พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อส.ค. พุ่ง 7.86% ตามราคาพลังงาน คาดถึงจุดสูงสุดแล้ว

พาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ส.ค. 65 อยู่ที่ 7.86% ตามราคาพลังงาน ย้ำเป็นตัวเลขจุดสูงสุดแล้ว คาดหลังจากนี้ทยอยลดลง ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 3.15% ด้านทั้งปี มองยังอยู่ในกรอบ 5.5-6.5%

นายณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธ์ศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปส.ค. 65 อยู่ที่ 7.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากราคาพลังงาน และฐานการคำนวณเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างต่ำ ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไป 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) อยู่ที่ 6.14% ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ส.ค.อยู่ที่ 3.15% และ 8 เดือนอยู่ที่ 2.16%
ทั้งนี้ คาดว่าเงินเฟ้อของไทยน่าจะถึงจุดสูงสุดแล้ว เนื่องจากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา การขึ้นของเงินเฟ้ออยู่ในระดับใกล้เคียงกัน หรืออย่างน้อยอัตราเงินเฟ้อจะทรงตัว นอกจากนี้ เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจการค้าอื่น ทั้งดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งปีประเมินว่า เงินเฟ้อทั่วไปยังคงอยู่ในกรอบที่ 5.5-6.5%
สำหรับปัจจัยสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นราคาพลังงานที่เติบโตถึง 30.50% แม้ราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์จะปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า แต่ราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม และค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นต้นทุนการขนส่งและต้นทุนการผลิตที่สำคัญยังคงอยู่สูง รวมทั้งค่าบริการ เช่น ค่าโดยสารสาธารณะ และค่าการศึกษาที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าในหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายรายการสินค้าที่ปรับลดลง เช่น ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เสื้อและกางเกง น้ำยารีดผ้า น้ำยาถูพื้น เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
“อัตราเงินเฟ้อไม่น่าจะเพิ่มสูงขึ้นแล้ว จากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป มิ.ย.-ส.ค.ใกล้เคียงกันมาก ซึ่งหากติดตามเงินเฟ้อจะมีหลายสำนักคาดการณ์ว่าเกิน 8% แต่เดือนก่อนหน้ายังไม่เกิน 8% เป็นสัญญาณทรงตัวหรือชะลอตัวลง และราคาสินค้าและบริการส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค. แต่ทยอยปรับเพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพของประชาชน และปรับในระดับที่สมเหตุสมผล”นายณรงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบัน พบว่า การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในช่วงที่ผ่านมา เป็นการทยอยปรับราคาอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ขึ้นราคาสินค้าในทุกหมวดพร้อมกันในทันที เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค และสร้างความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภค โดยที่คาดว่าราคาสินค้าและบริการจากนี้ไปจะเริ่มทรงตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายลดภาระค่าครองชีพของกระทรวงพาณิชย์ที่ร่วมกับภาคเอกชน
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่นอกเหนือจากสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ราคาพลังงานดีดตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ก๊าซธรรมชาติ และค่าไฟฟ้า ส่งผลต่อต้นทุนการขนส่งและการผลิตสินค้า รวมทั้งความรุนแรงของอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น
Source: สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"