1. ตั้งเวลาให้ตรงกับประเทศไทยคือ (GMT+7:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta
2. ไว้สำหรับเลือกวันที่ต้องการดูข่าว
3. เวลาข่าวออก
4. ตระกูลเงินของข่าว
5. ความรุนแรงของข่าว
6. เหตุการณ์ของข่าว
7. ค่าตัวเลขจริงที่ออก
8. ค่าตัวเลขคาดการณ์
9. ค่าตัวเลขครั้งก่อน
เมื่อถึงเวลาข่าวออกตัวเลขค่าจริงจะแสดงออกมาในช่อง Actual ซึ่งจะมีสีแตกต่างกันดังนี้
- ตัวเลขออกเป็นสีเขียวแสดงตัวเลขดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
- ตัวเลขออกเป็นสีแดงแสดงว่าตัวเลขแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้
- ตัวเลขออกเป็นสีดำแสดงว่าตัวเลขเท่ากับค่าที่คาดการณ์หรือใกล้เคียงกับสถิติเดิม (Previous)
สิ่งที่ต้องสนใจในการเทรดข่าว Forex
1. เรื่องค่าสกุลเงิน ถ้าเทรดสกุลไหนก็ต้องสนใจเฉพาะสกุลนั้น เช่นถ้าเราเช่น EUR/USD ก็สนใจเฉพาะข่าวของ USD และ EUR และเราต้องรู้ด้วยว่าถ้าข่าวออกมาจะทำให้ค่าเงินเราขึ้นหรือลง เช่น ถ้าเราเล่น EUR/USD ถ้าข่าวดอลลาร์สหรัฐออกมาดีแสดงคู่เงินที่มี USD อยู่หลังกราฟจะลง แต่ถ้าข่าว USD ออกมาไม่ดีกราฟจะขึ้น ในทางกลับกันถ้าข่าว EUR ออกมาดีกราฟจะขึ้นแต่ถ้าข่าว EUR ออกมาไม่ดีกราฟจะลง
2. เรื่องระดับความแรงของข่าว ระดับความแรงขอข่าวจะมีสามระดับดังรูป
3. ค่าตัวเลขจริงที่ออก(Actual) ถ้าค่าตัวเล่นจริงที่ออกมาต่างจากค่าก่อนหน้า(Previous)มาก ยิ่งมีผลทำให้ค่าเงินวิ่งขึ้นลงแรงมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับความแรงของข่าวด้วย
เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน โดยดัชนี Dow Jones ปิดลบเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวก โดยเฉพาะ Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งนักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของ Nvidia อย่างใกล้ชิด
ราคาสัญญาทองคำในตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นคือความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากนักลงทุน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
บทวิเคราะห์ล่าสุดจาก โกลด์แมน แซคส์ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นใน ทองคำ ว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในระยะยาว โดยพวกเขาคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 104,480 บาทต่อออนซ์) ภายในปี 2025 ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมีดังนี้:
ราคาบิตคอยน์ (BTC) วันนี้ (19 พ.ย. 2567) ปรับตัวขึ้น 0.9% จากราคาเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมีราคาล่าสุดอยู่ที่ 90,853 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,142,605.27 บาท ขณะที่ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.91% ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่องในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (18 พ.ย.) ปรับตัวแตกต่างกันไปในแต่ละดัชนี โดยดัชนี ดาวโจนส์ ปิดลบเล็กน้อย ขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้นในแดนบวก สะท้อนถึงการคาดการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Nvidia และ Tesla ซึ่งได้รับแรงสนับสนุน
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"