ปกติประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยรายงานประจำปีของสถานะทางการเงินของรัฐบาลกลาง เรียกว่า Financial Report of the US Government ..ซึ่งมันก็เหมือนรายงานประจำปีที่เราเคยเห็นจาก
การประกาศของบริษัทต่างๆ อย่าง Apple หรือ Facebook
แต่ที่มันไม่เหมือนกับ Apple หรือ Facebook ...ก็คือ รายงานของฐานะประจำปีของรัฐบาลสหรัฐมันช่างน่ากลัวน่าสยดสยองยิ่ง
รายงานของปีนี้ก็เช่นกัน กว่าจะเปิดตัวออกมาได้ก็ช้าไปถึงหนึ่งเดือนครึ่ง
ผมเคยสอบถามไปที่กระทรวงการคลังเมื่อตอนต้นเดือนมีนาคม ว่ารายงานจะออกเมื่อไหร่ ..เสียงปลายสายแจ้งว่าเหตุที่ช้าเพราะรัฐบาลมีการ shutdown อยู่ในช่วงเวลาที่นานมากไปหน่อยเมื่อต้นปี
ยังไงก็ตาม คุณๆสามารถดาวน์โหลดฉบับเต็มๆได้ที่ (ลิ้งค์ในคอนเม้นท์..)
แต่ผมอยากจะออกความเห็นใน highlights บางเรื่อง
ในปีงบประมาณ 2018 รัฐบาลมีการขาดดุลสุทธิถึง $1.16 ล้านล้าน
รัฐบาลลุงแซมเก็บภาษีได้ $3.4 ล้านล้านในปีงบประมาณ 2018 แต่การใช้จ่ายภาครัฐมันสูงไปถึง $4.5 ล้านล้าน
ในจำนวนนี้ เกือบครึ่งเป็นการใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมและสวัสดิการสุขภาพแห่งชาติ...(ยังไม่ได้พูดถึงค่าดอกเบี้ยที่สูงเป็นประวัติการณ์อีก $5.23 แสนล้าน)
ที่นับว่าน่าเป็นเรื่องแปลกก็คือ กองทุนทั้งของสวัสดิการสังคมและสุขภาพแห่งชาติมันจะไม่เหลือเงินอีกเลยใน 15 ปีข้างหน้า ...ถึงแม้จะอัดเงินเข้าไปเกือบครึ่งหนึ่งของงบประมาณประเทศในแต่ละปี ..โปรแกรมสวัสดิการทั้งสองนั้นก็จะต้องเจ๊งจนได้
ที่จริงแล้ว ในหน้าที่ 10 ของรายงาน รัฐบาลได้ประมาณการส่วนที่ยังขาดอยู่ของกองทุนสวัสดิการสังคมในระยะยาวถึง $53.8 ล้านล้าน (ซึ่งเลวร้ายกว่าประมาณการของปีที่แล้วเกือบ 10%)
ถ้าจะมองในอีกบริบทหนึ่ง ..$53.8 ล้านล้านน่ะ มันประมาณได้เท่ากับ 70% ของ GDP โลกเลยนะนั่น ...gap ที่ยังคงขาดของกองทุนมันเลวร้ายได้ถึงขนาดนั้น
แต่มันก็ยังมีเรื่องที่เลวร้ายกว่านั้นอีก
ส่วนหนึ่งของรายงาน รัฐบาลได้แสดงถึงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ในแบบที่บริษัททั่วๆไปทำกันนั่นแหละ
สำหรับอย่างเราๆ ถ้าคุณมีทรัพย์สิน (เช่นบ้าน รถยนตร์ เงินสด การลงทุน หรือลูกหนี้) รวมๆกันสัก $1 ล้าน และมีหนี้สิน (เช่นหนี้บัตรเครดิต หนี้จำนอง) รวมกันสัก $3 แสน ตัวคุณก็ยังมีมูลค่าถึง $7 แสน
รัฐบาลก็มีทรัพย์สินเช่นกัน รวมกันถึง $3.8 ล้านล้าน ..ทรัพย์ที่มากที่สุดคือ ลูกหนี้ กยศ. ถึง $1.08 ล้านล้าน
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทรัพย์สินของรัฐบาลที่มากเป็น #1 คือลูกหนี้ที่เป็นเด็กหนุ่มสาวทั่วประเทศอเมริกา ..น่าเศร้ามาก
ทรัพย์สินที่มากรองลงมา คือสิ่งที่นักบัญชีเรียกว่า PP&E (property, plant, and equipment) อาคารสนง. ที่ดิน โรงงาน และเครื่องจักร ที่ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่ทำการรัฐ อาวุธ เรือรบ ฐานทัพ etc.
