิจใหม่ในแพลตฟอร์มสตาร์ตอัพนั้นเมืองสิงคโปร์ได้อันดับที่ 1 แซง ซิลลิคอน วัลเล่ย์ (Silicon Valley) ไปในการจัดอันดับประจำปีนี้

การเอาชนะซิลลิคอน วัลเล่ย์ ในดัชนีสำคัญเช่นนี้ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นเมืองสำคัญสำหรับสตาร์ตอัพ ที่โลกจะต้องจับตาและติดตามในอนาคตอันใกล้

Channel NewsAsia ระบุว่า สตาร์ตอัพจีโนมสำรวจความเห็นผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพกว่า 10,000 รายใน 50 ประเทศพบว่าแม้ ซิลิคอน วัลเลย์ จะยังครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับเมืองที่มีระบบนิเวศน์ที่ดีสำหรับสตาร์ตอัพ โดยมีการแบ่งดัชนีชี้วัดเป็น 5 ระดับคือ

● ประสิทธิภาพโดยรวม
● การระดมทุน
● การเข้าถึงตลาด
● ความเก่งกาจที่พร้อมในด้านบุคลากรที่ชํานาญการและเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
● ประสบการณ์สตาร์ตอัพ

ในแง่ผลรวมทั้ง 5 ระดับของดัชนีชี้วัด ซิลิคอน วัลเลย์ ซึ่งอยู่ในเขตเบย์แอเรีย ของรัฐแคลิฟลอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังได้คะแนนเป็นอันดับ 1 อยู่ในอันดับสูงสุดใน 4 ตัวชี้วัดยกเว้นหมวดคนเก่งสตาร์ตอัพซึ่งแพ้สิงคโปร์ประเทศเดียว

● อันดับ 2 นครนิวยอร์ก (New York City)
● อันดับ 3 นครลอนดอน (City of London)
● สำหรับอันดับ 4 ในแง่คะแนนรวมคือ นครปักกิ่ง (Beijing Municipality)
● อันดับ 5 เมืองบอสตัน (City of Boston)
● อันดับ 6 เมืองเทลอาวีฟ (City of Tel Aviv)
● อันดับ 7 นครเบอร์ลิน (City of Berlin)
● อันดับ 8 เมืองเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Municipality)
● อันดับ 9 เมืองลอสแองเจลิส (City of Los Angeles)
● อันดับ 10 เมืองซีแอตเทิล (Seattle, Washington)

สตาร์ตอัพจีโนม ระบุว่าสิงคโปร์ชนะเลิศในหมวดของคนเก่ง จากความง่ายในการระดมคนเก่งที่มีคุณภาพสูงทำงานในสตาร์ตอัพ ขณะที่ค่าใช้จ่ายรายได้เงินเดือนของคนเก่งเหล่านั้นเฉลี่ยต่ำกว่าเมื่องอื่น นอกจากนี้ยังมีคะแนนในหมวดประสบการณ์สตาร์ตอัพค่อนข้างสูง โดยการสำรวจพบว่ามีวิศวกร 80% ที่ทำงานให้กับสตาร์ตอัพและ 74% ในทีมขยายงาน มีประสบการณ์ทำงานสตาร์ตอัพอย่างต่ำ 2 ปี ซึ่งสูงกว่าเฉลี่ยของโลก ซึ่งอยู่ที่ 72% และ 60% ในหมวดเดียวกัน

Channel NewsAsia รายงานว่าอัตราเงินเดือนวิศวกรซอฟท์แวร์ในสิงคโปร์เฉลี่ยอยู่ที่ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) ต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าเงินเดือนเฉลี่ยวิศวกรซอฟท์แวร์ทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 49,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) ต่อเดือน โดยผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพที่อยู่ในสิงคโปร์เฉลี่ยมีอายุน้อยที่สุดในโลกอยู่ที่ 28 ปี

เมื่อดูคะแนนโดยรวมแล้วจีโนม จัดอันดับให้สิงคโปร์อยู่อันดับ12 ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นอันดับที่ลดลงเทียบกับปี ค.ศ. 2015 แต่จีโนม เขียนในรายงานจัดอันดับระบุว่า *การปฏิวัติโดยสตาร์ตอัพในสิงคโปร์กำลังเดินหน้า โดยมีปัจจัยสำคัญคือจุดที่ตั้งของสิงคโปร์ซึ่งสามารถเข้าถึงตลาดเทคโนโลยีในอาเซียน และการสนับสนุนจากรัฐบาลสิงคโปร์*

รายงานของจีโนม ชี้ว่าปัจจัยทางบวกที่ชี้อนาคตที่สดใสของสตาร์ตอัพในสิงคโปร์ คือทุนที่สตาร์ตอัพสิงคโปร์ระดมได้ในช่วงต้น ๆ ของกิจการเฉลี่ยอยู่ที่ 276,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9.6 ล้านบาท) เทียบกับเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 252,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 8.82 ล้านบาท)

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีอัตราส่วนผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพซึ่งเป็นผู้อพยพมาจากที่อื่นอยู่ในอันดับ 6 ของโลก โดยสัดส่วนของผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพซึ่งเป็นชาวต่างประเทศอยู่ที่ 35% ขณะที่เฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 19%

Credit : http://www.straitstimes.com/singapore/singapore-no-1-in-world-for-start-up-talent-report 

Credit : http://www.channelnewsasia.com/news/business/singapore-tops-global-ranking-for-startup-talent-overtaking/3612046.html 

Richard Whitt

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"