ผู้สร้างบิทคอยน์คือ Satoshi Nakamoto

เป็นชื่อคนญี่ปุ่น แต่มีความเป็นไปได้มากกว่าที่ผู้สร้างบิทคอยท์จะไม่ใช่คนญี่ปุ่นที่เป็นบุคคลเพียงคนเดียว แต่น่าจะเป็นทีมงานหลายคนของความมั่นคงของCIA/National Security Agencyของอีแร้ง และMI5ของอังกฤษ

โดยน่าจะมีการดึงพวกเฮดจ์ฟันด์และแบงค์ยักษ์เข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อสร้าง "ดอลล่าร์ 2.0"

ไปค้นดูชื่อSatoshi หมายถึงIntelligent หรือฉลาด

ชื่อNakamoto หมายถึงCentralกลาง หรือผู้ที่อยู่ภาคกลาง ส่วนมากบนเกาะRyukyuของญี่ปุ่น

เอา2คำมารวมกันเราจะได้ Central Intelligence ถ้าเติมคำว่าหน่วยงานAgencyจะได้ คำว่าCIA พอดี

โครงการบิทคอยน์เริ่มต้นในห้องแล็ปของฝ่ายความมั่นคงก่อนที่จะปล่อยเสือเข้าเมือง เพื่อให้คนคุ้นเคยกับคำจำกัดความใหม่ของเงิน แล้วคอยจับกินทีหลัง โดยบิทคอยน์จะมีเทคโนโลยีเป็นสำคัญ และจะออกห่างมากยิ่งขึ้นจากโลกของความเป็นจริง

คล้ายๆกันกับโครงการอินเทอร์เน็ทที่เป็นการพัฒนาในห้องแล็ปของฝ่ายความมั่นคงของอังกฤษ สหรัฐและฝรั่งเศสก่อนที่จะปล่อยออกมาให้คนทั่วโลกได้ใช้ เพื่อสร้างโลกออนไลน์ โลกไซเบอร์ที่จะมีความเป็นจริงมากกว่าโลกในความเป็นจริงที่แท้จริงที่เราอยู่ทุกวันนี้

บิทคอยน์คืออะไร? บิทคอยน์คือเงินคริปโต ที่มีการกระจายอำนาจการถือครองออกจากธนาคารกลาง หรือผู้บริหารเจ้าเดียว บิทคอยน์สามารถส่งจากผู้ใช้หนึ่งคนไปยังอีกหนึ่งคนบนเครือข่ายเพื่อนรักหักเหลี่ยมเพียร์ทูเพียร์โดยไม่ต้องมีคนกลาง เช่นธนาคาร

คำว่าคริปโตในความหมายของตัวมันเองคือสิ่งที่คลุมเคลือ หรือมีการสร้างรหัสลับเพื่อปกปิดตัวเอง

ด้วยเหตุนี้ Satoshi Nakamotoจึงเป็นชื่อที่อำพราง (cryptic) เพื่อไม่ให้คนทั่วไปรู้ว่ามีแหล่งกำเนิดที่แท้จริงมาจากที่ใด

หลังจากมีการสร้างบิทคอยน์ขึ้นในปี2009 ไม่มีการทำราคาบิทคอยน์แต่ประการใด ราคาซื้อขายกันไม่กี่เหรียญ แต่เริ่มมีการตั้งวงกันอย่างจริงๆจังๆเพื่อปั่นบิทคอยน์ในช่วงปลายปี2017 ไปถึงระดับ$20,000 เพื่อให้บิทคอยน์แจ้งเกิดเหมือนจุดพลุยักษ์ เพื่อให้สอดคล้องกับคำทำนายของThe Economistที่เขียนบทความทำนายในปี1988ว่า เงินสกุลฟินิกซ์ที่จะเป็นพื้นฐานของเงินสกุลโลกจะปรากฎตัวให้เห็นในปี 2018

แต่ดังที่กล่าวมาแล้ว พระเอกมีทั้งตัวจริง และตัวปลอม บิทคอยน์น่าจะเป็นพระเอกตัวปลอม หรือนกฟินิกซ์ตัวปลอมที่เปิดตัวออกมาก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคยในจิตสำนึกของมนุษย์โลกว่า ในอนาคตต่อไปเงินตราเป็นเรื่องของเทคโนโลยี่

เงินในยุคดิจิตัลไม่ใช่เป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าระบบบาร์เตอร์ ไม่ใช่ต้องใช้เหรียญเงิน หรือเหรียญทอง ไม่ใช่ต้องใช้เงินกระดาษ หรือแลกเช็คกันอีกต่อไป แต่เป็นเงินดิจิตัลที่ล่องลอยอยู่ในโลกไซเบอร์ ไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ (non-physical/immaterial)

เมื่อใช้บิทคอยน์และเงินคริปโตอื่นๆสร้างความฮือฮาให้กับมนุษย์แมงเม่าทั่วโลกแล้ว อันดับต่อไปถึงจะให้พระเอกตัวจริง หรือนกฟินิกซ์ดูดเลือดปรากฎโฉมเพื่อทำหน้าที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก

ตามพิมพ์เขียวของอังกฤษ เงินสกุลหลักของโลกจะทำหน้าที่เป็นOne World Currency เป็นเงินดิจิตัลเรียกว่าSynthetic Hegemonic Currency
โดยจะให้ไอเอ็มเอฟดูแล ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตระกร้าเงินของไอเอ็มเอฟที่ประกอบด้วยดอลล่าร์กงเต็ก ยูโร หยวน เยน และปอนด์จะมีเงินกองทุนเทียบเท่า$3ล้านล้านเพื่อหนุนเงินSynthetic Hegemonic Currency (SHC)

ชื่อSynthetic Hegemonicฟังดูแล้วทะแม่งๆ syntheticหมายถึงสิ่งเทียม หรือส่วนผสมของสารเคมีมารวมกัน

hegemonicหมายถึงความเป็นเจ้า

SHCจึงหมายถึงเงินเทียมที่เป็นเจ้าโลก

ถ้าจะว่าไปแล้ว นกฟินิกซ์ของอังกฤษดูแล้วหน้าตาเหมือนอีแร้งแก่ๆ หน่าตาน่าเกลียด แถมมีกลิ่นเหม็นสาป

Cr.Thanong Fanclub

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"