เมื่อถึงช่วงอายุหนึ่ง คนส่วนใหญ่ก็จะต้องพึ่งพาลูกหรือหลานในการดำรงชีวิต

นี่คือความหมายของ เกษียณ (retirement): ความคาดหวังที่จะให้คนหนุ่มสาวดูแลคนสูงอายุ ในอดีต ส่วนมากเราจะอยู่กันเป็นครัวเรือนใหญ่ จะมีคนรุ่นทำงาน 4-6 คนในการดูแลปู่ทวดของครอบครัว

ถึงมันดูจะเป็นการแปลกและพ้นสมัยไปแล้วในปัจจุบัน แต่มันก็ยังเป็นหลักการพื้นฐานในแผนการเกษียณปัจจุบัน ที่รวมไปถึงกองทุนประกันสังคมของรัฐ

มันก็ยังคงเป็นหน้าที่ของคนรุ่นหลังที่จะคอยดูแลคนสูงอายุ เป็นหลักการในระบบ นั่นคือ คนรุ่นทำงานจ่ายภาษี ซึ่งจะใช้เพื่อยังประโยชน์แก่คนซึ่งถึงวัยเกษียณไปแล้ว

นี่คือสิ่งที่คล้ายคลึง:

หลายร้อยปีมาแล้ว เป็นหน้าที่ของลูกหลานที่จะต้องทำงานเลี้ยงดูเมื่อญาติผู้ใหญ่ถึงวัยเกษียณทำงานไม่ได้ ..ปัจจุบันเป็นหน้าที่ของทุกคนโดยรวม ทำงานเพื่อเลี้ยงดูคนวัยเกษียณทุกๆคนในสังคม

หลายร้อยปีมาแล้ว คนทำงานในครอบครัวหลายคนช่วยกันดูแลผู้สูงอายุของครอบครัว ปัจจุบันต้องใช้จำนวนคนที่แน่นอนจำนวนหนึ่งในการดูแลผู้สูงอายุหนึ่งคน

เรียกว่า "อัตราส่วนผู้ทำงานต่อผู้เกษียณ"...'worker-to-retiree ratio’

สำนักงานประกันสังคมของสหรัฐ บอกว่าต้องใช้ผู้ทำงาน 2.8 คนเป็นอย่างน้อย ในการจ่ายเงินสมทบเพื่อดูแลผู้เกษียณหนึ่งคน

และเพื่อให้อัตราส่วนนี้คงที่ อัตราการเกิดของประชากรก็ต้องคงที่ ต้องมีคนเจนเนอเรชั่นหนึ่งมากเพียงพอในการอุดหนุนคนเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า

ถ้าอัตราการเพิ่มของประชากรไม่เป็นไปตามแผน ก็หมายถึงว่ามีผู้ทำงานน้อยเกินไป หรือผู้สูงอายุมากเกินไป

และนี่ก็คือปัญหาที่เห็นกันทั่วไปในปัจจุบัน : คนทั่วไปมักจะมีลูกกันน้อย

ในสหรัฐเอง อัตราการเกิดลงมาอยู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เริ่มมีการทำสำรวจเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว

และนี่เป็นปัญหาระยะยาว: อัตราเจริญพันธ์ (fertility rate..จำนวนบุตรที่ผู้หญิงจะมีในชั่วชีวิต) ลดลงอยู่แล้ว.. และเมื่อเกิดวิกฤติการเงินปี 2008 ก็ไปทำให้เทรนด์นี้เร่งเร็วขึ้นไปอีก

จากการสำรวจประมาณการว่ามีเด็กที่ไม่ได้เกิด 4.8 ล้านคนที่เป็นผลจาก Great Recession ครั้งนั้น

เหตุผลที่เห็นได้ชัดคือ ค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูเด็กแพงเกินไป

ในอดีต..การดูแลครอบครัวสามารถทำได้จากรายได้ของหัวหน้าครอบครัวเพียงคนเดียว ทุกวันนี้ ครอบครัวโดยเฉลี่ยสามารถเลี้ยงลูกได้แค่ 1 หรือ 2 คน และนั่นหมายถึงทั้งพ่อและแม่ต้องมีงานทำทั้งคู่

