นักวิจารณ์ของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) และบรรณาธิการ ทอม แมคเกรเกอร์ บอกกับสปุตนิคว่า ค่าเงินหยวนมีโอกาสที่จะกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ใช้กันระดับโลก แต่อย่างไรก็ตามอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีเพื่อที่นานาชาติจะเห็นว่า
ค่าเงินหยวนจะใช้งานอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมาตรการควบคุมเงินทุนที่รัดกุมของจีน
นายแมคเกรเกอร์ นักวิเคราะห์การเมืองของจีนและบรรณาธิการอาวุโสของสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนกล่าวว่า เงินเหรินหมินปี้ของจีน (RMB) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เงินหยวน อาจจะได้เป็น 1 ใน 3 สกุลเงินที่ใช้กันในระดับโลกในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน หนังสือพิมพ์ South Morning Post คาดการณ์ว่า ค่าเงินหยวนจะแทนที่เงินเยนและเงินปอนด์สเตอลิงเพื่อเข้ามาเป็น 1 ใน 3 สกุลเงินที่ใช้กันในระดับโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า
นายแมคเกรเกอร์กล่าวว่า “เศรษฐกิจของจีนจะเติบโตมากกว่าญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร ด้วยเหตุนี้ค่าเงินหยวนจึงน่าจะเป็นสกุลเงินที่ใช้แลกเปลี่ยนกันในระดับนานาชาติ”
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์กล่าวว่า “ตรรกะนี้อาจจะยังไม่เพียงพอ” เขาอ้างถึงเรื่องที่จีนมีมาตรการควบคุมเงินหยวนที่รัดกุม “ดังนั้นเมื่อคนจีนไปธนาคารเพื่อนำเงินไปเข้าบัญชีต่างประเทศ พวกเขาจะต้องพบกับความท้าทายหลายอย่าง”
แมคเกรเกอร์กล่าวอีกว่า “มันจะเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและรัฐบาลจีนต้องการที่จะทำให้มันเป็นเช่นนั้นเนื่องจากกลัวว่าหากคนจีนทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลงโดยการเอาเงินไปใช้นอกประเทศจะทำให้มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของจีน”
รัฐบาลของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังผลักดันการทำให้ค่าเงินหยวนเป็นสกุลเงินระดับโลก เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2016 เงินหยวนได้เข้าร่วมกับเงินดอลลาร์ ยูโร เยน และปอนด์ในตะกร้าสกุลเงินหลัก (Special Drawing Rights หรือ SDR Basket)
Siddharth Tiwari ประธานฝ่ายกลยุทธ์ นโยบาย และพิจารณาของ IMF แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “การรวมเงินหยวนเข้าไปถือเป็นเรื่องสำคัญในผลรวมของเศรษฐกิจจีนต่อระบบการเงินของโลก ปณิธานของ IMF คือ ค่าเงินหยวนจะสะท้อนให้เห็นถึงการขยายบทบาทของจีนในการค้าขายระดับโลกรวมทั้งการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและการแลกเปลี่ยนในระดับโลกของค่าเงินหยวน”
การทำให้ค่าเงินหยวนเป็นสกุลเงินระดับโลกมีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม แม็คเกรเกอร์กล่าวว่า จีนมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับการซื้อเงินดอลลาร์และเงินยูโรให้มากเข้าไว้ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโรสูงขึ้นอย่างมาก ในทางตรงกันข้าม เขากล่าวว่า “จีนจะไม่กลัวการทำให้ค่าเงินหยวนเป็นสกุลเงินนานาชาติในระยะยาวหรือเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้ในพัฒนาการค้าทวิภาคีและการลงทุนกับประเทศอื่นๆในอนาคต”
“ดังนั้นคุณจะเห็นว่าจีนดำเนินการช้าแต่มั่นคงในเรื่องนี้ ผมคิดว่ากระบวนการเหล่านี้จะดำเนินต่อไปอีก 5-10 ปีก่อนที่ค่าเงินหยวนจะกลายเป็น 1 ใน 3 สกุลเงินระดับโลก”
การยืนยันเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และสงครามอัตราภาษีมีส่วนทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงซึ่งจะทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาลของนายทรัมป์ มีคำถามเกิดขึ้นว่าจีนจะสามารถดำเนินการตามแผนการที่ชัดเจนท่ามกลางความกดดันจากสหรัฐได้หรือไม่
แมคเกรเกอร์กล่าวต่อว่า “จีนต้องการให้ค่าเงินแข็งตัวเพื่อกระตุ้นการนำเข้า”
“พวกเขาต้องการที่จะโน้มน้าวประเทศต่างๆให้เซ็นสัญญาการค้ากับพวกเขา หากจีนมีการนำเข้าที่สูงขึ้น จีนจะสามารถสร้างความเชื่อใจให้กับประเทศคู่ค้าได้”
อย่างไรก็ตาม เขาคาดการณ์ว่า “จากความซับซ้อนของมาตรการควบคุมเงินทุนของจีน นานาชาติจะต้องรออีกหลายปีเพื่อที่จะเห็นว่าเงินหยวนแข็งค่าและใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดโลก”
https://sputniknews.com/analysis/201811131069745282-yuan-top3-currency/
RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย :หมี CNN
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/