ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและ จีนยังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้ท่ามกลาง กระแสข่าวจากทั้งสหรัฐและจีนว่า การเจรจามีความคืบหน้าด้วยดีนั้น ในฝั่งของสหภาพยุโรป (อียู)ที่ร่วมประชุม สุดยอดกับนายกรัฐมนตรีจีนเพื่อคลี่คลายกรณีพิพาททางการค้าระหว่างกันใน

วันอังคาร(9เม.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น กลับเจอ คำขู่จากสหรัฐว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอียูหลายรายการคิดเป็นมูลค่ารวม 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ หากอียูไม่เลิก อุดหนุนแอร์บัส ติดตามรายละเอียดของ ศึกการค้าสามเส้านี้ได้จากรายงาน

สหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู)กล่าวหากันมานานกว่า 14 ปีแล้ว ว่าต่างฝ่ายต่างอุดหนุนบริษัทเครื่องบิน ของตน ทั้งโบอิงและแอร์บัส ล่าสุด เมื่อ วันจันทร์ (8 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) แถลงว่า องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) มีหลักฐาน ที่บ่งชี้ว่า สหภาพยุโรป (อียู) อุดหนุนแอร์บัส และการอุดหนุนนี้สร้างความเสียหาย อย่างร้ายแรงต่อสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลวอชิงตัน ต่อสู้ในคดีนี้มานานถึง 14 ปีเต็ม ตอนนี้ ถึงเวลาที่จะต้องลงมือทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แล้ว

"เป้าหมายสูงสุดของเราคือบรรลุ ข้อตกลงกับอียูเพื่อให้อียูยุติการอุดหนุนบริษัทแอร์บัส ที่ขัดกับกติกาของดับเบิลยูทีโอ ถ้าอียูยกเลิกการอุดหนุนที่สร้างความเสียหาย เหล่านี้ได้ สหรัฐก็จะเลิกเก็บภาษีเพิ่มเติม กับอียู" โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ระบุ

ในโอกาสนี้ ยูเอสทีอาร์ ออกเอกสารความยาว 14 หน้า เผยรายการสินค้าที่ กำลังพิจารณาเก็บภาษีเพิ่มเติม ซึ่งประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์ส่วนบุคคล เครื่องบินพลเรือน ชิ้นส่วนเครื่องบิน รวมไปถึงสินค้าประเภทอาหาร เช่น ปลากระโทงแทงดาบ แซลมอน ชีสประเภทต่างๆ ผลไม้ น้ำมันมะกอก และไวน์

ความขัดแย้งระหว่างโบอิงและ แอร์บัสถือเป็นมหากาพย์ของดับเบิลยูทีโอ โดยเมื่อเดือนมี.ค. ปี2555 ดับเบิลยูทีโอตัดสินว่า การที่สหรัฐอุดหนุนโบอิงเป็น เงินหลายพันล้านดอลลาร์ผิดกฎหมาย ขอให้ยุติการกระทำนี้เสีย แต่ไม่กี่เดือน ต่อมาอียู ก็ยื่นฟ้องบ้างว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของดับเบิลยูทีโอ

รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ภาษีเป็นเครื่องมือลงโทษจนเป็นปกติวิสัย บีบให้อีกฝ่ายมาเจรจาแม้แต่อียูก็ไม่เว้น ซึ่งขณะนี้ ทั้งอียูและสหรัฐกำลังเดินหน้าทำข้อตกลงการค้าแบบจำกัด เป็นส่วนหนึ่งของการสงบศึกที่ประธานาธิบดีทรัมป์เห็นชอบกับ ฌ็อง คล็อด ยุงเกอร์ ประธาน คณะกรรมาธิการยุโรป เมื่อเดือน ก.ค.ปี 2561 ว่าจะไม่เก็บภาษีก้อนใหม่หลังเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมไปแล้ว

ส่วนการประชุมผู้นำอียู-จีน เริ่มเปิดฉากขึ้นในเวลา 13.00 น.ของวันอังคาร(9เม.ย.)ตามเวลากรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง หารือกับผู้นำอียูด้วยท่าทีและมุมมองที่ยังต่างกันมากในเรื่องการค้า และการลงทุน โดยอียู ต้องการเข้าถึงตลาดจีนอย่างเสรีมานานหลายปีแล้ว จนโอดครวญ ว่าหมดความอดทนกับรัฐบาลปักกิ่งที่ดำเนินการ ในเรื่องนี้ช้ามาก ทั้งยังกังวลเรื่องที่รัฐวิสาหกิจจีน เข้ามาครอบงำตลาดอียูบางแห่ง รวมถึงกลยุทธ์รุกซื้อกิจการของจีน