จึงไม่แปลกเลยที่อัตราเจริญพันธ์ในสหรัฐลดลงปีต่อปี ตามด้วยอัตรา worker-to-retiree ratio .....ต่ำอย่างน่ากลัว คาดการณ์ว่าปีหน้าอัตรานี้คงเหลือ 2.7 คนต่อหนึ่งผู้เกษียณ ต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำ 2.8 คนที่จะพยุงฐานะของกองทุนไว้ได้ และยังคงจะต่ำไปอีกอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2034 เมื่อตอนที่มีการคาดว่าเงินกองทุนประกันสังคมคงจะหมดเกลี้ยงนั้น อัตรานี้คงจะเหลือ 2.3 คนเท่านั้น

นอกจากนี้ การใช้ technological automation ก็จะเข้ามาเป็นปัญหาการเปลี่ยนแปลงของกำลังแรงงาน

ในอีก 10-15 ปี เราจะได้เห็นว่า แทบทุกวิชาชีพจะถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์และ AI ..ซึ่งทั้งสองคงไม่ต้องจ่ายเงินสมทบให้กองทุนในระบบแน่ๆ

และมันก็ไม่ใช่เฉพาะในสหรัฐหรอก

อัตราเจริญพันธ์ของฟินแลนด์อยู่ต่ำกว่าสหรัฐเสียอีก พวกเขาตั้งสมมติฐานผิดว่าจำนวนเด็กเกิดจะเพิ่มขึ้น..ในการกำหนดระบบสุขภาพของประเทศ

มาถึงวันนี้ มีคนวัยทำงานน้อยลงที่จะจ่ายเงินสมทบเข้าระบบ อุปถัมภ์ผู้สูงอายุที่สุขภาพดีขึ้นจากระบบ healthcare ที่ดีของรัฐ

ส่วนใหญ่ของยุโรปยิ่งแล้วใหญ่ อัตราเจริญพันธ์โดยรวมของ EU เท่ากับ เด็ก 1.59 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคนตลอดชีวิต น้อยกว่าระดับทดแทนเสียอีก

ญี่ปุ่นยิ่งมีการจำกัดจำนวนผู้อพยพเมื่อเทียบกับสหรัฐและ EU และอยู่ในช่วงของการเริ่มใช้ automation ..อัตรา fertility rate แค่ 1.4 และมีประชากรสูงอายุมากที่สุดในโลก

นโยบายลูกคนเดียวของจีนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมากำลังส่งแรงกดดันต่อคนชั้นกลางในประเทศตอนนี้ ..ก่อนปี 2050 ประชากรกว่า 44% จะเป็นคนสูงอายุที่ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตนเอง

ที่เราพูดถึงประเด็นนี้กันมาก เพราะเริ่องนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ..โครงสร้างการเกษียณอายุที่อยู่มาตั้งแต่ก่อนการใช้ประกันสังคม..กำลังถึงคราวยุติลง

เราไม่อาจพึ่งพาคนเจนเนอเรชั่นต่อจากนี้ในการอุปถัมภ์ผู้สูงอายุได้อีกต่อไป ผู้เกษียณอายุจำต้องอยู่ให้ได้ด้วยตนเอง

สำหรับผู้มีอายุ 50 ปีหรือน้อยกว่า กองทุนประกันสังคมของสหรัฐจะหมดเงินลงก่อนที่คุณจะทันได้ใช้สิทธิประโยชน์

ยิ่งอายุน้อย คุณยิ่งแน่ใจได้เลยว่าระบบกองทุนนี้ไม่เหลือถึงคุณแน่ ..คุณต้องเตรียมตัวทำเพื่อตัวเองได้แล้ว

แต่คุณยังคงต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมอยู่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีโอกาสได้ใช้สิทธิ์นั้น

และพวกนักการเมืองก็พยายามที่จะดำรงโปรแกรมเหล่านี้เอาไว้ ซึ่งบอกได้เลยว่าคุณๆมีหวังต้องจ่ายภาษีสูงขึ้นแน่ๆ

ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินมากน้อยเท่าไหร่ที่คุณสามารถเซฟได้จากเงินภาษี และเก็บเข้ากองทุนบำเหน็จส่วนบุคคล ...ก็จะยังดีกว่าที่จะฟลัชมันเข้าไปในชักโครก

เพราะถึงยังไง คุณก็ไม่มีทางเสียมากไปกว่านั้นอีกแล้ว ...ใน worst case scenario คุณก็จะยังได้เงินบำเหน็จอยู่บ้างตอนเกษียณ


Cr.Sayan Rujiramora

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #pepperstone #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"