"อเมริกาหาเรื่องอิหร่าน : จะทำให้น้ำมันแพงนานกว่าที่คิด?"

... ความตึงเครียดระหว่าง​อิหร่านและอเมริกา อาจจะทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นนานกว่าที่คิดไว้ ... ข่าวจาก CNBC วิเคราะห์ว่า นอกจากปัจจัยของทั้งสองชาติแล้ว เมื่อประกอบกับข่าวก่อนหน้านี้ เช่น "สงครามการค้าจีน อเมริกา"

ไม่ใช่อีก 95% ที่เราเรียกกันว่า "มืออาชีพ" พวกนั้นเลย ...Money ...ซึ่งก็คือทองคำนั่นแหละ เป็นสิ่งที่ทำให้มีการจำแนกความชำนาญ..แรงงานการผลิต และทำให้มนุษย์เราไม่ต้องใช้วิธีการแลกเปลี่ยน (barter) มาใช้ในการค้า ทำให้เกิดการค้าเสรีซึ่งเชื่อมโยงมนุษยชาติทุกเผ่าพันธ์เข้าไว้ด้วยกัน  ในระบบของธนาคารกลางที่ใช้เงินกระดาษมาเป็น money แบบไม่มีอะไรหนุนอิง..ซึ่งตรงข้ามกับระบบมาตรฐานทองคำ ...ธนาคารกลางสามารถแทรกแซงเงินโดยทำให้มันเสื่อมค่า (debasement) หรือบิดเบือนได้ง่ายๆ หรือแม้แต่การก่อให้เกิดวงจรธุรกิจที่โหดร้าย  Murray Rothbard อธิบายไว้ในหนังสือของเขา What Has Government Done To Our Money? ถึงผลร้ายของการที่รัฐแทรกแซงระบบการเงินไว้ว่า  ..."....รัฐบาลที่เข้าไปยุ่งกับระบบการเงินไม่เพียงนำการกดขี่มาสู่โลกเท่านั้น แต่ยังนำความวุ่นวายสับสนมาด้วย มันทำลายความสงบสุขของตลาดโลก และผลผลิต ทำให้การค้าเกิดความเชื่องช้าจากข้อกำหนดหยุมหยิมมากมายที่เกิดจาก การควบคุมและการปริวรรติเงินตรา มันทำให้เกิดกรณีพิพาทของกลุ่มประเทศจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจลามเป็นสงครามได้...." **  ในขณะที่มาตรฐานทองคำสร้างประสิทธิภาพที่ดีต่อเศรษฐกิจ ....มันยังได้สร้างจริยธรรมจนน่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ทองคำอยู่ยืนยงเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนมาได้ยาวนาน ...ทองคำในฐานะ money ถูกสร้างจากมูลค่าของมัน มูลค่าจากการใช้แรงงาน..ทุน..และความเสี่ยงในเหมืองในการผลิต ...การแปลงให้เป็นเหรียญทองคำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะ ..ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการผลิตที่ซื่อสัตย์และถูกต้อง  แต่การตราธนบัตรจากการพิมพ์..หรือการคีย์เข้าจากเครื่องคอมพิวเตอร์..หรือการขยายเครดิต โดยไม่มีมูลค่าอะไรอ้างอิงของธนาคารกลาง ไม่อาจตรวจสอบได้ในเชิงจริยธรรม ..มองยังไง ธนาคารกลางก็ไม่ถูกต้องทำนองคลองธรรม จากการเพิ่มเงินในระบบ และลอบส่งผ่านจนสร้างความร่ำรวยให้กับผู้ควบคุมปริมาณเงินของโลกและผู้ที่เกี่ยวข้อง  สิ่งที่ธนาคารกลางทำไปในเรื่องการเพิ่มเงินและเครดิตตามอำเภอใจ นับเป็นแผนการส่งผ่านความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยรับรู้ กระบวนการนี้ยิ่งไปถ่างความขัดแย้งระหวางชนชั้นทั้งด้านฐานะและอิทธิพลทางการเมืองของทั้งสองชนชั้นให้มากยิ่งขึ้น  แต่ภายใต้มาตรฐานทองคำ ...เรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย  การค้าของโลกถูกโฟกัสอย่างผิดๆว่าเป็นแฟคเตอร์ของการเสื่อมสลายอย่างต่อเนื่องของชนชั้นกลางและล่าง จากทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ของพวก nationalist ..จีนจึงไม่พ้นที่จะถูกกล่าวหาว่าสร้างความไม่เป็นธรรม ดังที่เห็นในแคมเปญของ ปธน.ทรัมพ์ตอนนี้  โฟกัสดังกล่าวหันเหความสนใจจากมูลเหตุของเศรษฐกิจเลวร้ายของชนชั้นกลางและความมั่งคั่งของพวกวอลล์สตรีท จากการลดดอกเบี้ยของ Fed มาตั้งแต่ปี 2008 ....จนแม้ขนาดนี้..ฝ่าย nationalist ก็ยังคงชื่นชมนโยบายขึ้นภาษีของปธน.ทรัมพ์  ฝ่ายซ้ายก็ยังคงพูดถึงความไม่เป็นธรรมและความแตกต่างทางฐานะที่เพิ่มมากขึ้น แต่ก็เหมือนกับอีกฝ่าย พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น  money ต้องถูกสร้างจากฐานของจริยธรรมเท่านั้น ระบบในปัจจุบันจะต้องถูกเปิดเผยถึงความฉ้อฉลของมัน ที่สร้างความมั่งคั่งเฉพาะกลุ่มอิลิทและนักการเมือง  มาตรฐานทองคำเท่านั้นที่จะขจัดความไม่เท่าเทียมที่แพร่กระจายอยู่ทั่วโลกจาการริเริ่มของ ...ธนาคารกลาง !  **Murray N. Rothbard, What Has Government Done To Our Money? BN Publishing, 2012: 84.  Cr.Sayan Rujiramora  เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !! http://line.me/ti/p/%40zhq5011b   Line ID:@fxhanuman Web : https://www.fxhanuman.com FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/  #forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

