วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ

การส่งสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนกันยายนนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางของตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดจากสถานการณ์นี้:

 

  1. ตลาดการเงิน: การลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคตจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการทำให้ต้นทุนการกู้ยืมต่ำลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจและผู้บริโภค การคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% มีผลกระทบให้ผลตอบแทนพันธบัตรลดลง เนื่องจากนักลงทุนอาจมองว่าการลดดอกเบี้ยจะทำให้ผลตอบแทนจากพันธบัตรน้อยลง

  2. ตลาดหุ้น: การลดอัตราดอกเบี้ยมักจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น เนื่องจากต้นทุนการเงินที่ลดลงช่วยเพิ่มกำไรให้กับบริษัทและทำให้หุ้นดูน่าสนใจขึ้น เมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ นักลงทุนมักจะหันมาลงทุนในหุ้นเพื่อหารายได้จากส่วนต่างของราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น

  3. ค่าเงิน: การลดดอกเบี้ยของเฟดอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่น ซึ่งอาจส่งผลให้สินค้าส่งออกของสหรัฐฯ มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น แต่ก็อาจทำให้การนำเข้ามีราคาแพงขึ้น

  4. เงินเฟ้อ: หากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายของเฟดที่ 2% การลดอัตราดอกเบี้ยอาจเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะที่รักษาอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกินไป

การที่นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 87.5% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดคาดหวังให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในทิศทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น

บริบทของการลดอัตราดอกเบี้ยและผลกระทบที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนและการโยกย้ายเงินลงทุน:

  1. หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี: การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Nasdaq และดัชนีเซมิคอนดัคเตอร์ (SOX) อาจไม่ได้เกิดจากผลประกอบการที่ดีของบริษัท แต่เกิดจากความคาดหวังในอนาคตเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย การลดดอกเบี้ยมักจะช่วยเพิ่ม Valuation ของหุ้นเทคโนโลยีซึ่งมักจะมีการเติบโตที่สูงและคาดหวังรายได้ในอนาคต

  2. การโยกย้ายเงินลงทุน: การลดอัตราดอกเบี้ยในระยะกลางถึงยาวจะเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายพันธบัตร เช่น กลุ่มไฟฟ้าและกองรีทส์ (REITs) ซึ่งมักจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะเห็นการขายทำกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงและการโยกเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) เช่น เงินเยนแข็งค่า

  3. การปรับกลยุทธ์การลงทุน: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนจากการโยกย้ายเงินลงทุน การมองหาโอกาสในกลุ่มที่มีโมเมนตัมกำไรดี (เช่น สื่อสาร, อาหาร, และค้าปลีก) จะเป็นกลยุทธ์ที่ดี ขณะเดียวกันควรระวังกลุ่มที่อาจประสบปัญหาจากการปรับประมาณการกำไรลง

  4. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย: กลุ่มที่มีลักษณะคล้ายพันธบัตร เช่น กลุ่มไฟฟ้าและรีทส์ (REITs) น่าจะเคลื่อนไหวได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ลดอัตราดอกเบี้ย การลงทุนในกลุ่มเหล่านี้อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในระยะสั้น

การติดตามความผันผวนของตลาดและการเปลี่ยนแปลงในสภาวะการลงทุนสามารถช่วยในการปรับกลยุทธ์และทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอน

แนวโน้มตลาด

  • แนวรับและแนวต้าน: แนวรับที่ 1,310 จุดและแนวต้านที่ 1,331 จุด แสดงถึงระดับสำคัญที่อาจมีการเคลื่อนไหวของตลาด การติดตามระดับเหล่านี้จะช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าหรือออกจากตลาด

  • สัดส่วนการลงทุน: การมีเงินสด 40% และพอร์ตหุ้น 60% อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการกระจายความเสี่ยงและรับมือกับความผันผวนของตลาด

หุ้นแนะนำ

  • CPN (62 บาท): แนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้รับประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยและการเติบโตของนักท่องเที่ยว พร้อมการมีส่วนแบ่งจากการขายที่หลากหลาย เป็นหุ้นที่แนะนำให้พิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 54 บาท

