China Evergrande ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหนี้มากที่สุดในโลกและกลายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีน ได้ยื่นคำร้องขอความคุ้มครองจากเจ้าหนี้ในศาลล้มละลายของสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี
บริษัทขอความคุ้มครองภายใต้มาตรา 15 ของประมวลกฎหมายล้มละลายของสหรัฐฯ ซึ่งคุ้มครองบริษัทนอกสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างจากเจ้าหนี้ที่หวังจะยื่นฟ้องหรืออายัดทรัพย์สินในสหรัฐฯ ขณะที่ Tianji Holdings ซึ่งเป็น บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ได้ขอการคุ้มครองมาตรา 15 ในวันพฤหัสบดีที่ศาลล้มละลายแมนฮัตตันเช่นกัน
การยื่นคำร้องขอความคุ้มครองของ Evergrande เกิดขึ้นท่ามกลางความกลัวที่เพิ่มขึ้นว่าปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจแพร่กระจายไปยังภาคส่วนอื่น ๆ ของเศรษฐกิจของประเทศเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลง นับตั้งแต่วิกฤตหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเริ่มต้นในช่วงกลางปี 2564 บริษัท Evergrande ซึ่งมีสัดส่วน 40% ของยอดขายบ้านในจีนได้เริ่มผิดนัดชำระหนี้
ขณะที่สถานการณ์ของ Country Garden ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีน ทำให้นักลงทุนกังวลเช่นกัน หลังจากที่บริษัทผิดนัดการจ่ายดอกเบี้ยบางส่วนในเดือนนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ Evergrande มีหนี้สิน 330 พันล้านดอลลาร์ การผิดนัดชำระช่วงปลายปี 2564 ก่อให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ต่อเนื่องไปยังผู้สร้างรายอื่น ส่งผลให้มีบ้านสร้างไม่เสร็จจำนวนมากทั่วประเทศจีน
เมื่อเดือนที่แล้ว Evergrande ประกาศผลการขาดทุนรวม 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 และ 2565 ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของแผนการปรับโครงสร้างหนี้ที่บริษัทเสนอเมื่อเดือนมีนาคม ในวันจันทร์ หน่วยยานยนต์ไฟฟ้า China Evergrande New Energy Vehicle Group ก็ได้ประกาศการปรับโครงสร้างที่เสนอเพื่อลดหนี้เช่นกัน โดยแผนดังกล่าวเรียกร้องให้มีการแลกเปลี่ยนหนี้เป็นทุน 2.7 พันล้านดอลลาร์และการขายหุ้นเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ซึ่งจะทำให้กลุ่ม NWTN ของดูไบเข้ามามีสัดส่วนการถือหุ้น 27.5% โดยการซื้อขายหุ้นใน China Evergrande ถูกระงับในเดือนมีนาคม 2565
ทั้งนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ทรงพลังและมีส่วนสนับสนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในอัตราส่วนถึงเกือบ 1 ใน 4 เป็นฟันเฟืองการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ประสบภาวะฟองสบู่หลังมีการเก็งกำไรอย่างหนัก และการปล่อยกู้ที่มากเกินไป ส่งผลให้บรรดาผู้กู้ทั้งหน่วยงานรัฐในท้องถิ่น บริษัทพัฒนาอสังหาฯ และประชาชนต้องแบกหนี้ในสัดส่วนที่สูงจนไม่สามารถบริหารจัดการได้
แม้ล่าสุดธนาคารกลางจีนได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.15% สู่ระดับ 2.50% เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไว้ที่ระดับ 2.65% รวมทั้งยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (reverse repurchase rate) ระยะ 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 1.8% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่หลายฝ่ายมองว่ามาครการดังกล่าว ยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซาได้
Source: Posttoday
Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you