กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากอาจเป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นของจีนอย่างมาก หากภาครัฐไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานจากการอ้างอิงบทวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ โดยระบุว่า

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ปรับตัวลดลงกว่า 12% ในปีนี้ และนักเศรษฐศาสตร์หลายคนยังหั่นเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ลงเหลือต่ำกว่า 3% จากมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลจีน และธุรกิจกลุ่มอสังหาฯ ที่ทรุดตัวลงเป็นปัจจัยที่ฉุดการเติบโต โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนคาดไว้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 25.5% ในปีนี้
ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ความกังวลในกลุ่มผู้ซื้อบ้านต่อความสมบูรณ์ของโครงการนำมาซึ่งปัญหาอันใหญ่หลวงให้แก่กลุ่มอสังหาฯ ซึ่งความกังวลก็ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งหมด
เดิมที นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่ารัฐบาลจีนจะเข้ามาช่วยเหลือทันที ซึ่งจะมีเงินทุนวงเงินสูงเพื่อช่วยผู้พัฒนาโครงการให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้จนสมบูรณ์ และจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับการขายบ้าน และราคาในครึ่งปีหลังนี้
อย่างไรก็ตาม หากเงินทุนก้อนนี้น้อยเกินไป หรือมาตรการอื่น ๆ ยังถูกจำกัดอยู่ นักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นของจีนจะได้รับปัจจัยเชิงบวกที่น้อยลง
จากการทำ Stress-Test ของมอร์แกน สแตนลีย์ เพื่อดูผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับจีนจากประเด็นดังกล่าว นักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นอาจปรับตัวลดลงอีกถึง 20% จากระดับปัจจุบันในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้านี้ และอาจคงระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่งหากแรงกดดันที่ใช้ทำแบบสำรวจยังคงอยู่ นอกจากนั้นแล้ว นักวิเคราะห์ยังมองว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอาจช้าลงอย่างมาก ทำให้ GDP เฉลี่ยในปี 2566 จะอยู่ที่ 2% และอาจส่งผลให้คนมากกว่า 11 ล้านคนต้องตกงาน โดยอัตราการว่างงานในเมืองจะพุ่งขึ้นสูงกว่า 7% ซึ่งลูกจ้างในกลุ่มการก่อสร้าง ที่พัก และบริการจัดทำอาหารจะถูกเลิกจ้างมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนยังไม่ได้ออกมาตรการช่วยเหลืออย่างเป็นทางการเพื่อช่วยเหลือผู้พัฒนาอสังหาฯ ในการดำเนินโครงการอพาร์ทเมนท์ให้สมบูรณ์
มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าความต้องการบ้านพักในระยะยาวจะลดลง 30% ในช่วงระหว่างปี 2563-2573 โดยจะส่งผลให้ความต้องการด้านวัสดุงานก่อสร้าง และเครื่องใช้ในบ้านต่าง ๆ ลดลง 10-15%
นอกจากนั้นแล้ว การชะลอตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยจะฉุดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลง 0.1% ทุก ๆ ปี หลังจากที่เคยเป็นตัวแปรสำคัญที่ดันการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ถึง 1% ต่อปีในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยยอดขายบ้านในปี 2564 มีอัตราการเติบโตถึง 20% และมีมูลค่ารวมถึง 18 ล้านล้านหยวน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของจีน
หนึ่งในหลายผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ หนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 17% ในปี 2548 เป็น 62% ในปี 2563 ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศใหญ่ ๆ ที่พัฒนาแล้ว
มอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า มูลค่ายอดขายบ้านปรับตัวลดลงถึง 40% เมื่อสิ้นสุดไตรมาสสอง ปี 2565 เมื่อเทียบจากจุดสูงสุดที่ผ่านมาของปี โดยคิดเป็นการลดลงถึง 8 ล้านล้านหยวน และกล่าวว่า แนวโน้มกลุ่มอสังหาฯ ในระยะสั้นยังดูน่าเป็นห่วงอยู่ โดยเฉพาะจากการล็อกดาวน์เพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงไตรมาสสอง
Source: ข่าวหุ้น
เพิ่มเติม
- Chinese stocks could plunge by 20% if real estate troubles get much worse, Morgan Stanley says :

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you