นายกฯหลี่ เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์เยอรมนีเมื่อวันจันทร์ (8เม.ย.) ระบุว่า จีนต้องการร่วมมือกับอียูในหลายเรื่อง รวมทั้ง การค้า และปฏิเสธว่ารัฐบาลปักกิ่งไม่ได้พยายามทำให้อียูแตกแยกด้วยการเข้าไปลงทุนในยุโรปตะวันออก

ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งในคณะกรรมาธิการยุโรป เผยว่า อียูมั่นใจว่ามาตรการตอบโต้รอบใหม่จากสหรัฐ ที่ขู่จะเก็บ ภาษีสินค้าอียูสูงถึง 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ โทษฐานที่อียูอุดหนุนแอร์บัสนั้นเป็นมูลค่าที่สูงเกินจริงมาก

อย่างไรก็ตาม แม้แถลงการณ์ของ ยูเอสทีอาร์จะเป็นแค่คำขู่ แต่ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวานนี้ (9 เม.ย.)อ่อนตัวลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับคำขู่ของสหรัฐ โดยดัชนีสต็อกซ์ ยุโรป 600 อ่อนตัว 0.1% หลังเปิดตลาดได้ไม่นาน ดัชนีซีเอซี-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เปิดตลาดที่ 5,453.00 จุด ลดลง 18.78 จุด, -0.34% ดัชนีดีเอเอ็กซ์ ตลาดหุ้นเยอรมัน เปิดที่ 11,927.01 จุด ลดลง 36.39 จุด, -0.30%

ก่อนหน้านี้ เซซิเลีย มาล์มสตรอม กรรมาธิการการค้าประจำสหภาพยุโรป (อียู) ออกมาเรียกร้องให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอียู หากเขาต้องการให้ชาติพันธมิตรช่วยสหรัฐกดดันจีนให้ยอมปฏิบัติตามกฎของเศรษฐกิจโลก

มาล์มสตรอม กล่าวว่า เธอและ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้หารือกันในประเด็นการรับมือกับนโยบายอุตสาหกรรมของจีนและการปฏิรูปองค์กรการค้าโลก แต่ทั้งสองฝ่ายต่างมีความคิดเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหา โดย มาล์มสตรอม บอกว่า ปัญหาในขณะนี้คือจีนได้ทำการทุ่มตลาด และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่อุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งเป็นการทำลายการแข่งขันในเวทีโลก และทุกฝ่าย ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ แต่วิธีการแก้ไขปัญหาไม่ใช่การเรียกเก็บภาษีกับสหภาพยุโรป

นอกจากนี้ มาล์มสตรอม ยังกล่าวด้วยว่า ชาติสมาชิกอียูได้ยกประเด็นการแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากสหรัฐมาเป็นเงื่อนไขแรก ก่อนเริ่มการเจรจาการค้า ประเด็นอื่นๆ

ส่วนศึกการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้น ล่าสุด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้ ส่งสาส์นถึงประธานาธิบดีทรัมป์ว่า มีความคืบหน้าอย่างมากในข้อตกลงด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐในช่วงเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการสรุปการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน และสหรัฐให้เร็วขึ้น โดยให้เหตุผลว่า การเป็นผู้นำด้านกลยุทธ์ เป็นสิ่งจำเป็นหากต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐให้แข็งแกร่งและมั่นคง

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุผ่าน ทวิตเตอร์ว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนกำลังดำเนินไปด้วยดี โดย ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ สตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เริ่มเจรจารอบใหม่ กับหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ท่ามกลางกระแสข่าวว่า สหรัฐและจีนกำลังร่าง ข้อตกลงการค้า ซึ่งหากข้อตกลงดังกล่าว เป็นผลสำเร็จแล้ว ก็จะนำไปสู่พิธีลงนามระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวภายหลังพบปะกับหลิว เหอ ว่า ขอเวลา อีก 4 สัปดาห์จะได้รู้กันว่าข้อตกลงการค้ากับจีนจะเกิดขึ้นอย่างที่หลายคนคาดหวังหรือไม่ ซึ่งขณะนี้คณะเจรจากำลังเร่งหารือในประเด็นปัญหาที่ยังเหลืออยู่ รวมถึงกลไกที่จะนำมาใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ทั้งสองฝ่ายจะเคารพกติกาและปฏิบัติตามสิ่งที่ตกลงกันไว้ต่อไปในอนาคต

Source: กรุงเทพธุรกิจ

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/