เติมเงินดิจิทัล

ไหนๆก็มีการนำเสนอเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล กลับมาเป็นนโยบายสำคัญ เพื่อจะใช้กระตุกเศรษฐกิจที่ดึงอย่างไรก็ยังโงหัวไม่ขึ้นเกินกว่า 2.5% เสียที จึงอยากจะโฟกัสประเด็นนี้ให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นอีกนิดว่า ถ้ารัฐบาลจะทำเรื่องนี้จริงๆ ประชาชนอย่างเราๆ

ต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้ได้เงิน 10,000 บาท/หัว โดยไม่ตกหล่น ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือจะมีโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทโฟนใช้ไหม
อย่างแรกขอทวนความจำกันนิดว่า นโยบายนี้เป็นของพรรคเพื่อไทยที่ประสงค์จะเติมเงินในกระเป๋าคนไทยคนละ 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยามนี้ให้ผู้คนมีความสามารถในการจับจ่ายอันเป็นการกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนการบริโภคภายในประเทศในช่วงสั้นๆ คือต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน และในรัศมีที่พักอาศัย 4 กิโลเมตร(ปรับเปลี่ยนรัศมีได้ตามสภาพพื้นที่)
คนที่เข้าข่ายจะได้รับเงินดิจิทัลจะต้องเป็นบุคคลตามเลขที่ลงทะเบียนไว้ อายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
หะแรกของการสำรวจจำนวนคนที่จะได้รับเงินดิจิทัลนี้มีมากกว่า 55 ล้านคน สิริรวมวงเงินที่ต้องใช้อยู่ระหว่าง 550,000-560,000 ล้านบาท
หลายคนบอกว่า นโยบายนี้จะทำให้ไทยล้มละลาย กลายเป็นเวเนซุเอลา ซึ่งใช้นโยบายประชานิยมจนไม่ดูเงินในกระเป๋า และต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาแจกจ่ายให้ประชาชนเพื่อรักษาคะแนนเสียงตัวเองไว้ ประเทศไทยก็เช่นกัน ไม่มีเงินมากขนาดนั้น แถมรัฐบาลที่ผ่านมายังกู้เงินเกินตัวไปถึง 10 ล้านล้านบาทแล้ว
ทีนี้เงินจะมาจากไหนผู้บริหารเพื่อไทยแจกแจงว่า 1.สำรวจแล้วพบว่างบประมาณรายจ่ายปี 2567 จะมีเงินเหลือเพื่อลงทุนอยู่ราว 270,000 ล้านบาท เงินจำนวนนี้จะเริ่มเติมเข้ากระเป๋าคนไทยคนละ 5,000 บาท ในเฟสแรกได้ในช่วงเดือน เม.ย.ปีหน้า
2.เงินอีกส่วนจะมาจากรายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้นหลังมีการใช้จ่ายหมุนเวียนกลับมา 6 เท่า รวมกับการตัดงบซื้อยุทโธปกรณ์ และครุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น
ประเด็นนี้ ทีมเศรษฐกิจพรรคยอมรับว่า ที่สุดพวกเขาต้องนำเงินรายได้จากการเก็บภาษีมาใช้ เพราะทุกวันนี้ประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ภาครัฐยังมีรูโหว่มหาศาลเทียบสัดส่วนกันจะพบว่ามีคนไทยไม่ถึง 10 ล้านคนเท่านั้นที่เสียภาษีเงินได้เพื่อเลี้ยงประชากรประเทศอยู่ 67 ล้านคน ทำไมเราไม่เฉลี่ยทุกข์สุขกันล่ะ
ส่วนจะทำให้เงินที่เป็นธนบัตรตามกฎหมายมาผูกกับเงินดิจิทัลได้อย่างไร ต้องหารือกับแบงก์ชาติว่าด้วยความเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับ "บาทดิจิทัล" ที่กำลังทำอยู่ และถึงเวลาหรือยังที่จะยอมรับให้ใช้เงินดิจิทัลพร้อมกำหนดค่าให้ใช้ในประเทศไทยได้
ยิ่งเมื่อกำหนดให้เอาระบบ Blockchain เข้ามาใช้เพื่อป้องกันความผิดพลาดการโอนเงินทางการคลัง และตรวจสอบย้อนหลังได้ ก็จะยิ่งทำให้เกิดการกระจายเครือข่ายอินเตอร์เน็ตออกไปในพื้นที่ห่างไกลมากขึ้นและใช้ระบบบล็อกเชนเพื่อการส่งผ่านข้อมูลความรู้ความเจริญสู่ท้องถิ่นทั่วประเทศได้ด้วย
กลับมาที่เรา เราจะรับเงินจำนวนนี้ได้ก็โดยเข้าไปเปิดแอปพลิเคชันเหมือนการใช้แอปฯเป๋าตังถ้าไม่มีสมาร์ทโฟนก็ใช้บัตรประจำตัวประชาชนไปติ๊ดกับเครื่อง QR-Code ที่มีอยู่ในร้านค้าทั่วไปได้เหมือนโครงการต่างๆที่แบงก์กรุงไทยพัฒนาขึ้นมา
ความคืบหน้าของเงินดิจิทัลจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไรจะมาบอกเล่ากันอีกทีวันหน้า.
คอลัมน์ กระจก 8 หน้า: มิสไฟน์
Source: ไทยรัฐ

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"