เงินทุนไหลออกจากจีนไม่หยุดและเร็วที่สุดในรอบ 7 ปี กำลังกดดันค่าเงินหยวนมากขึ้น หลังสถิติการไหลออกสะสมวันที่ 7 สิงหาคม – 9 ตุลาคม พุ่ง 2.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นอัตราที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของระบบ Stock Connect ที่เป็นระบบเชื่อมโยงระหว่างตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่กับตลาดหุ้นฮ่องกง
ปัญหาเงินทุนไหลออกจากจีนเริ่มรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศยังคงซบเซา หากจีนยังคงติดกับดักนี้อาจสะเทือนถึงระบบเศรษฐกิจ แม้ว่าบรรดานักเศรษฐศาสตร์จะประเมินไว้ว่า การเติบโตของ GDP ไตรมาส 3 จะพลิกกลับมาสดใสขึ้นเล็กน้อยก็ตาม
สำนักงานบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแห่งชาติจีน (State Administration of Foreign Exchange) ระบุว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมาธนาคารในประเทศขายสุทธิเงินหยวนออกมา 1.94 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นอัตราที่มากที่สุดหากนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนครั้งรุนแรง รวมไปถึงเงินทุนจากลูกค้าของธนาคารต่างๆ ไหลออกกว่า 5.39 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังต่างประเทศ ถือเป็นการไหลออกครั้งใหญ่เมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2016 หรือในรอบ 7 ปี
Goldman Sachs ระบุอีกว่า การไหลออกเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกันยายน ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2016 และเรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 80% จากเดือนสิงหาคม
ทั้งนี้ ปัญหาเงินทุนไหลออกจากจีนกำลังสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าลงในเดือนนี้ ทั้งตลาดหลักทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งค่าเงินยังอยู่ห่างจากจุดต่ำสุดของปีไม่ถึง 1%
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงส่วนหนึ่งกำลังสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของในและต่างประเทศ ที่ธนาคารกลางจีนได้คงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในอีกด้านอาจเป็นการทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรสหรัฐฯ และจีนกว้างขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่มากที่สุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า ในช่วงเดือนกันยายนยังพบด้วยว่า การไหลออกของเงินทุนจีนเป็นการไหลออกทั้งจากบัญชีเดินสะพัดและบัญชีเงินทุน ซึ่งมีปัจจัยทั้งจากการขาดดุลภาคบริการ การลงทุนทางตรงที่ซบเซา รวมถึงการไหลออกที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้กองทุนต่างประเทศยังลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลจีนลง 1.35 หมื่นล้านหยวน (หรือ 1.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยการถือครองหนี้ทั้งหมดลดลงเหลือ 2.07 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021
รวมไปถึงตลาดหุ้นจีนที่ซบเซาก็ส่งผลกระทบเช่นกัน โดยกองทุนทั่วโลกขายหุ้นจีน 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการซื้อ-ขายกับฮ่องกงที่มากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน และสะท้อนค่าดัชนี CSI 300 ที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำที่สุดครั้งใหม่ของปีนี้ รวมถึงดัชนี Shanghai Composite ลดลงต่ำกว่า 3,000
อย่างไรก็ตาม Morgan Stanley ออกมาเตือนว่า ตลาดหุ้นในประเทศเข้าสู่ช่วงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และกองทุนทั่วโลกอาจเทขายไปจนกว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม
สำหรับสถิติเงินทุนไหลออกสะสมวันที่ 7 สิงหาคม – 9 ตุลาคม รวมมูลค่า 2.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นอัตราที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ผ่านระบบ Stock Connect ที่เชื่อมโยงระหว่างตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่กับตลาดหุ้นฮ่องกง
โดย เสาวลักษณ์ เขตสูงเนิน
Source: Standard Wealth
Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you