ไม่ใช่อีก 95% ที่เราเรียกกันว่า "มืออาชีพ" พวกนั้นเลย ...Money ...ซึ่งก็คือทองคำนั่นแหละ เป็นสิ่งที่ทำให้มีการจำแนกความชำนาญ..แรงงานการผลิต และทำให้มนุษย์เราไม่ต้องใช้วิธีการแลกเปลี่ยน (barter) มาใช้ในการค้า

ปี 2019 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งเรื่องตลกมากมาย ตอนนี้ ปี 2020 เป็นปีแห่งการเอาผู้ผิดทั้งหลายมาลงโทษ

ทั้ง liars ..cheaters ..stealers ...เรามีระบบการเงินที่เกินจะแก้ไข ระบบการศึกษาเราก็น่าตลก เราอยู่กับฟองสบู่ everything bubble ที่น่าตลก ...ตอนนี้ผมคิดว่าเราจะได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้ว เห็นอนาคตของพวกแบ้งเกอร์แล้ว

“จีน : ปั้นมาเก๊า เป็นศูนย์กลางการเงิน การท่องเที่ยว ถ้าฮ่องกงแย่”

... “จีน” ได้มอบหมายให้ธนาคารและรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล ช่วยเร่งจัดสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานใน “มาเก๊า” เพื่อช่วยเหลือการกระจายตัวทางการเงินและเพื่อใช้เป็น “แผนฉุกเฉิน” หากสถานการณ์ใน “ฮ่องกง” แย่ลง

“นักลงทุนหอบเงินหนีประท้วงฮ่องกง 50,000 ล้าน เข้าทางตะวันตก”

หลังจากประท้วงมาหลายเดือนผลไม้พิษที่เริ่มปลูกเพาะชำในหมู่อาจารย์ นักศึกษา สื่อมวลชนบางกลุ่ม ก็เริ่มออกผล ทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติเริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์ในการประท้วงที่ฮ่องกง ทำให้ “นักลงทุนหอบเงินกองทุนหนีไปแล้วกว่า 50,000 ล้านดอลล่าร์”

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"