  • RATCH (36 บาท): ผลประกอบการแข็งแกร่งจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปีนี้ 8 เท่า และปันผล 6% จุดตัดขาดทุนที่แนะนำคือ 27 บาท

  • 3BBIF (6.50 บาท): กองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย การปรับโครงสร้างในกลุ่ม GULF-INTUCH เป็นปัจจัยบวกในระยะยาว ตัดขาดทุนที่ 5.35 บาท

  • CPALL (63 บาท): หุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีก คาดผลประกอบการปี 2567 เติบโต 29% ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ตัดขาดทุนที่ 55 บาท

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • เฟด: การคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25-5.50% และสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 2567 เป็นปัจจัยบวกที่อาจช่วยกระตุ้นตลาดหุ้น

  • แบงก์ชาติญี่ปุ่น: การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ 0.25% และลดการซื้อพันธบัตร อาจส่งผลต่อค่าเงินเยนและการเคลื่อนไหวของตลาดในเอเชีย

  • นโยบายของรัฐบาลไทย: การเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบเพิ่มเติมและโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง

  • ธปท.: การหารือเรื่องเกณฑ์จ่ายขั้นต่ำสำหรับธุรกิจบัตรเครดิตอาจมีผลกระทบต่อภาคการเงิน

  • MAGURO: การเปิดแบรนด์ใหม่และสาขาใหม่ในทำเลบ้านหรูเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการขยายตลาด

  • หุ้นแนะนำเพิ่มเติม: CPN และ ONEE เป็นหุ้นที่แนะนำให้ซื้อ โดยมีเป้าหมายราคาที่ 83 บาทและ 6.2 บาท ตามลำดับ

กลยุทธ์การลงทุน

การลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยและการกระตุ้นเศรษฐกิจ (เช่น กลุ่มค้าปลีก, พลังงาน, และกองรีทส์) เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ในขณะเดียวกัน ควรระมัดระวังความผันผวนจากการโยกย้ายเงินลงทุนและปัจจัยที่อาจกระทบต่อการลงทุนในระยะสั้น

การติดตามข้อมูล Non-Farm Payrolls (NFP) สำหรับเดือนกรกฎาคมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่เฟดและนักลงทุนใช้ประเมินสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และอาจมีผลกระทบต่อทิศทางของนโยบายการเงินและตลาดทุนโดยรวม:

ปัจจัยที่ต้องติดตาม:

  1. การสร้างงาน: จำนวนงานที่เพิ่มขึ้นหรือหายไปในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสะท้อนถึงสุขภาพของตลาดแรงงาน หากมีการสร้างงานมากกว่าคาดการณ์อาจหมายถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าต่ำกว่าคาดการณ์ อาจบ่งบอกถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงาน

  2. อัตราการว่างงาน: อัตราการว่างงานที่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นเป็นอีกตัวชี้วัดที่สำคัญ หากอัตราการว่างงานลดลง อาจหมายถึงความต้องการแรงงานที่เพิ่มขึ้น

  3. ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมง: การเปลี่ยนแปลงในค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงจะช่วยให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างเฉลี่ยมักบ่งบอกถึงความร้อนแรงในตลาดแรงงานและสามารถเพิ่มความกดดันต่อเฟดในการปรับอัตราดอกเบี้ย

  4. การเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรม: การเปลี่ยนแปลงในจำนวนงานในภาคต่างๆ เช่น การบริการ, การผลิต, การก่อสร้าง, และอื่นๆ อาจช่วยให้เข้าใจแนวโน้มที่หลากหลายในเศรษฐกิจ

  5. การตอบสนองของตลาด: ผลลัพธ์ของ NFP มักจะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น, ตลาดพันธบัตร, และค่าเงิน หากข้อมูลออกมาดีกว่าคาดการณ์ อาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจและกระตุ้นการเคลื่อนไหวในตลาด

การติดตามข้อมูล NFP จะช่วยให้คุณมีข้อมูลที่จำเป็นในการปรับกลยุทธ์การลงทุนและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นในบริบทของนโยบายการเงินและความเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"