เมื่อสภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนจากช่วงขยายตัวเป็นหดตัว จะมีเหตุการณ์เกิดเรียงกันเป็นชุด

สัญญานแรกๆที่จะเห็นคือ การเพิ่มขึ้นอย่างเกินคาดของสต้อกสินค้าคงคลังที่ขายไม่ออก พร้อมกับผลสำรวจทางธุรกิจที่แสดงว่า ดีมานด์ค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่อง ...สำหรับนักการเงิน ยังจะเห็นการคอนเฟิร์มด้วย inverted yield curve

เราเห็นกันตั้งแต่ปี 2007 แล้วว่าตลาดกำลังจะควบคุมไม่ได้

มีโอกาสที่จะร่วงลงถึง 50% หรืออาจถึง 90% ก็ได้ และจะนำไปสู่วิกฤติการเงินตามด้วยวิกฤติเศรษฐกิจได้ ...แต่ก็ไม่เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลมีการพิมพ์เงินใหม่ออกมาเป็นตัน ไม่ใช่แค่อเมริกัน แต่มีทั้งยูโร ญี่ปุ่น จีน และประเทศเล็กๆอื่นๆ

ทำให้เงินเฟียตของตนหมดค่าจนอำนาจซื้อเหลือศูนย์

คุณเขียนในตอนต้นของบทความว่า ธนาคารกลางทั่วทั้งโลก หรือที่เรียกว่า "ธนาคารของร็อธไชล์ด" รวมถึง Fed มีการเตรียม endgame ไว้ล่วงหน้า นั่นคือทำให้เงินเฟียตของตนหมดค่าจนอำนาจซื้อเหลือศูนย์

 "การล่มสลายทางเศรษฐกิจ​ปี​1929, ที่กำลังจะกลับมา"

... ในตอนนั้นดารานักแสดง​ คนมีชื่อเสียงเช่น​ชาลี​แชปปิ้น, ออกมาเป็นพรีเซนเตอร์ดึงดูดให้คนรุ่นหนุ่มสาวมาลงทุนในตลาดหุ้นและซื้อพันธบัตรและลุ่มหลงภาคภูมิใจในวิถีความสมัยใหม่และความหอมหวานของตลาดเหล่านั้น​

 "ทรัมป์"ตำหนิ"พาวเวล"ปล่อยดอลล์แข็ง เป็นเหตุภาคการผลิตต่ำสุดรอบกว่า 10 ปี

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ โจมตีนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี และหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.ย.

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"