ที่จริงแล้วตลาดเหรียญคริปโตได้เริ่มต้นพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 โดย David Chaum ชาวอเมริกัน หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2009 ได้มีนักพัฒนานามแฝง Satoshi Nakamoto ได้ร่วมกันพัฒนาสร้าง Bitcoin และในปี ค.ศ. 2017
ตลาดเหรียญคริปโตได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และมีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลราคาเหรียญคริปโตต่างๆปรับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่น บิทคอยน์ปรับขึ้นเกือบถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบันหลายประเทศ และหลายธุรกิจสามารถได้ออกกฎหมายและอนุญาตให้ใช้สกุลเงินดิจิตอลในการใช้จ่าย และเทรดได้จริง เช่น ญี่ปุ่น, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย ฯลฯ ประเทศไทยเราเองก็กำลังจะออก พรก. เช่นเดียวกัน แม้กระทั่งจีน ที่เคยแบนและสั่งปิดการซื้อ-ขายคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศทั้งหมด เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 ก็กำลังจะพัฒนาเหรียญคริปโตของตนเอง
ก่อนจะเข้าเทรดในตลาดเหรียญคริปโต ควรทำความเข้าใจก่อนว่าตลาดนี้เป็นตลาดใหม่ที่มีความผันผวนสูงมาก ทุกปัจจัยส่งผลกระทบต่อราคาคริปโตเคอเรนซี่ และในปัจจุบันมีข่าวทั้งแง่ดี และแง่ร้ายออกมา มีทั้งนักลงทุนที่ยังลงทุนในตลาดนี้แม้ว่าราคาจะร่วง และมีนักลงทุนที่ออกจากตลาดนี้หลังราคาปรับลดลงมาก จากประสบการณ์ นักลงทุนในตลาดเหรียญคริปโต มี 3 ประเภท คือ
1. นักลงทุนที่เชื่อในอนาคตของสกุลเงินดิจิตอล ซึ่งจะซื้อและถือโดยไม่ขาย แม้จะมีปัจจัยไม่ดีใดๆเข้ามากระทบ
2. นักลงทุน ที่ยังไม่เชื่ออย่างสนิทใจ จะมีการขายทิ้ง เมื่อเกิดข่าวแรงๆขึ้น และก็จะกลับมาซื้อใหม่ เมื่อข่าวนั้นสิ้นสุดลง
3. นักเก็งกำไร คือคนที่ไม่เชื่อและไม่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดเหรียญคริปโต แต่ต้องการที่จะสร้างกำไรเท่านั้น โดยมักจะเลือกสกุลเงินเกิดใหม่ที่ยังมีราคาต่ำๆ
โดยส่วนตัวมองว่า ตลาดเหรียญคริปโตอยู่ได้ เพราะนักลงทุนที่ยังคงทำการซื้อ-ขายในตลาดนี้ แม้ว่ามูลค่าของตลาดจะปรับลดลงมากกว่า 70% เช่นบิทคอยน์ปรับลดจากจุดสูงที่เกือบ 20,000ดอลลาร์ ลงมาต่ำสุดถึง 6,000ดอลลาร์, อีเธอเรียม ปรับลดลงจากจุดสูงสุดที่ 1,400กว่า ดอลลาร์ ล่าสุดในเดือนมีนาคม 2018 ลดต่ำสุด 360 ดอลลาร์ เป็นต้น
ข้อแนะนำเบื้องต้น ก่อนเริ่มการลงทุนในเหรียญคริปโต
• ควรเข้าใจว่าในหลายประเทศยังไม่มีกฎหมายรองรับ ดังนั้นหากมีข่าวสำคัญต่างๆ จะเกิดการแกว่งตัวแรง เช่น จีนสั่งปิดตลาดเหรียญคริปโตในประเทศทั้งหมด เมื่อกันยายน 2017 และปี 2018 นี้ มีหลายประเทศที่ออกกฎหมายมารองรับเพิ่ม แต่ก็มีบางมาตรการที่เข้มงวดจนกลายเป็นผลเสียแทน
• นักลงทุนควรเข้าใจว่าราคาของสกุลเงินดิจิตอล อาจสามารถปรับลดและหมดมูลค่า ได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่มีการเพิ่มมูลค่าได้อย่างรวดเร็ว
• เนื่องจากว่าตลาดเหรียญคริปโตเป็นตลาดใหม่ที่ได้รับความสนใจมาก แต่ในปัจจุบันยังเป็นที่ถกเถียงทั่วโลก แนวโน้มหลักของสกุลเงินต่างๆ คือ แนวโน้มลง
• การเลือกสกุลเงินดิจิตอล ส่วนตัวแนะนำให้เลือกสกุลเงินที่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่นิยม อาจจะดูจากส่วนแบ่งการตลาด แต่นักเก็งกำไรมักจะเลือกสกุลเงินเกิดใหม่ เพื่อหวังว่าจะมีการปรับขึ้นที่แรง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนให้มากที่สุด
โดย นิรมล นิตย์นิธิพฤทธิ์ (นักวิเคราะห์การเงิน, Olymp Trade)
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman