ราคาสัญญาทองคำในตลาด COMEX ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทองคำเพื่อลดความเสี่ยง สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 13.60 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 2,572.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5

สำหรับสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธันวาคม ก็ลดลง 9.40 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 30.569 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 50 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 944.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 6.30 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 925.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง กดดันตลาดทองคำในช่วงนี้ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าส่งผลให้ราคาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ทำให้ความน่าสนใจในการถือครองทองคำลดลงสำหรับนักลงทุนต่างประเทศที่ถือสกุลเงินอื่น

ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทำให้พรรครีพับลิกันครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาวและสภาคองเกรส ความเป็นไปได้ที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการลดภาษีของทรัมป์จะถูกผลักดันอย่างรวดเร็ว สร้างแรงกดดันให้เกิดเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นักลงทุนยังคงรอติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในหัวข้อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในงานเสวนาที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส โดยการปิดทำการซื้อขายในตลาดทองคำก่อนการกล่าวสุนทรพจน์นี้ สะท้อนถึงความคาดหวังว่าคำกล่าวของพาวเวลอาจมีผลต่อแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์และตลาดทองคำในอนาคต