เอเวอร์แกรนด์ ชำระหนี้หุ้นกู้เฉียด 5 พันล้านบาท

“ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” ยักษ์อสังหาริมทรัพย์จีน เลี่ยงสถานะผู้ผิดนัดชำระหนี้ได้สำเร็จในนาทีสุดท้าย แหล่งข่าวเผยนักลงทุนได้รับค่าดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่เลยกำหนดเรียบร้อยแล้ว
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 รอยเตอร์สรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ไชน่า เอเวอร์แกรนด์

บริษัทอสังหาฯ ที่มีหนี้มากที่สุดในโลก ไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันกำหนด เนื่องจากมีหนี้สินมากกว่า 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 9.88 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.2 แสนล้านบาท เป็นหนี้จากหุ้นกู้ต่างประเทศ
ล่าสุดสื่อจีนรายงานว่า เอเวอร์แกรนด์ได้ชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3 ชุด ให้กับนักลงทุนแล้ว เป็นมูลค่ารวมกว่า 148 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 4,866 ล้านบาท
การชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดแรก เกิดขึ้นในช่วงสิ้นสุดระยะผ่อนผัน 30 วัน ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้ชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศอีก 2 ชุด ซึ่งชุดหนึ่งครบกำหนดเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน และอีกชุด ระยะเวลาผ่อนผันสิ้นสุดลงเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเช่นกัน
อย่างไรก็ดี หากเอเวอร์แกรนด์ล้มเหลวหาเงินมาชำระดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง บริษัทจะกลายเป็นผู้ผิดสัญญาทันที ซึ่งจะนำไปสู่เงื่อนไขการผิดนัดชำระหนี้แบบไขว้ (Cross Default)
ขณะที่หุ้นกู้ประเภทอื่น ๆ ของเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งกำลังเร่งให้วิกฤตหนี้ลุกลามไปทั่วประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้ในหลายตลาดทั่วโลก
“ดูเหมือนจะมีการแก้ปัญหาระยะสั้นเกิดขึ้น แต่ยังอีกยาวไกลกว่าปัญหานี้จะคลี่คลาย นี่เป็นวันแรก ๆ เท่านั้น” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของปัญหาสภาพคล่องในภาคอสังหาฯจีน ที่มีมูลค่าประมาณ 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 164 ล้านล้านบาท ยังไม่ตอบคำถามกับรอยเตอร์สเรื่องการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ครั้งล่าสุด
แม้บริษัทแห่งนี้จะสามารถเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้ได้อีกครั้ง แต่คราวเคราะห์ในภาคอสังหาฯจีนก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะคลี่คลาย หากภาระหนี้สินเวียนมาครบกำหนดชำระอีกครั้ง
เอเวอร์แกรนด์มีหุ้นกู้มูลค่ากว่า 255 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 8,400 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดชำระดอกเบี้ยในวันที่ 28 ธันวาคม นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับแรงกดดันจากเจ้าหนี้รายอื่น ๆ รวมถึงเงินลงทุนที่ตึงตัว ที่ทอดเงาทับโครงการที่พักอาศัยหลายร้อยแห่งของบริษัท
นักลงทุนได้พากันโยกเงินลงทุนไปยังบริษัทพัฒนาอสังหาฯรายอื่นที่เงินขาดมือไม่ต่างกัน และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศระยะสั้น หนึ่งในนั้นคือ “ไคซา กรุ๊ป”
ไคซาเป็นบริษัทอสังหาฯจีน ที่มีหนี้นอกประเทศมากที่สุด เป็นรองเพียงเอเวอร์แกรนด์เท่านั้น ไคซามีกำหนดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้รวมกว่า 59 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,944 ล้านบาท ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้
ไคซา ซึ่งกลายเป็นบริษัทอสังหาฯรายแรกของจีนที่ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ต่างประเทศเมื่อปี 2558 ได้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่งมาแล้วหลายครั้ง
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้ออกมาเตือนว่าภาคอสังหาฯที่กำลังประสบปัญหาของจีน อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่าทางการจีนจะมีแผนระดับชาติเพื่อแก้ปัญหานี้หรือไม่
ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลของจีนพยายามสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ซื้อบ้าน โดยระบุว่า ความเสี่ยงต่าง ๆ นั้น สามารถควบคุมได้ และธนาคารหลายแห่งกำลังผ่อนคลายสินเชื่อบ้านที่เคยเข้มงวดลง
หลายหน่วยงานและรัฐบาลจีนได้จัดประชุมร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาฯหลายแห่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะทำให้นโยบายสินเชื่อในตลาดอสังหาฯผ่อนคลายลง เพื่อป้องกันภาวะหดตัวอย่างรุนแรงในตลาดนี้
การชำระดอกเบี้ยของเอเวอร์แกรนด์ทำให้เกิดบรรยากาศผ่อนคลายทั่วตลาดหุ้นอสังหาฯจีน โดยตลาดหุ้น A-share ของจีน พุ่งขึ้นเกือบ 8% ส่วนตลาดหุ้นฮั่งเส็งของฮ่องกง มีการซื้อขายเพิ่มขึ้นกว่า 3% โดยหุ้นของเอเวอร์แกรนด์ที่จดทะเบียนในฮ่องกง พุ่งขึ้น 5.5% เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"