... นักวิเคราะห์ประเมินว่าโลกเราจะประสบกับอะไรบ้างหลังไวรัวโควิด19จางหายไป เช่นเศรษฐกิจจะตกต่ำทั่วโลก ดอกเบี้ยจะต่ำลงเพื่อกระตุ้นการลงทุน เงินจะฝืดขึ้น คนจะประหยัดมากขึ้น เช่น
... 1) "นโยบายการกีดกันการค้าจะกลับมา" จากที่เคยเปิดเสรีมากขึ้นนำเข้าส่งออกกันทั่วก่อนการมาของไวรัส เรื่องนี้อเมริกานำร่องไว้ก่อนแล้วก่อนไวรัสมาหนึ่งปี คำว่า "โลกาภิวัฒน์อาจจะสูญพันธุ์" พักใหญ่
... นักการเมืองจะร่างนโยบายนี้มาในสภาเพื่อปกป้องสินค้าบริการตัวเองกันทั่วโลกเพื่อกระตุ้น "การจ้างงาน" ในประเทศตัวเอง
... 2) จากข้อแรกเมื่อมีการกีดกันทางการค้าการลงทุนข้ามแดนน้อยลง การผลิตจะน้อยลง การเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลง เงินจะฝืดขึ้นในระบบ
... 3) "พึ่งพาตัวเองมากขึ้น", เพราะช่วงไวรัสมาทุกชาติตระหนักถึงความเปราะบางของการเป็นส่วนหนึ่งของ "ห่วงโซ่การผลิต" เมื่อหลายชาติปิดประเทศลงทำให้สินค้าบริการขาดแคลน, ทั่วโลกจะหันมา "พึ่งพาตัวเองมากขึ้น" สินค้าอะไรที่พอจะผลิตเองได้ก็จะทำ ไม่นำเข้าหมดเหมือนแต่ก่อน,
... 4) "การทำธุรกิจ การค้าขาย การเรียน" ที่ถูกปิดตายลงช่วงไวรัส, จะกระตุ้นให้มีการพัฒนาสิ่งเหล่านั้นมากขึ้นทั้งซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ อย่างแพร่หลายเป็น "สังคมที่สื่อสารออนไลน์" มากกระจายไปทั่ว, แต่การติดต่อสื่อสารแบบตัวต่อตัวจะไม่หายไปหมด แต่จะลดลงไป
... 5) สืบเนื่องจากความก้าวหน้าทางการสื่อสารออนไลน์ "ธุรกิจการบิน โรงแรม จะหดตัวลง" กระทบกับการจ้างงานในห่วงโซ่นี้ไปทั่วโลก
... 6) "ทำงานที่บ้าน" หรือ Work from home, WFH จะเป็นทางเลือกในการสื่อสารต่อกันแพร่หลายมากขึ้นในอนาคต
... 7) "ทัศนคติการบริโภคคนทั่วโลกจะเปลี่ยนไป" ความระมัดระวังของผู้บริโภคจะยังคงอยู่อีกต่อไปหลังจากโควิด19, จะลดลงเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นหลังจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008, ทัศนคติของการ ชั่งใจในการใช้จ่ายผู้บริโภคจะสูงขึ้นและ "ยอดการค้าปลีกจะตกลง" ฟุ่มเฟือยน้อยลง... จะนำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยากและช้าลง
... 8) "การกระตุ้นทางเศรษฐกิจการคลังจะขยายตัว" ตามนโยบายการเงิน เพื่อบรรเทาปัญหาการว่างงานและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โครงการก่อสร้างสาธารณสุขพื้นฐานขนาดใหญ่อาจจะเกิดขึ้นมา เพื่อบรรเทาการว่างงาน
... 9) "การล่มสลายของคลังของอเมริกา" จะประสบกับการหาเงินมาจ่ายหนี้พันธบัตรที่ขายไปทั่วโลก ประกอบกับหนี้สินของธนาคารกลางก็ทับถมขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การขาดดุลของรัฐบาลอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นทำให้รัฐบาลอเมริกาก็ยิ่งกู้ ยิ่งขายพันธบัตรก็ยิ่งสร้างหนี้วิกฤติหนักขึ้น
... 10) " ราคาน้ำมันโลก" อาจจะกลับมาที่ระหว่าง40-60ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล แต่ "ซาอุดิอาระเบียอาจจะร่วมมือกับรัสเซีย" เพื่อกำจัดอเมริกา ออกจากตลาดผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่
... 11) "ตลาดพันธบัตรจะตกสวรรค์" พันธบัตรหลายตัวเช่นเรื่องพลังงานที่เคยรุ่งเรืองจะตกสวรรค์ เหลือราคาตามจริง จะกลายเป็นพันธบัตรขยะ ไม่มีใครต้องการ เทขายทิ้ง และจะกระทบกับการแย่งซื้อพันธบัตรของกระทรวงการคลังอเมริกาด้วย เช่นก่อนหน้านั้นมีถึงระยะ 30ถึง50ปี เพราะนักลงทุนกลัวพันธบัตรระยะสั้นมีความเสี่ยง
... 12) "กองทุนบำเหน็จบำนาญ" ของข้าราชการก็อาจจะมีปัญหาที่ผ่านมานักลงทุนไปล้างสมองเกลี้ยกล่อมให้รัฐบาลตาวาวให้เอาเงินนี้ไปลงทุนในตลาดเพื่อหวังเงินมากขึ้น, ทำให้เกิดความเสี่ยง เมื่อตลาดผันผวนจากวิกฤติเศรษฐกิจ จะมีผลต่อการปันผลของข้าราชการที่เคยได้อาจจะน้อยลง ... คนแก่ได้ใช้เงินยามชราน้อยลง
... 13) "โควิด19จะเป็นแพะในวิกฤติทั้งหมด" ที่กล่าวมา ทั้งๆที่ความจริงแล้ว มันเป็นแค่ดินก้อนสุดท้ายที่ฝังกลบหลุมศพในสุสานจนมิดแค่นั้นเอง
Cr. Jeerachart Jongsomchai
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you