สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในไทยที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้นช้าลงและเริ่มมีการคลาย lock down เพื่อให้คนสามารถกลับไปดำเนินชีวิตเฉกเช่นที่ผ่านมาอย่างไรก็ดีวิถีชีวิตของเราคงไม่เหมือนเดิม และจะต้องก้าวเข้าสู่
new normal จากการเว้นระยะห่างทางสังคม(social distancing)เพื่อลดการสัมผัส (contactless) มากขึ้น หนึ่งใน new normal ที่หลายๆคนพูดถึงคือ สังคมไร้เงินสด รวมถึงการเข้ามาของ สินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีโอกาสเกิดได้เร็วขึ้น บางขุนพรหมชวนคิดในวันนี้จึงอยากชวนท่านผู้อ่านมองไปข้างหน้าและคิดถึงความเป็นไปได้ของโลกการเงินในระยะข้างหน้าค่ะ
ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 องค์การอนามัยโลก (WHO)ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการหยิบจับและสัมผัสธนบัตรและเหรียญ เนื่องจากธนบัตรและเหรียญสามารถเป็นแหล่งแพร่เชื้อได้โดยงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าไวรัสโควิด-19 จะอยู่บนผิวกระดาษได้นานถึง 5-9 วัน ส่งผลให้การใช้เงินสดลดลง นอกจากนี้การเปลี่ยนพฤติกรรมของคนที่หันมาใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นจากกระแสการทำงานที่บ้านและการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงการขอรับความช่วยเหลือต่างๆของภาครัฐที่ต้องทำผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลเร่งให้การเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอาจเกิดได้เร็วขึ้น
รายงานของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ (Bank of International Settlement;BIS) ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะนำไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในสังคม โดยคนจะหันมาใช้จ่ายด้วยเงินสดลดลงและเปลี่ยนมาใช้วิธีการชำระเงินผ่านช่องทางอื่นๆมากขึ้น ทั้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือบัตรเดบิตบัตรเครดิต รวมถึงช่องทางชำระเงินทางออนไลน์ ในรายงานยังประเมินว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชี้ให้เห็นความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่ดำเนินการได้อย่างยืดหยุ่น สามารถเข้าถึงได้ง่าย และรวดเร็วของธนาคารกลางมีความจำเป็นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะต้องได้รับการออกแบบให้พร้อมรับมือกับความเสี่ยงหลากหลายรูปแบบ อาทิ การแพร่กระจายของโรคระบาดต่างๆและการโจมตีทางไซเบอร์นอกจากนี้ BIS มองว่า ธนาคารกลางบางส่วนจะหันมาออกสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองเพื่อให้ประชาชนทั่วไปใช้งาน (Retail Central Bank Digital Currency;Retail CBDCs) มากขึ้น สอดคล้องกับความเห็นจากธนาคารดอยซ์แบงก์ที่มองว่าการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ช่วยเร่งการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDCs) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน เช่น สกุลเงินดิจิทัลหยวนของธนาคารกลางจีนที่เร็วๆนี้จะเริ่มทดลองใช้ใน 4 เมืองหลักของจีน
นอกจากสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางแล้ว สกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่มีการคิดค้นก่อนหน้าและดำเนินการผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) อาจจะเป็นที่นิยมมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากกระแสของการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงข้อดีของคริปโตเคอร์เรนซีที่ใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว โดยไม่ต้องดำเนินการผ่านตัวกลาง และคุณสมบัติสำคัญเรื่องความโปร่งใสของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ข้อมูลธุรกรรมจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ทำให้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ สภากาชาดของเนเธอร์แลนด์และอิตาลีได้ยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นหนึ่งในช่องทางการบริจาคผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อนำไปจัดซื้อเวชภัณฑ์ รวมถึงรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมองว่า สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นอย่างดิจิทัลโทเคน (Digital token)ที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อใช้กำหนดสิทธิของบุคคลที่มีต่อสินทรัพย์ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน หรือสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ เช่น หุ้น สิทธิบัตรอาจเป็นช่องทางในการระดมทุนแบบใหม่ในระบบเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ทั้งหมดนี้ อาจจะเป็น new normal ของโลกการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ทุกคนคาดคิด ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราจึงต้องเตรียมพร้อมปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ค่ะ
โดย ธนันธร มหาพรประจักษ์
ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
**บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัด**
Source: ไทยรัฐออนไลน์
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you