Nvidia : โต๊ะร้านกาแฟข้างทางสู่ค่ายชิปล้านล้านดอลลาร์แห่งแรก

จากคำที่ห่างไกลชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องเพ้อฝัน และเหมือนว่าจะอยู่เฉพาะในนิยาย ซีรีส์หรือหนังวิทยาศาสตร์ ทว่า ตั้งแต่ปลายปี 2022 เป็นต้นมาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ขยับมาใกล้ตัวมากขึ้น หลัง ChatGPT เปิดตัวและปล่อยให้ใช้ได้ฟรี

ChatGPT ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดแรงงาน ทำให้ชาวออฟฟิศต้องเร่งอัปเกรดตัวเองก่อนถูก AI แย่งงาน และกระตุ้นให้เหล่าบริษัทกลุ่มยักษ์เทค ทั้ง Google และ Baidu พัฒนา AI ของตัวเองให้ เพื่อไม่ให้ถูก ChatGPT ที่ Microsoft หนุนหลัง ทิ้งห่างไปมากกว่า
ความคึกคักในแวดวง AI อย่างไม่เคยมีมาก่อน ยังมีประเด็นเกี่ยวเนื่องที่น่าสนใจ โดยทำให้ความต้องการชิปชั้นสูงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทที่ได้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆ คือ Nvidia ที่กำลังมู่งสู่การเป็นบริษัทชิปแห่งแรกที่มูลค่าบริษัทสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์
Nvidia ก่อตั้งขึ้นหลัง Jensen Huang ชาวไต้หวันที่มาใช้ชีวิตในสหรัฐฯ ตั้งแต่เด็กจนได้สัญชาติอเมริกัน และทำงานเป็นวิศวกรชิปของ AMD ได้ไปคุยกับเพื่อนวิศวกรชิปต่างบริษัทอีก 2 คน เรื่องการตั้งบริษัทชิป ในร้านกาแฟ Denny’s
การพูดคุยดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 1993 และหลังตกลงกันได้ ทั้ง 3 ก็ตั้ง Nvidia ขึ้น โดยเน้นผลิตชิปชั้นสูงใช้ในวิดีโอเกม การสร้างภาพกราฟิก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ รวมไปถึง AI แนวทางดังกล่าวได้และช่วยให้ Nvidia เติบโตต่อเนื่อง จนทำ IPO ได้ในปี 1999
Nvidia ยังโตได้อีก ทั้งในเรื่องนวัตกรรมและองค์กร ท่ามกลางการคว้าเงินทุนจากบริษัทใหญ่ ๆ เช่น เงิน 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,000 ล้านบาท) จาก Microsoft มาพัฒนาชิป พอปี 2007 Forbes ก็ยกย่องให้เป็นบริษัทแห่งปี
ปี 2017 คว้าดีลสำคัญ โดย Toyota และ Baidu ใช้ชิปชั้นสูงของ Nvidia ในโครงการพัฒนารถขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ แต่ปี 2022 ต้องเซพอสมควร หลังเกิดปัญหาชิปกราฟิกขาดแคลน และดีลฮุบค่ายชิป ARM ของอังกฤษต้องล่มไปเพราะรัฐบาลอังกฤษสั่งแบน เพราะเห็นเป็นการผูกขาด
มาปีนี้สถานการณ์ของ Nvidia ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมูลค่าบริษัทเพิ่มต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ท่ามกลางความต้องการชิปชั้นสูงไปใช้ในการพัฒนา AI ซึ่ง ChatGPT ได้จุดชนวน
ศุกร์ที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา มูลค่าบริษัทของ Nvidia เพิ่มเป็น 940,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 32.7 ล้านล้านบาท) และภายในปีนี้น่าจะเป็นบริษัทชิปแห่งแรกในโลกที่มูลค่าบริษัทแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์
เพราะความต้องการตลาดชิปชั้นสูงและราคาสูง ในบริษัทกลุ่มยักษ์เทคที่ต้องแข่งกันพัฒนา AI มีแต่จะเพิ่มขึ้น ๆ และ AI เป็นตลาดนวัตกรรมที่ถูกจับตามองมากสุดตลอดปีนี้ แทนที่ Metaverse
นักวิเคราะห์หุ้นเทคโนโลยีบางส่วนถึงขนาดกล่าวว่าตอนนี้ Nvidia คือบริษัทเทคโนโลยีที่น่าลงทุนมากสุด ช่วงตลาด AI บูม แซงหน้า Facebook Amazon Netflix และ Google หรือที่เรียกรวมว่า หุ้นกลุ่ม FANG แล้ว
และหากอยากเป็นบริษัทที่ทันสมัยและดันราคาให้เพิ่มขึ้น ก็ต้องลงทุนกับ AI หรือเป็นบริษัทเชื่อมโยงกับตลาด AI ยืนยันได้จากปีนี้ราคาหุ้น Microsoft ขึ้นไปแล้วถึง 36%
และราคาหุ้นปีนี้ C3.ai บริษัท AI ที่พัฒนาแอป AI ให้หลายบริษัทแต่คนนอกธุรกิจแทบไม่รู้จัก พุ่งขึ้นมาถึง 156%
ส่วนภาวะฟองสบู่ของหุ้นบริษัทกลุ่ม AI หรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง คงยังไม่เกิดขึ้นช่วง 2-3 ปีจากนี้ เพราะ AI ถือเป็นแกนหลักของเทคโนโลยีแห่งอนาคต แบบเดียวกับ Big data และความปลอดภัยด้านออนไลน์ ซึ่งยังพัฒนาได้อีกมาก
โดย: siwaritemarketeer
Source: marketeeronline

Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"