เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิด hyperinflation ในสหรัฐ

คนส่วนใหญ่มีแนวความคิดที่ผิดเมื่อพูดถึงสาเหตุของเงินเฟ้อรุนแรง (hyperinflation) พวกเขาคิดว่าเกิดจากอุบัติการณ์ด้านการเงิน เช่นเมื่อพิมพ์เงินเพิ่มเข้าระบบยิ่งมากก็ยิ่งทำให้เกิดเงินเฟ้อมาก..ถูกไหม

ผิด

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็คงเกิดเงินเฟ้อรุนแรงไปทั่วโลกตะวันตกมาตั้งแต่สิบปีที่แล้วสิ ..หรืออาจจะก่อนหน้านั้นอีก

hyperinflation เกิดจากความเชื่อถือไว้วางใจในระบบการเงินของรัฐบาลตลอดจนถึงตัวผู้นำในประเทศ ...นี่คือสาเหตุที่เกิดขึ้นทุกครั้ง

ดังนั้น มันไม่เกี่ยวโดยตรงกับปัญหาทางการเงิน มันเป็นปัญหาของความไว้วางใจต่างหาก

เหมือนเมื่อครั้งทีเกิดขึ้นใน Weima Germany และที่อื่นๆในยุโรป กับที่ซิมบับเว และเวเนซูล่า

ถ้าถามว่าเคยเกิดขึ้นหรือเปล่าในสหรัฐ ..มันเคยเกิดเมื่อหลังสงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกาในศตวรรษที่ 18 ..จนมีวลีติดปากในยุคนั้นว่า "Not worth a Continental"* ...Continental หมายถึง Continental Dollar ที่ใช้กันตอนนั้น

*รายละเอียดตอนท้ายบทความ

แล้วอเมริกาจะได้เจอกับมันอีกหรือไม่ ..ที่จริงน่าจะตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่

ไม่เคยมีประเทศใหญ่ใช้คืนหนี้เลยในประวัติศาสตร์ ..อเมริกาก็เคยไม่ใช้หนี้มาแล้ว แต่ตอนนั้นยังเป็นประเทศ 'เกิดใหม่'

ประเทศใหญ่ๆที่เคยเป็นรัฐจักรวรรดิ์เริ่มเสื่อมลงเมื่อประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้นำ..พร้อมๆกับในระบบการเงิน

มันเคยเกิดกับอาณาจักรบาบิโลนโบราณ อียิปต์ จีน โรม หลายประเทศใหญ่ในยุโรป ..และในไม่ช้าก็จะถึงคิวของสหรัฐ เมื่อคนอเมริกันหมดความเชื่อถือ และตัดสินใจอยู่แบบคนอิสระมากกว่าที่จะยอมเป็นทาสของระบบให้กับประเทศที่เอาแต่สร้างหนี้ที่ไม่ยอมชดใช้ ..ที่ในไม่ช้าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะต้องใช้งบประมาณมากกว่างบการทหารเสียอีก

ในไม่ช้าแนวคิดที่จะให้น้ำมันมาหนุนค่าดอลล่าร์..คงไม่ทำให้มูลค่าของดอลล่าร์มันสูงไปถึงไหนได้หรอก ในอีก 10-15 ปี ดีมานด์ของน้ำมันคงจะลดลงจากหนึ่งในสามถึงครึ่งของปัจจุบัน จากผลของเทคโนฯใหม่ๆทางพลังงาน ..และในที่สุดอำนาจทางทหารของสหรัฐก็คงไม่พอที่จะพยุงฐานะของตนไว้ได้

hyperinflation ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา..แต่ละครั้งมันอยู่ไม่นานมากกว่า 3-5 ปีหรอก

แต่นั่นยังไม่ใช่ส่วนที่ลำบากแท้จริง เพราะอาจมีนักเก็งกำไรบางคนยังทำกำไรอยู่ได้ในช่วงเงินเฟ้อรุนแรง ..ผลของมันจากนั้นที่เกิดเงินฝืดตามมาต่างหากที่เป็น real killer ที่แท้จริง ..ลองคิดดูเมื่อคราวเกิดวิกฤติเมื่อสิบปีที่แล้ว แล้วคูณด้วยสิบ คุณจะได้รู้รสถึงสิ่งที่จะตามมาหลังเกิด hyperinflation

****

Not Worth a Continental

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในอเมริกา ..อะไรที่ดูไร้ค่าจะถูกเรียกว่า "not worth a continental" ซึ่งหมายถึง Continental Dollar สกุลเงินที่ใช้กันในระหว่างสงครามกู้ชาติของอเมริกา

continental เป็นเงินกระดาษ ..มันเกิดขึ้นในอาณานิคมเมื่อสงครามปฏิวัติจำเป็นต้องใช้เงินค่าใช้จ่ายมาก พวกเขาจำต้องสร้างหนี้เป็นการ 'ชั่วคราว' เพื่อมาใช้ finance สงคราม

ในไม่ช้ามันก็ชัดเจนว่า หนี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่มีปัญญาจ่ายคืน ..นอกจากนี้เงินที่พิมพ์มามากมายก็ทำให้เกิดเงินเฟ้อ ...ทางแก้น่ะหรือ ก็พิมพ์เพิ่มมาอีกน่ะสิ

มูลค่าของเงิน continental ก็ลดลงไปเรื่อยๆ ทำให้พวกอาณานิคมต้องพิมพ์เพิ่มเข้าไปอีก ..และอีก... continental กลายเป็นสิ่งไร้ค่า ไม่ว่าจะใช้ในการหมุนเวียนหรือจะใช้หนี้

หลังจากนั้น ประเทศเกิดใหม่ the United States ได้สร้างสิ่งใหม่ขึ้น ..มีการเพิ่มวรรคในมาตรา 1 หมวด 10 ในรัฐธรรมนูญเกิดใหม่ เพื่อยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อีก "..ไม่อนุญาติให้เพิ่ม coin Money; ตั๋วเครดิต หรือสิ่งใดๆ นอกจาก ทองคำและซิลเวอร์ ในการใช้ชำระหนี้.."

ผู้ร่วมก่อตั้งประเทศสหรัฐ ทราบดีว่าการพิมพ์เงินกระดาษถือได้ว่าเป็นหายนะตั้งแต่แรก ..จึงมีการผ่านร่างกฎหมาย Coinage Act ในปี 1792 ในการตราเหรียญกษาปณ์ ..มีการผลิตเหรียญทองคำสามชนิดคือ $10.00 eagles, $5.00 half eagles, และ $2.50 quarter eagles นอกเหนือจากเหรียญซิลเวอร์

แต่ต่อมา นักการเมืองก็ได้โยนรัฐธรรมนูญลงถังขยะ ..และตั้งแต่นั้นมา..มีประเทศอื่นๆนับสิบ ที่อยู่ในวงจรอุบาทว์ของ สงคราม/หนี้/เงินเฟ้อรุนแรง ...ตามมามากมาย

Cr.Sayan Rujiramora

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #pepperstone #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"