สำหรับปีงบประมาณ 2018 มีรายงานถึง เครื่องจักรที่ $5.81 แสนล้าน (ส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักรทางทหาร) และเรียลเอสเตทอีก $5 แสนล้าน
รวมๆแล้ว ทรัพย์สินรัฐบาลที่ $3.8 ล้านล้านฟังดูก็เยอะ ..เว้นแต่ว่าพอไปดูถึงด้านหนี้สินของรัฐบาล ที่มีหนี้มากถึง $25 ล้านล้าน
นั่นทำให้มูลค่าในตัวตนของรัฐบาลติดลบแบบเหลือเชื่อถึง 21.5 ล้านล้าน
มันมากกว่ามูลค่าติดลบ ที่ -$20.3 ล้านล้าน ของเมื่อปี 2017 ...-19.3 ปี 2016 ...-18.2 ปี 2015 ...-17.7 ปี 2014
คุณๆเห็นอะไรใน pattern นี้หรือเปล่า
ถ้าคุณเอาประมาณการของกองทุนสวัสดิการ ที่เรียกว่า unfunded liability ที่ $53.8 ล้านล้าน มารวมกับหนี้ $21.5 ล้านล้าน ...Uncle Sam มีมูลค่าติดลบสิริรวมแล้วเท่ากับ $75 ล้านล้าน ตรงเป๊ะเลยกับขนาดของ GDP ของทั้งโลกเลย
มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ
ผมคงไม่อยู่ในฐานะที่จะมาบอกว่า กำลังจะเกิดวิกฤติทางการเงินแน่ๆ ..ฟ้ายังไม่ถล่ม โลกยังไม่แตกหรอก ...บอกได้แค่ว่า ตัวเลขที่เห็นน่ะมันเกินกว่าความน่ากลัวไปแล้ว และมันก็มากขึ้นทุกๆปี
มันคงไร้เหตุผลที่จะเชื่อว่า จะไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นได้หรอก ...ตลอดในประวัติศาสตร์ของโลก ไม่เคยมีจักรวรรดิ์ใดที่มีภูมิคุ้มกันต่อกฏการเงินแห่งจักรวาลนี้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นจักรวรรดิ์อียิปต์ โรม อ้อตโตมัน ทั้งหมดประสบชะตากรรมเดียวกัน ..การใช้จ่ายและหนี้ที่เกินตัวนำไปสู่การล่มสลายทั้งนั้น
มันคงจะบ้าไปหน่อยถ้าจะเชื่อว่า ครั้งนี้มีความแตกต่าง ..ประเทศเรามีความพิเศษที่แตกต่างจากอาณาจักรอื่นๆในประวัติศาสตร์
คงเป็นการดี ถ้าคุณจะพิจารณาเตรียมการสำหรับความเสี่ยงที่จะเกิดในระยะยาว เพื่อความมั่นใจว่าคุณจะไม่ต้องเผชิญกับผลร้ายที่จะเกิดขึ้น
ลองคิดดูเรื่องสวัสดิการสังคม ที่พวกคณะกรรมการออกมาบอกเองว่าเงินจะหมดในปี 2034 ...ออกรายงานมาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ได้อ่านกันซะด้วย
ถ้ารู้เสียอย่างนี้แล้ว ว่าหนี้ของประเทศนี้จำนวน $22 ล้านล้าน..ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยถึงครึ่งล้านล้านดอลล่าร์ต่อปีจากเงินภาษี ..มันจะเมคเซ้นส์มั้ยถ้าเราจะแยกเงินออมของเราไปไว้ทางอื่น ...ในเมื่อประวัติศาสตร์ก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่า รัฐบาลที่เป็นหนี้มากมายน่ะ หนีไม่พ้นที่จะต้องพิมพ์เงินออกมาทำให้ค่าเงินมันลดลงเรื่อยๆ
การถือครองในทรัพย์สินแท้จริง (โดยเฉพาะสิ่งที่เคลื่อนย้ายได้ เช่นทองคำหรือซิลเวอร์ ..หรือเรียลเอสเตทในต่างประเทศ) สามารถให้การป้องกันความเสี่ยงได้
ปัญหาทุกอย่างมักมีทางออกเสมอ ..แต่ต้องเริ่มที่ ยอมรับว่ามันมีปัญหาแล้ว
ลองคิดดู รัฐบาลกลางสหรัฐเพิ่งประกาศว่า ตัวเองมีมูลค่าที่ติดลบอยู่ถึง $75 ล้านล้าน แล้วทำไมเรื่องนี้ไม่ปรากฏเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในอเมริกาล่ะ
แต่กลายเป็นว่าพวกซอมบี้ผู้รอบรู้ อาจจะรู้อยู่แล้ว แค่พูดว่า "ใช่ มันไม่ดี แล้วไงล่ะ" พวกเขาก็ยังคงเชื่อว่า มันไม่มีผลอะไรหรอก
เป็นการเดิมพันที่อิงกับเหตุผลเหลวไหลที่เสี่ยงมากไปหน่อยนะ....
Cr.Jeerachart Jongsomchai
----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/