รัฐบาลไทยเตรียมความพร้อมเต็มที่ก่อนการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกาในวันที่ 23 เมษายนนี้ ภายใต้การนำของ “ทีมไทยแลนด์” โดยมีเป้าหมายลดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง 50% ภายใน 5 ปี พร้อมเสนอ 5 ข้อหลัก เพื่อสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในลักษณะ “Win-Win”

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย โดยมั่นใจในความพร้อมของทีมและข้อเสนอที่ผ่านการเตรียมการอย่างละเอียด เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีทั้งต่อไทยและสหรัฐฯ

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า การเจรจาครั้งนี้จะเกิดขึ้นในระดับรัฐมนตรี โดยฝั่งสหรัฐฯ จะมีนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นตัวแทนเจรจา ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวก เนื่องจากรมว.คลังของสหรัฐฯ มีท่าทีสนับสนุนการเจรจากับประเทศคู่ค้าเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) โดยเฉพาะการขึ้นภาษีสินค้าจีน

ข้อเสนอ 5 ข้อของไทย ประกอบด้วย:

1. ความร่วมมือในธุรกิจอาหารแปรรูป: ใช้จุดแข็งของทั้งสองประเทศร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร โดยนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปและส่งออกต่อ

2. เพิ่มการนำเข้าสินค้าจำเป็นจากสหรัฐฯ: เช่น น้ำมันดิบ LNG อีเทน เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และสินค้าเกษตร เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง เนื้อวัว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์

3. เปิดตลาด-ลดอุปสรรคทางการค้า: ลดภาษีนำเข้ากว่า 11,000 รายการภายใต้ระบบ MFN ลงประมาณ 14% พร้อมลด NTBs และเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ เช่น เชอรี่ แอปเปิ้ล ข้าวสาลี

4. บังคับใช้กฎหมายถิ่นกำเนิดสินค้าเข้มงวด: ป้องกันการสวมสิทธิ์ “Made in Thailand” จากสินค้าประเทศที่สาม เพื่อรักษาภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในตลาดสหรัฐฯ

5. ส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ: สนับสนุนภาคเอกชนขยายการลงทุนในกลุ่มพลังงาน เช่น โครงการ LNG ในอลาสก้า และฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่ โดยปัจจุบันมีการลงทุนไทยในสหรัฐฯ กว่า 70 แห่ง สร้างงานแล้วกว่า 16,000 ตำแหน่ง

การเจรจาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษี reciprocal tariff ออกไป 90 วัน ถือเป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสสำหรับประเทศต่าง ๆ ในการยื่นข้อเสนอที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการภาษีดังกล่าว โดยไทยหวังว่าข้อเสนอที่ครอบคลุมทั้งมิติการค้า การลงทุน และความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ จะช่วยลดภาษีที่ถูกตั้งไว้ถึง 36% และยกระดับความสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

คลิก

Cr.กรุงเทพธุรกิจ

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo