ดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย,S&P500-Nasdaq ทำนิวไฮ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (3 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

เป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,308.00 จุด ลดลง 23.85 จุด หรือ -0.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,537.02 จุด เพิ่มขึ้น 28.01 จุด หรือ +0.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,188.30 จุด เพิ่มขึ้น 159.54 จุด หรือ +0.88%
สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแอเกินคาดเมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 48.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 จากระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.5 โดยได้รับผลกระทบจากการลดลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.5% ในเดือนพ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและการชะลอตัวของอุปสงค์
หลังสหรัฐเปิดเผยรายงานดังกล่าว ข้อมูลจาก LSEG FedWatch บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มวัสดุ พุ่งขึ้น 1.48% และ 0.81% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.73% และ 0.12% ตามลำดับ
ดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) ปรับตัวขึ้น 1.92% โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบรอดคอม ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ และหุ้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) บริษัทผลิตชิปสัญญาจ้างรายใหญ่ของไต้หวันซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 6.5% โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันอังคาร หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 443,956 คัน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 439,000 คัน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนมิ.ย.
*ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดี (4 ก.ค.) เนื่องในวันชาติสหรัฐ*

 

คลิก 

Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"