ดาวโจนส์หยุดไม่อยู่ ลงต่อ 700 จุด กังวลโควิด-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดดิ่งกว่า 700 จุด ทำสถิติปรับตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

ณ เวลา 22.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,614.12 จุด ลบ 721.45 จุด หรือ 2.55%
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่า 83,000 รายทั้งในวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวันศุกร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 83,700 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มากกว่าเมื่อกลางเดือนก.ค. ซึ่งขณะนั้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 77,300 ราย
นอกจากนี้ จากการคำนวณของสำนักข่าว CNBC พบว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ย 68,767 รายต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าช่วง 7 วันก่อนหน้านี้ถึง 22%
ขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 8.8 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 230,000 ราย
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ลงอีกในช่วงฤดูหนาว โดยนพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวเตือนว่า สหรัฐจะเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า สื่อในสหรัฐกำลังสมรู้ร่วมคิดกันในการเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า การที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งสูงขึ้นมีสาเหตุจากการที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาเชื้อจากประชากรจำนวนมาก
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังอ้างว่าผู้ที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวมีอัตราการหายป่วยจากโควิด-19 สูงถึง 99.9%
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้ แต่ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการเจรจากับวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน
ด้านปธน.ทรัมป์และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง ตอบโต้ว่า นางเพโลซีต้องยอมประนีประนอมเพื่อให้มีการอนุมัติมาตรการดังกล่าว โดยทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งที่สำคัญ ซึ่งได้แก่ การให้เงินช่วยเหลือต่อมลรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินของภาคธุรกิจ
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.
"หลายประเด็นสำคัญยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้การบรรลุข้อตกลงไม่น่าจะเป็นไปได้" นายอเล็ก ฟิลลิปส์ นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงาน
"ในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก และเวลาก็เหลือน้อยลง ทำให้คุณเพโลซีและคุณมนูชินคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง และต่อให้ทั้งสองคนบรรลุข้อตกลง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่สภาคองเกรสจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนการเลือกตั้ง" รายงานระบุ
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

คลิก

เพิ่มเติม
- Wall Street slumps as virus cases soar, stimulus remains elusive

คลิก

---------------------------------------------------------------
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"